เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงกรณีรูปแบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งไม่เหมือนกัน และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในส่วนของบัตรโหล หรือ บัตรแบบแบ่งเขตที่มีแต่หมายเลขของผู้สมัคร ไม่มีโลโก้และชื่อของพรรคการเมือง อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อ่านหมายเลขไม่ออก และไม่สามารถเลือกจากโลโก้พรรคได้ ขณะที่บัตรเลือกตั้งที่แบบบัญชีรายชื่อ มีข้อมูลครบถ้วน ทั้งชื่อพรรค โลโก้พรรค และหมายเลขของพรรค
เลขาฯ กกต. ระบุว่า บัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง แม้จะเป็นพรรคเดียวกันแต่เป็นคนละหมายเลข (เบอร์ ) เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
กกต.เป็นเพียงผู้กำหนดรูปแบบบัตรให้เป็นไปตามกฎหมายเท่านั้น โดยรูปแบบบัตรเลือกตั้ง นับแต่มีการเลือกตั้งในประเทศไทยมาจนถึงปัจจุบัน มีรูปแบบบัตรที่ใช้เลือกตั้งอยู่ 3 ประเภท คือ
1. บัตรที่มีเฉพาะหมายเลข (เบอร์) ผู้สมัคร หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่าบัตรโหล จะไม่มีรายชื่อผู้สมัครแต่อย่างใด ทุกการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในประเทศไทยใช้บัตรเลือกตั้งแบบนี้มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่มีเฉพาะแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ก่อนรัฐธรรมนูญ ปี 2540 หรือมีการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ หลังปี 2540 ก็ตาม หมายความว่า ไม่เคยมีชื่อผู้สมัครในบัตรเลือกตั้งแต่อย่างใด
2 .บัตรมาตรฐานแบบบัญชีรายชื่อ คือ บัตรที่มีหมายเลขผู้สมัคร (เบอร์) มีสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายของพรรคการเมือง และมีชื่อพรรคในบัตรเลือกตั้ง เริ่มใช้บัตรเลือกตั้งรูปแบบนี้นับแต่รัฐธรรมนูญ ปี 2540 เป็นต้นมา ทุกการเลือกตั้งก็จะใช้บัตรเลือกตั้งนี้มาตลอด
3. บัตรเลือกตั้งแบบเฉพาะ เกิดขึ้นใน ปี 2562 ตามหลักการของรัฐธรรมนูญ บัตรเลือกตั้งรูปแบบนี้ จึงผสมกันระหว่างบัตรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อไว้ด้วยกันในใบเดียว มี 350 แบบ ตามจำนวนเขตเลือกตั้ง
ในบัตรจะประกอบด้วยข้อมูล หมายเลขผู้สมัคร (เบอร์) ของผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง สัญลักษณ์หรือเครื่องหมายพรรคการเมือง ชื่อพรรคการเมือง แต่ก็ไม่มีชื่อของผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในบัตรแต่อย่างใด
สำหรับบัตรเลือกตั้งปี 2566 แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อ นายแสวง ระบุว่า จะใช้บัตรมาตรฐาน เหมือนการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา เว้นแต่ ปี 2562 ที่ใช้บัตรเฉพาะตามรัฐธรรมนูญ โดยข้อดีของบัตรมาตรฐานแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มีความชัดเจนแตกต่างจากบัตรแบบบัญชีรายชื่อ กล่าวคือ
นอกจากสีจะต่างกันแล้ว องค์ประกอบภายในบัตรก็จะต่างกัน ทำให้ประชาชนสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ไม่สับสน เพราะบัตรประเภทหนึ่งมีเพียงหมายเลข ไม่มีตัวหนังสือ และสัญลักษณ์ใด ต่างจากบัตรอีกประเภทหนึ่งมีครบทั้ง 3 อย่าง เป็นการป้องกันบัตรเสียอันเกิดจากความสับสนลักษณ์นี้อีกทางหนึ่งด้วย
อีกทั้งยังประหยัดงบประมาณเป็นจำนวนมาก เพราะบัตรมาตรฐานพิมพ์ พร้อมกันในครั้งเดียว แต่บัตรแบบเฉพาะเขต ต้องสั่งพิมพ์ 400 ครั้ง ตามจำนวนเขต เมื่อปริมาณพิมพ์ต่อครั้งมีจำนวนน้อย จะทำให้ค่าพิมพ์ต่อครั้งใช้เงินจำนวนมากขึ้น และสะดวกในการบริหารจัดการ นำเวลาที่ต้องมาทำงานธุรการ อาทิ การส่งให้ตรงกับเขต กรณีเป็นแบบเฉพาะ ถ้าส่งผิดเขตจะใช้แทนกันไม่ได้ การพิมพ์บัตรสำรองในแต่ละเขต ก็ต้องมีสำรองครบตามจำนวนเขต เพราะใช้แทนกันไม่ได้ เป็นต้น ทำให้สามารถนำเวลาที่เหลือจากงานธุรการไปทำงานอื่นให้เกิดประโยชน์คุ้มค่ามากกว่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง