ไม่เคยอยู่ในสายตา…ท่า “ซารางเฮโย” ไม่เป็นผล…โจ๋ปากน้ำเหิมสุด ๆ เปิดฉากไล่ยิงคู่อริต่างสถาบัน ซัดกันนัวที่ป้ายรถเมล์ มีทั้งมีดและปืน ถูกจับได้ เพื่อน ๆ 2ฝั่งมาให้กำลังใจ เจอหน้ากันในโรงพักปรี่เข้าตะลุมบอนกันนัวต่อหน้าต่อตาตำรวจเฉย
หลัง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เชิญชวนเด็กอาชีวะ ทำสัญลักษณ์ชูมือไอเลิฟยู หรือทำท่าซารางเฮโยแทนการตีกัน ล่าสุดดูเหมือนจะไม่เป็นผล เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ร.ต.อ.รัฎชพล ศรีนอก ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุนักเรียนอาชีวะไล่ยิงกัน ด้านหลังสำนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากโรงพักเพียง 100 เมตร นำกำลังไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบนายวรวิทย์ ผุดผ่อง อายุ 23 ปี นักเรียนโรงเรียนเทคโนแห่งหนึ่งถูกยิงด้วยปืนเข้าที่ขาและหลังเท้า นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด โดยพบปืนขนาด .38 ตกอยู่พร้อมปลอกกระสุน นอกจากนี้ยังมีมีดปลายแหลมตกอยู่ 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ผู้บาดเจ็บกำลังยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์กับนายชลิต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี จากนั้นมีคู่อริต่างสถาบัน ขี่ จยย.โฉบมา พร้อมพูดจาท้าทาย ก่อนคนซ้อนท้ายเปิดฉากยิงเข้าใส่ 4 นัดแล้วหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตามจับ 2 คนร้าย คือนายภานุเดช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี เจ้าของปืน และนายปราโมทย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี นักศึกษาเทคโนโลยีราชมงคลแห่งหนึ่ง คนยิงผู้บาดเจ็บ
ทั้งนี้นายปราโมทย์ ให้การอ้างว่า ขี่รถ จยย. ผ่านมาแล้วพูดจาท้าทายกัน ก่อนนายชลิตจะชักมีดออกมาแทงที่ขานายภานุเดชจนล้มลง จากนั้นตรงเข้ามาทำร้ายตน ทำให้ตนต้องป้องกันตัวด้วยการดึงปืนจากเอวนายภานุเดช ออกมายิงคู่อริ 4 นัดซ้อน และหลบหนีไป เบื้องต้นนายชลิตถูกตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยใช้อาวุธมีด และพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ส่วนนายปราโมทย์ โดนแจ้งข้อหาใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ และยิงปืนในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่นายภานุเดช ถูกแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนถูกส่งตัวดำเนินคดีตามกฏหมาย
ต่อมาขณะที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.สมุทรปราการ กำลังฝึกแถวกันอยู่ จู่ ๆ มีเด็กอาชีวะทั้งสองฝ่ายได้ยกพวกมาที่โรงพัก เมื่อเจอหน้าต่างฝ่ายต่างไม่พูดมากปรี่ตรงเข้าหาใช้มีดและปืนยิงเปิดฉากต่อสู้กันต่อหน้าต่อตาตำรวจ ทำเอาต้องรีบเข้าระงับเหตุจับกุมนักเรียน-นักเลงได้เพิ่มเติมอีกหลายราย ก่อนแจ้งข้อหาร่วมกันทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันต่อหน้าเจ้าพนักงาน พร้อมคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตามเหตุดังกล่าวสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่คิดว่ากลุ่มนักเรียน-นักเลงจะกล้ามาก่อเหตุยกพวกตีกันถึงในโรงพักขนาดนี้
ที่มา – เดลินิวส์
