หนุ่มเผย ฝันเห็นเจดีย์3ครั้ง ก่อนมาขุดเจอ “เศียรนาคราชพันปี” เตรียมส่งสำนักศิลปากรตรวจสอบ
วันที่ 20 เม.ย.2566 เพจอุทยานประสาสตร์พนมรุ้ง บุรีรัมย์ ได้โพสต์ ภาพและข้อมูลว่ามีชาวบ้านพบโบราณวัตถ บริเวณผิวดิน ภายในสถานีตำรวจภูธรโนนเจริญ ต.โนนเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมในวัฒนธรรมขอมโบราณ จนเป็นที่ฮือฮาในโซเชียล ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าบริเวณด้านหลัง สภ.โนนเจริญ พบหินลักษณะเป็นรูปร่างคล้ายพญานาค ฝังอยู่ผิวดิน มีชาวบ้านที่ทราบข่าวมากราบไหว้ขอโชคลาภไม่ขาดสาย
สอบถามนายจักรกฤต ดวงวงษา อายุ 27 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน และเป็นคนไปพบเป็นคนแรก เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยบวชเป็นเณรที่วัดในหมู่บ้านได้ 6 ปี และบวชเป็นพระอีก 7 ปี ก่อนจะสึกออกมาได้ไม่นานมานี้ จำได้แม่นว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2565 ตนฝันว่ามีแสงไฟพุ่งออกมาจากปราสาทสีเขียว อยู่บริเวณด้านหลังสถานีตำรวจโนนเจริญ แต่ไม่ได้คิดอะไร กระทั่งเมื่อวันที่ 30 มี.ค.2566 ก็ฝันแบบเดียวกันอีก จึงเริ่มจะมีความรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างจะมาบอกกล่าว
และเมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้ฝันแบบเดียวกันอีกครั้ง คราวนี้เริ่มจะมีความรู้สึกคล้อยตาม อยากจะออกตามหาจุดที่ฝัน จนกระทั่งวันนั้นตนไปเก็บผักขี้เหล็กหลังโรงพัก เกิดมีอะไรดลใจ ให้เดินไปหาจุดๆหนึ่ง จากนั้นตนได้เอามือคุ้ยเขี่ยธรรมดาอยู่บนผิวดิน ปรากฎว่าเจอก้อนหินขนาดเท่าฝ่ามือ จึงพยายามคุ้ยเขี่ยลงไปอีก จนพบว่าเป็นรูปร่างคล้ายพญานาค จึงกลับไปเอาเสียมที่บ้าน พร้อมชวนคนมาด้วยกันอีก 2-3 คน มาขุดดู พบว่าเป็นหินรูปร่างคล้ายเศียรพญานาค จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
-แห่อาลัย “หลินฮุ่ย” ตั้งโต๊ะแถลงการตาย แจงเลือดไหลออกจมูกก่อนดับ
ด้านนาย ภาคภูมิ อยู่พูน หัวหน้าวนอุทยานประวัติศาตร์พนมรุ้ง กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งได้เข้าไปตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าเป็นลักษณะหินสลัก ทำมาจากหินทราบ สลักเป็นรูปนาคราช เป็นชิ้นส่วนของหน้าบัน น่าเป็นส่วนมุมด้านซ้ายหรือด้านขวาก็ได้ ซึ่งจะต้องยกออกมาจากพื้นดินก่อนจึงจะทราบแน่ชัด
สำหรับโบราณวัตถุชิ้นนี้ มีขนาดความกว้าง 50 ซม.ยาว 61 ซม.สูง 21 ซม. มีลักษณะคล้ายชิ้นส่วนประดับสถาปัตยกรรม ในวัฒนธรรมขอมโบราณ ส่วนปลายยกรอบหน้าบัน รูปนาค 5 เศียร สลักจากหินทราย ลักษณะเศียรนาค ทำเป็นนาคเศียรโล้น คาดว่าอาจจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ทำการบันทึกภาพ เก็บข้อมูล เพื่อทำบันทึก นำเสนอไปยังสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ทราบ เพื่อพิจารณาและดำเนินการในลำดับต่อไป