เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

แอนโทเนียเผยความลับจักรวาล กว่าจะมาถึงจุดนี้ ต้องฟันฝ่าคำบูลลี่ดูถูกอย่างหนักหน่วง !

เดินสาย ทำงานไม่ได้พักไม่ได้ผ่อน เรียกได้ว่าเป็นนางงามคิวทองเลยก็ว่าได้ สำหรับ เจ้าของตำแหน่งรองอันดับหนึ่ง  Miss Universe 2023 “แอนโทเนีย โพซิ้วมาเผยความลับจักรวาล เปิดใจเบื้องหลังการเข้าประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์สที่ต้องผ่านเรื่องดราม่าและการโดนบูลลี่อย่างหนัก พร้อมเล่าวิธีก้าวข้ามจนมาถึงจุดนี้ได้ ในรายการ WOODY INTERVIEW

พี่คิดว่ามันน่าจะมาไกลกว่าที่เราคิดไว้ในชีวิตไหม ?

แอนโทเนีย : จริงๆ แล้วไปประกวดแอนก็หวังว่าจะได้มงอยู่แล้ว แอบเสียใจด้วยที่ไม่ได้คว้ามงกลับมา แต่แอนก็แฮปปี้ที่ได้มาถึงจุดสูงสุดในเวลาที่ไม่ได้มีมานานมากแล้ว เหมือนมันเปิดประตูให้ผู้หญิงอีกหลายคนให้มีความมั่นใจในตัวเอง แล้วเห็นแอนเป็นตัวอย่างเพื่อที่จะไปไกลกว่าแอนด้วยซ้ำ

ระหว่างที่ดูการประกวดอยู่พี่ก็คิดตลอดเลยว่าน่าจะมีคำถามว่า ถ้าคุณได้มีโอกาสรับตำแหน่ง คุณจะเอาตำแหน่งนี้ไปทำอะไร อยากฟังจากแอนว่ามีคำตอบอย่างไร ?

แอนโทเนีย : คำถามนี้แอนก็คิดว่าจะเป็นคำถามของท็อป 3 ด้วยซ้ำ สำหรับแอนเชื่อว่าการที่เราเป็น Miss Universe มันมากับชื่อเสียงและการเปิดเผยทั้งหมด แต่ว่าอะไรที่สำคัญมากที่สุดคือ การที่เราใช้แพลตฟอร์มเพื่อที่จะมาเป็นแรงบันดาลใจ มาเป็นแรงผลักดันสำหรับผู้หญิงที่มองเราเป็นตัวอย่าง ในยุคที่ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องโซเชียลมีเดีย ทุกอย่างต้องเร็ว เราควรที่จะใช้แพลตฟอร์มของเราสร้างการเปลี่ยนใหม่ในการสนับสนุนของเรา เพราะว่าแอนได้สร้างบริษัทของตัวเองที่ทำ สเปรย์กันแดด ขายผัดหมี่ ขายน้ำพริก บนติ๊กต๊อก เพราะว่าแอนเห็นว่าการที่เราสร้างรายได้ให้ตัวเอง มันทำให้เรารู้สึกเป็นอิสระ ที่ส่งพลังให้เรา  การที่เรา โดยเฉพาะในฐานะการเป็นผู้หญิง

สังคมของเรามันบังคับให้ผู้หญิงอยู่บ้าน แต่งงานกับสามีรวยหรือบรรทัดฐานของสังคม แต่เชื่อว่าผู้หญิงเราทำได้มากกว่านี้ ถ้าเราสร้างรายได้ให้ตัวเอง เราไม่ต้องไปเป็นภาระให้คนอื่น เช่นเดียวกันกับโครงการความร่วมมือ มาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ มาขายต่อ หรือว่าสร้างบริษัทของตัวเอง ฉะนั้นแอนกับโครงการ Little Steps ให้มันร่วมมือด้วยกันค่ะถ้าแอนได้ตำแหน่งจะสนับสนุนและเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่รวมถึงผู้หญิงให้กล้าที่จะเริ่ม  กล้าที่จะสร้างอะไรเพื่อตัวเอง โดยการเป็นตัวอย่างให้กับพวกเขา แอนต้องเป็นตัวอย่างให้เขาดู ก่อนที่จะบอกเขาว่าคุณทำได้นะ

ตอนที่ประกวดเสร็จ กลับเข้าห้องร้องไห้ไหม ?

แอนโทเนีย : ไม่ค่ะ อาจจะช็อกอยู่ อาจจะมีอะดรีนาลีน จากทั้ง 3 อาทิตย์ที่อยู่ในกอง นั่งเล่นโทรศัทพ์ประมาณ 4 ชั่วโมงไม่ขยับ ไม่ได้ล้างหน้าด้วยซ้ำ นั่งดูรีแอคชั่น นั่งดูทุกอย่าง ก็หัวเราะตามทุกคน กรี๊ดตามทุกคน แต่อีกวันหลังจากนั้น ตอนที่ตื่นขึ้นมาแล้วมันโถมเข้ามาเลย ดูรีแอคชั่นของคนอื่น เป็นตอนที่น้ำตาไหลออกมาแบบเป็นน้ำพุ น้ำตกเลย แบบควบคุมไม่ได้ แอนร้องไห้ไม่ใช่เพราะว่าเราแพ้ เพราะว่าแอนเข้าใจว่าการแข่งขันมันต้องมีแพ้ต้องมีชนะ เราต้องทำใจก่อนที่จะมาประกวด แต่ว่าเหมือนเราทำได้เยอะที่สุด 100% ของทุกอย่างที่เรามีแล้วมันได้แค่ถึงตรงนี้เหรอเหมือนมาถามตัวเองว่ามันได้แค่นี้เหรอเป็นแค่ที่ 2 แล้วเราทำเต็มที่ขนาดนี้ เราทำผิดพลาดตรงไหน แต่ว่าหลังจากนั้นหนูก็แบบ โอเค ร้องไปเลย รู้สึกทุกอย่าง ทุกอารมณ์ที่กำลังมา แล้วก็ไม่ร้องแล้วไปต่อ

กว่าจะมาถึงวันนี้ได้คุณผ่านอะไรมาเยอะมาก ตั้งแต่ประกวดในรายการช่วงนั้นเจอกันกระแสแบบไหนและก้าวผ่านมายังไง ?

แอนโทเนีย : อ้วนขนาดนี้จะเป็นนางแบบได้ยังไง หนูก็อึ้งไม่ได้คิดว่าความสวยภายนอกของเราสำคัญขนาดนั้น ที่ทุกคนจะต้องมาบูลลี่ โดยที่เรามองตัวเองในกระจกเราไม่ได้เห็นอะไรผิด แล้วทำไมมันเป็นอะไรที่ผิดมากสำหรับคนอื่นอันนี้แอนยังไม่ได้เข้าใจในเวลานั้นก็เลยเสียใจมาก เวลานั้นแอนแค่อายุ 17 ความคิดของเรายังไม่ได้ยอมรับว่าอันนี้คือวงการของนางงามนางแบบ ว่าต้องเป็นลุคแบบนี้ แล้วจนถึงวันนี้แอนก็ยังคิดถึงเวลานั้นเลย ว่าตอนมองตัวเองในกระจกถ้าหนูน้ำหนักลงหรือน้ำหนักขึ้นเราไม่เคยเห็นเลย แค่เห็นว่ามันต้องลงกว่านี้ หรือว่ามันต้องสวยกว่านี้ แล้วการที่มาประกวด เราอาจจะไม่ได้มั่นใจตอนที่เราอยู่บนเวที แต่ว่าขอให้ทุกเห็นว่าเรามั่นใจ จะได้ให้เขามั่นใจในตัวเองด้วย แต่ว่าหนูคิดว่ามันเป็นการเดินทางมากกว่า มันเป็นอะไรที่ต้องพัฒนาทุกวัน

ขนาดผ่านมาเกือบ 10 ปีแล้ว ยังไม่มีวันที่แอน ฉันสวยนะ! แต่ว่ามันเป็นในแต่ละวัน แล้วตอนที่แอนก้าวผ่านมันคือตอนที่แอนบอกตัวเองว่า ความคิดเห็นของคนอื่นมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับอนาคตของเรา อนาคตของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คนอื่นพูด ถ้าเรารู้ว่าเรามีของอะไร มีคุณค่าที่ดี มีเป้าหมายที่สำคัญสำหรับเรา ไม่ต้องไปฟังว่าคนอื่นจะพูดอะไร เพราะว่ายังไงสิ่งที่เขาพูดมันเป็นแค่คำที่ลอยผ่าน โดยเฉพาะในวงการนางงามที่ทุกคนมีความคิดเห็นที่อาจจะดีหรือไม่ดี แต่ว่าในที่สุดมันคือหน้าที่ของเรา ว่าจะให้มันมามีผลกระทบกับเราไหม แต่แอนยังยืนอยู่ตรงนี้ได้ บนเวทีนี้ เป็นกระบอกเสียงให้ผู้หญิงทุกคนได้ แล้วเขาทำอะไรอยู่ คือการที่เขามาบูลลี่เรามันเป็นความไม่มั่นคงของเขาที่เราควบคุมไม่ได้แล้วแอนก็พูดแบบนี้กับตัวเองว่า เราควบคุมความเจ็บปวดของคนอื่นไม่ได้ แต่เราควบคุมได้ว่าเราจะก้าวผ่านความเจ็บปวดของเรายังไง

แล้วก็ยังมีกระแสที่คุณได้รับตำแหน่งก่อนหน้านี้แล้ว และมาประกวดต่อว่าเสียดายที่ทิ้งมงนั้นไปเพื่อมาเอามงใหม่ คุณบอกกับตัวเองยังไงเพื่อที่จะมูฟออนได้ ?

แอนโทเนีย : จริงๆ มันเป็นปัจจัยในการตัดสินใจสำหรับแอนมากๆ เลยในเรื่องของจะไปหรือไม่ไปประกวด เพราะว่าเรื่องนี้แอนไม่เคยคิดว่ามาถึงจุดนี้ได้เพราะว่าเราคนเดียว รู้ว่าทุกอย่างที่มันเป็นวันนี้เป็นประสบการณ์ โอกาสที่คนอื่นให้มา แล้วช่องทางที่ทุกคนช่วยเสริมให้เป็นแอน แอนก็ได้โทรไปถามเขาเลยว่าเราจะลงนะ คุณโอเคไหม เราไม่ได้แค่ตัดสินใจแล้วก็ลงเลยก็ต้องให้เกียรติเขาด้วย คิดว่าการที่เรามีความฝัน มีแพชชั่นที่ยังมีไฟอยู่ในใจ ทำไมเราต้องจำกัดแพชชั่นของตัวเอง เพราะว่าคนคิดไม่เหมือนเรา รู้ว่าความเสี่ยงของการมาประกวดอีกครั้งมันสูงมาก

แต่ว่าถ้าแอนไม่ลองทำ ไม่ลองผลักดันตัวเองไปถึงจุดนั้น แอนจะอยู่กับชีวิตประจำวันและถามตัวเองก็จะไม่มีวันได้คำตอบเพราะกังวลว่าคนอื่นจะคิดยังไง  คิดหนักอยู่ประมาณ 3 เดือนได้ค่ะ แอนก็เห็นว่ามันได้มากกว่านี้ ถ้าเรามีแพลตฟอร์มที่ใหญ่กว่า คนรู้จักมากขึ้น เรามีศักยภาพที่มากขึ้นไปอีกที่จะส่งผลกับคนอื่น ก็โทรไปบอกพอเขาโอเคแล้วเราก็ลงเลยไม่สนใจว่าคนจะพูดอะไรแล้ว เพราะว่าการกระทำจะสำคัญกว่าคำพูด  การที่แอนทำแต่ละอย่างให้ทุกคนได้เห็นว่าแอนไม่ได้เอามงไปทิ้ง ไม่ได้ไปขโมยตำแหน่งของคนอื่น เพราะว่าในที่สุด เรามากับโอกาสที่เท่าเทียมกับทุกคน มงกฏมันเป็นแค่นั้นถ้าเราไม่ทำอะไรกับมัน ถ้าเราไม่ใช้หน้าที่ของเรา จริงๆจะมงหรือไม่มง แอนก็อยากลองพัฒนาแล้วก็ท้าท้ายตัวเอง ดูว่าจะไปได้แค่ไหน ด้วยประสบการณ์ที่ได้พัฒนาตั้งแต่จุดแรก

วันนี้คุณคิดว่าได้บทเรียนอะไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับชีวิต ?

แอนโทเนีย : อยากจะบอกว่ามันโอเคถ้าเราจะพลาด หลายอย่างในชีวิตเราอยากทำเต็มที่ อยากชนะ เราอยากเป็นที่ 1 แล้วพอเราไม่ได้ถึงเป้าหมายที่เราตั้งให้ตัวเอง เราเห็นตัวเองเป็นคนล้มเหลว แต่ว่าจริงๆการที่เราล้มเหลว การที่เราแพ้การที่เราไม่ได้ถึงจุดนั้น มันไม่ได้แปลว่าเราไม่ได้ดีพอ มันแค่แปลว่าเรายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องพัฒนาตัวเอง เราอาจจะไม่ดีพอสำหรับสิ่งนี้ แต่เราอาจจะเก่งมากๆ สำหรับอย่างอื่น แพชชั่นของเราไม่ควรที่จะหยุด แค่เพราะเราไม่ถึงจุดนั้น เราเสียใจได้ ร้องไห้ได้ แต่ขอให้รู้สึกกับอารมณ์นั้น แล้วก็เผชิญกับมัน แล้วพาตัวเองลุกขึ้นมาแล้วก้าวข้ามมันไปแอนอาจจะไม่ได้ชนะมง แต่สิ่งที่แอนได้ยิ่งใหญ่กว่าที่มงให้หนูได้ คือความรักของคนไทยที่แอนไม่เคยคิดว่าจะได้รับมาก่อน พอกลับมาเราได้กำลังใจ ได้รับการสนับสนุน ไม่เคยคิดว่าจะได้ในชีวิตนี้ แล้วแอนภูมิใจมากที่ทำให้ทุกคนได้ภูมิใจในตัวแอน และอยากให้เขารู้ว่ามันไม่ได้จะหยุดแค่ตรงนี้ แต่เราจะไปต่อด้วยกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

🥓เวลาเดินผ่านร้านหมูกระทะ หรือร้านหมูปิ้งข้างทาง

กลิ่นเนื้อย่างหอมๆ มันช่างเหย้ายวนใจเสียเหลือเกิน🤤

.

😱แต่รู้หรือไม่ว่า กลิ่นหอมๆเหล่านี้มาพร้อมอันตราย

ด้วยสาร PAHs 1 ในสารก่อมะเร็งที่ร้ายแรงที่สุด‼️เพื่อป้องกันเราจำเป็นต้องทานอาหารเสริมบำรุงตับฮอกเก๊ตไธโอน ที่ประกอบด้วยสมุนไพรหลักคือ ฮอกเก๊ตนามูจากเกาหลี ช่วยล้างสารพิษและบำรุงตับ อายุ35ปีขึ้นไป จำเป็นต้องทานวันละ1เม็ด เพราะตับเป็นอวัยวะที่รับของเสีย หากตับพังสุขภาพพัง

กดลิ้งค์รับข้อมูล อาหารเสริมบำรุงตับ จากเกาหลีเพิ่มเติ่มได้ที่ Link ด้านล่าง

https://www.tvpoolreward.com/salepageheokkaetio