พบแล้ว! ด.ญ.13 ปี ที่หายตัวจากงานเทกระจาดที่โคราช พบสภาพอิดโรย-มีรอยบอบช้ำ ให้การว่าไปกับเพื่อนที่รู้จักกันทางเฟสบุ๊ค ถูกลวงไปกักขังขืนใจ
จากที่ได้มีการแชร์ภาพของหญิงสาวที่สวมชุดเนตรนารี แล้วเขียนข้อความว่า ผู้ใดพบเห็นกรุณาแจ้งให้ศูนย์มูลนิธิสว่างเมตตา044-230888 เด็กหญิงเอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ใส่ชุดสีดำจุดขาว กางเกงยีนขาสั้น พลัดหลงจากญาติที่มารับข้าวสารอาหารแห้งในงานเทกระจาดที่มูลนิธิสว่างเมตตานครราชสีมา และมารดา อายุ 41 ปี ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 15.15 น.วันที่ 25 ส.ค.59 นายสุเทพ ณัฐกานต์กนก ประธานกู้ภัยสว่างเมตตานครราชสีมา ได้พาแม่และญาติพี่น้องนำเด็กหญิงเอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ที่หายตัวไปภายในงานเทกระจาดของมูลนิธิสว่างเมตตา เมื่อวันที่ 23 ส.ค.59 ทีผ่านมา เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามการค้ามนุษย์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พ.ต.ท.พัฐพน ศิริวัฒน์ สารวัตรสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา ที่ห้องสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อเข้าให้ข้อมูลหลังจากที่ได้หายตัวไปนานกว่า 2 วัน ด้วยสภาพร่างกายที่อิดโรย และมีร่องรอยบอบช้ำตามร่างกายและบริเวณที่ลำคอ หลังจากที่ได้มีผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่บ้านหนองหญ้าขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา นำตัวมาส่งให้กับครอบครัวที่บ้านตำบลโนนค่า อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา เมื่อช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. ของวันที่ 25ส.ค.59
มารดา (สงวนชื่อ นามสกุล) เปิดเผยว่า ขณะนั่งอยู่ในบ้าน ได้มีชายสูงอายุ บอกว่าเป็นผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่บ้านหนองหญ้าขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา พบเห็นเด็กหญิงเอ๋ ที่ปรากฏในข่าวว่าได้หายตัวไป พบว่ากลุ่มวัยรุ่นเป็นวัยรุ่นในพื้นที่ จึงได้มีการติดตามจนกระทั่งพบว่ามีชาวบ้านนั้นนำเด็กหญิงเอ๋ ออกมาส่งให้กับผู้ใหญ่บ้าน สอบถามบ้านก่อนที่จะนำตัวมาส่งให้กับทางครอบครัว และได้ลูกกลับคืนมาก็รู้สึกดีใจ แต่อย่างไรก็ตามตนเองยืนยันว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่ล่อลวงลูกสาวตนเองไปกระทำชำเราให้ถึงที่สุด
จากการสอบถามเด็กหญิงเอ๋ เปิดเผยว่า ตนเองนั้นได้เดินทางไปกับเพื่อนที่รู้จักกันผ่านทางโปรแกรมเฟสบุ๊ค ได้เพียงไม่นานและได้มาเจอกันที่งานเทกระจาด และหลังจากนั้นเพื่อนชายที่รู้จักก็ได้ชักชวนให้นั่งรถยนต์กระบะไปขับรถเล่นประมาณ 10 คนมีทั้งผู้ใหญ่และเยาวชนแล้วหลังจากนั้นก็ได้ขับพาไปยังบ้านหลังหนึ่ง ที่อำเภอสีคิ้ว จากนั้นก็ได้กักขังตนเองไว้ภายในห้อง โดยไม่ได้ให้กินอาหาร ก่อนที่จะลงมือกระทำชำเราตลอด 2 วัน 1 คืน
พ.ต.อ.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องส่งตัวเด็กหญิงเอ๋ ตรวจร่างกายเพื่อหาร่องรอยของการถูกข่มขืนหรือถูกทำร้ายร่างกาย อีกทั้งก็จะต้องทำการสอบสวนเพื่อเติม โดยการสอบสวนนั้นก็จะต้องมีเจ้าหน้าที่อัยการ, นักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์ ในการเข้าสอบสวนด้วย เนื่องจากผู้เสียหายยังเป็นเยาวชน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ อีกทั้งยังได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนั้นลงพื้นที่เพื่อเฝ้าติดตามพฤติกรรมกลุ่มวัยรุ่นที่เด็กหญิงเอ๋ ไปด้วยในวันที่เกิดเหตุ เพื่อเตรียมนำตัวมาสอบสวน
ที่มา – http://www.bangkokbiznews.com/
by TVPOOL ONLINE