เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ยายชา เถิดเทิง เปิดใจป่วยมะเร็งปอด สั่งเสียถ้าไม่อยู่แล้วอย่าปล่อยให้ถึง3วัน

ในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง One31 ที่มีพิธีกรนำโดย พีเค ปิยะวัฒน์ และ หนิง ปณิตา ที่ยายชามาเปิดใจครั้งแรกหลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งปอด ยายชา เถิดเทิง ควงภรรยา คุณกุ้งนางเผยเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องตัดสินใจสั่งเสียครอบครัวในกรณีถ้าไม่สามารถอยู่ได้อีกต่อไป

มีข่าวใหญ่ว่าหามยายชาส่งโรงพยาบาลเมื่อ 31 มกราคม แล้วไปตรวจพบโรคมะเร็งในปอด?
ยายชา : ไม่ได้อยากได้มันมาเอง

พอเรารู้ว่าเป็นมะเร็ง รู้สึกยังไง?
ยายชา : ในความรู้สึกเรา เราเป็นบุคคลธรรมดา ไม่อยากได้ แต่เมื่อมันมาก็ปล่อยมัน ช่างแม่ง

กลัวไหม?
ยายชา : ไม่กลัว

คุณกุ้งกลัวไหม?
กุ้งนาง : ไม่กลัว เราจะสู้ไปด้วยกัน

มันอยู่ในระยะที่เท่าไหร่?
กุ้งนาง : ตอนนี้คุณหมอยังวินิจฉัยยังไม่ได้ รอโรงพยาบาลนัดตรวจอีกที

ย้อนกลับไปช่วง 31 มกราคม วันนั้นเกิดอะไรขึ้น?
กุ้งนาง : วันนั้นไอหนักมากทั้งวันและทั้งคืนก็เลยไม่ไหว ตี3 เรียกพี่ชายไปส่งที่โรงพยาบาล ไปถึงหมอก็ให้แอดมิต 1 คืน อีกวันนัดทำ CT Scan แล้วหมอก็นัดมาฟังผลอีก 1 อาทิตย์

แต่เรารอไม่ไหว ไอเป็นเลือด 2 วันประมาณเป็กนึงได้ เลยให้พี่ขายไปส่งโรงพยาบาลอีกรอบ แล้วพอดีผล CT Scan ออกก่อน คุณหมอบอกว่าแฟนคุณเป็นมะเร็งปอด ในชั่วโมงนั้นเราก็เข่าอ่อน รู้สึกทรุดนิดหน่อย แต่ต้องตั้งสติ เพราะว่าเราอ่อนแอไม่ได้

แสดงว่าก่อนหน้านี้เราไม่รู้เลย?
กุ้งนาง : เราไม่รู้เลยค่ะ เพราะเขาเลิกบุหรี่มาได้เกือบ 3 เดือน

ในความเป็นจริงยายชามีโรคประจำตัวอยู่แล้ว?
กุ้งนาง : ใช่ค่ะ มีไขมัน ความดันสูง แล้วก็น้ำท่วมปอดค่ะที่เป็นมาประมาณปีนึงแล้ว

คุณหมอได้แจ้งไหมว่าต้องรักษายังไง?
กุ้งนาง : ยังค่ะ เพราะตอนนี้คุณหมอทำเรื่องส่งตัว ย้ายโรงพยาบาลอยู่ ให้โรงพยาบาลนครปฐมอีกทีว่าเป็นระยะไหน ขั้นไหนแล้ว วันที่ 16 นี้ทราบผล

ยายเอากำลังใจมาจากไหน?
ยายชา : 1.คนข้างๆ 2.รายการที่เรากำลังทำอยู่ ในเมื่อเขาเปิดโอกาสให้เราทำก็ต้องทำ จนกว่าชีวิตเราทั้งสองจะไม่มีแล้ว

ตอนเราจะไปตรวจ เราเริ่มรู้สึกแล้ว?
ยายชา : ใช่ มันมีอะไรแปลกๆ ในร่างกาย แล้วกูเป็นอะไรเนี่ย ก็เลยบอกแฟนว่าพาพ่อไปโรงพยาบาลหน่อย ไปให้เขาเช็กจะดีกว่าว่าเราเป็นอะไร

กุ้งนาง : เขาไอผิดปกติ 2 วัน
ยายชา : เพราะเวลาไอมีเลือดออกมาด้วย

ตอนนั้นสภาวะร่างกายเป็นยังไง เราทำงานได้ไหม เราต้องนอนอย่างเดียวหรือเปล่า หรือว่าเรายังใช้ชีวิตได้อยู่?
ยายชา : 1.ทำงานไม่ได้ 2.นอนอย่างเดียวก็ไม่ได้ สภาวะแวดล้อมในร่างกายเรา สิ่งที่เราเป็นอยู่ ถามว่าในชีวิตจะอยู่ได้ไหม ถ้าในกระเพาะอาหารเราไม่มีอะไรเลย

กุ้งนาง : เราก็ไม่สามารถสู้โรคได้
ยายชา : เราต้องมาเปลี่ยน ต้องสู้โรค สู้กับมันให้ได้ อยู่กับมันให้ได้

ตอนที่คุณหมอบอก เรารอนานไหมในการบอกยายชา?
กุ้งนาง : ไม่นานนะคะ เพราะยายเขาเคยสั่งไว้ว่าถ้าเกิดเขาเป็นอะไรอย่าปิดปังเขา เพราะเขาจะได้เตรียมตัว เขาจะได้รู้ตัว ป้องกันของเขา คือเรื่องนี้เราคุยกันมาก่อนแล้ว เป็นอะไร เราจะไม่ปิดบังกัน เราเลยตัดสินใจตอนออกจากโรงพยาบาล

ค่อยๆ ลูบหลังเขา เขาก็ถามแหละ แม่พ่อเป็นอะไร แม่บอกพ่อมาตรงๆ พ่อรับได้ ก็บอกยายใจเย็นๆ นะ เป็นอะไรก็ได้ เราสู้ไปด้วยกันนะ ไม่ต้องกลัวนะกุ้งอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างยาย บอกว่ายายเป็นมะเร็งปอด
ยายชา : เรื่องเล็ก คนอื่นเขาก็เป็นกัน

คนรอบข้างยายบอกว่าจริงๆ ยายก็กังวล แต่ยายพยายามเข้มแข็งเหมือนยายห่วงทุกๆ คน?
ยายชา : ใช่ ถามว่าเรากังวลเรื่องตรงนี้ไหมชัวร์ เรากังวลเรื่องตรงนี้มากๆ แต่ถามว่าเราจะอยู่ตรงนี้กับพวกเขาได้ยังไง มันอยู่ที่ตัวเรา ถ้าเรารู้จัก รู้สึก ที่จะเอาตัวเองเข้าไปคลุกคลี กับคนที่อยู่ข้างๆ เรา คนนี้ถ้าเขามีความสุขเราก็มีความสุข เราดีใจ เราภูมิใจ
กุ้งนาง : เขาเข้มแข็ง

สิ่งที่ยายกลัวที่สุดคืออะไร?
ยายชา : จะหาอะไรมาเปรียบเทียบไม่ได้ คำว่าที่สุดคืออะไร ที่สุดคือที่สุดที่เราไม่สามารถไปจับมันได้ มันเหนือการควบคุม แต่มันก็เอาเราไปไม่ได้เหมือนกัน เราต้องสู้

ทุกวันนี้ได้เข้ารับการรักษาหรือยัง?
กุ้งนาง : ยังค่ะ รอคุณหมอ

ระหว่างที่รอหมอพี่กุ้งดูแลยายชายังไง?
กุ้งนาง : ดูแลเรื่องการกิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำ อาหาร ยา เราจะไม่ให้ขาดตกบกพร่อง แล้วจะไม่ให้ใครทำและไม่ฝากใคร ต้องดูแลด้วยตัวเองตลอด

ก่อนที่จะเจอหมอวันที่ 16 ส่วนตัวเรากังวลอะไรที่สุด?
กุ้งนาง : ถามว่าทุกวันนี้กังวลไหม แรกๆ กังวล แต่ ณ วันนี้ ที่ยายมาที่นี่ได้ คือไม่กังวลอะไรแล้ว คือเป็นอะไรก็เป็น เราจะอยู่เคียงข้างเขารักษาเขา มาโรงพยาบาลบ่อยแค่ไหนเราก็จะมา เตรียมพร้อมค่ะ
ยายชา : เขาถามเรา พ่อสู้ไหม สู้

กังวลอะไรไหม?
ยายชา : ไม่กังวล

ตอนนี้ยายชาตัวติดกับพี่กุ้ง ลืมตาขึ้นมาต้องเห็นพี่กุ้ง?
ยายชา : เพราะว่าเดินไกลไม่ได้ เหนื่อย

ตอนไปซื้อกับข้าวเกิดอะไรขึ้น?
กุ้งนาง : บอกว่าไปชั่วโมงเดียว แล้วทีนี้คนมันเยอะรถมันติดจากชั่วโมงนึงก็เป็น 2-3 ชั่วโมง เราไปซื้อกับข้าวนานเขากลัวเราทิ้ง กลัวไม่มีคนดูแล เขาเคยพูดว่า พ่อกลัวแม่ทิ้งไปตอนพ่อป่วย

ทำไมยายคิดแบบนั้น?
ยายชา : มันมีประวัติก็ไม่อยากจะเล่า คือคุณพ่อยายเป็นคนเจ้าชู้
กุ้งนาง : เขาก็กลัวว่า หนุ่มๆ จะมายุ่งกับเราแบบนี้

ทำไมถึงไม่มั่นใจพี่กุ้งหรือจริงๆในอดีตยายเองเจ้าชู้หรือเปล่า?
ยายชา : ไม่หรอก

ถึงแม้ยายจะป่วยเขาไม่ลงโซเชียล ไม่อยากให้คนตื่นตระหนก แต่ตอนหลังพี่กุ้งเป็นคนลงใช่ไหม?
กุ้งนาง : ใช่ ณ ชั่วโมงนั้น เป็นช่วงที่เราค่อนข้างจิตตกอยู่ เราจะทำยังไงดีให้แฟนคลับยายได้รู้ว่าความคืบหน้ายายเป็นยังไง เราก็ไม่ได้ไปขายของที่วัด 2-3 วันแล้ว เดี๋ยวลูกค้าจะหายจะสงสัยว่ายายเป็นอะไร

เราก็หากำลังใจให้ยายด้วยเพราะแกทรงๆ วันสองวันไม่ค่อยจะดี ก็เลยตัดสินใจลงโซเชียล ทุกคนก็ให้กำลังใจยาย คอมเมนต์เป็นร้อย คนดูเป็นแสน ก็มาอ่านให้ยายฟัง ยายใจชื้นขึ้นเยอะเลย ยายมีกำลังใจที่จะสู้ต่อ
ยายชา : ตั้งแต่วันนั้นก็ลุยมาด้วยกัน มันใจฟู ขอบคุณที่คุณทั้งหลายมาช่วยยายชา

นอกจากแฟนคลับแล้วกำลังใจสำคัญคือพ่อตา ตอนที่เขาป่วยหนักพ่อบอกเขายังไง?
พ่อตา : บอกว่าให้ทำใจดีๆ ไว้ เดี๋ยวมันก็หายเอง

ยายชาสั่งเสียไว้หมดแล้วเหรอ?
ยายชา : ใช่
กุ้งนาง : ตอนนั้นเป็นช่วงที่เขากำลังนอนซม แล้วมีนักข่าวเข้าไปสัมภาษณ์ใจเรายังตกอยู่

สั่งเสียว่าอะไรบ้าง?
ยายชา : ใจของเรามันหลุดหมดแล้ว เราบอกว่า แม่ถ้าพ่อเป็นอะไร อย่าปล่อยให้ถึง 3 วัน 2 วันก็เผาเลย
กุ้งนาง : ไม่อยากให้สิ้นเปลืองเยอะ

ยายชา : แต่ถ้าพ่อยังไม่เป็นอะไรมันแค่เริ่มปล่อยเลย รักษาตามอาการต่อไป
กุ้งนาง : ก็เสียใจนะเขายังไม่ได้เป็นอะไรมากขนาดนั้น ทำไมต้องสั่งเสียขนาดนี้ ทำให้เราจิตตกลง เลยให้กำลังใจเขาบอกว่าไม่เป็นอะไรหรอก เราก็ยังไม่รู้ว่าระยะไหน

หมอเขาก็ต้องวินิจฉัยก่อน อาจจะเป็น 1,2,3 หรือ 4 เขาก็ยังรักษาได้ มียาดีหมอเขาเก่ง ก็ให้กำลังใจกันอย่างนี้ ไม่เป็นอะไรหรอก เราจะอยู่เป็นมิ่งขวัญ เป็นคู่ขวัญกันอย่างนี้แหละ

ตอบกับยายแบบนี้ แต่เวลาอยู่คนเดียวเห็นว่าแอบร้องไห้?
กุ้งนาง : เราอ่อนแอไม่ได้ เพราะเรามีคนที่ต้องดูแลอยู่แล้ว ถ้าเราอ่อนแอคนหนึ่งแล้วใครล่ะ เราอยู่กันแค่สองคน มีกันแค่สองคน ถ้าเขาอ่อนแอ เราก็ต้องเข้มแข็ง

ถ้าเราทรุดลง แล้วเขาจะเป็นยังไง เขาต้องการกำลังใจ เราก็ต้องการกำลังใจ กำลังใจเราคือคนรอบข้างที่คอยซัพพอร์ตช่วยเราอยู่ตลอด เราเอากำลังใจตรงนี้มาเติมให้เขา ครอบครัวสำคัญค่ะ

พี่กุ้งเขาทำใจไว้แล้ว?
กุ้งนาง : ก็ทำใจไว้ส่วนนึง ทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป เราฝืนธรรมชาติไม่ได้ เราก็เตรียมไว้อยู่แล้ว แต่ระหว่างที่อยู่ เราจะต้องดูแลประคับประคองเขาให้ดีที่สุด

ถ้าเหตุการณ์ครั้งนี้ อาการของยายถ้าเกิดมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจริงๆ คุณกุ้งเตรียมทำบางสิ่งบางอย่างเอาไว้?
กุ้งนาง : ถ้ามีปาฏิหาริย์ เราสวดมนต์ขอพร ไหว้พระ ถ้าเป็นไปได้ เราขอปาฏิหาริย์ ถ้าแกหายป่วย หรือมะเร็งสงบ เราเตรียมตัวบวชชีสัก 19 วัน บวชให้เขา สัญญาถ้าปาฏิหาริย์มีจริง

ยายชา : แต่ถ้าปาฏิหาริย์ในโลกนี้มีจริง ยายหายปกติโดยที่ไม่ต้องไปกินยาเพื่อให้ตัวเองหาย ถ้ามีโอกาสก็จะบวชเหมือนกัน บวชพระ

ยายเป็นห่วงอะไรคุณกุ้งที่สุด?
ยายชา : หลายๆ เรื่องที่เราไม่สามารถตอบได้
กุ้งนาง : เขาห่วงหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น การกิน การอยู่ การนอน เขาเป็นเหมือนพ่อ แม่ พี่น้อง อยู่ในคนคนเดียว คิดว่าถ้าเขาไม่ได้อยู่กับเราแล้ว

ชีวิตเราก็ดำเนินต่อไปได้นะ เขาปูทางไว้ให้เราหมดแล้ว ร้านค้าเขาก็มีให้เรา เราต้องสานต่อเขาให้ได้ แต่ระหว่างที่อยู่เราไม่อยากสานต่อคนเดียว เราจะสานไปด้วยกัน

เคยคุยกันเล่นๆ ว่าถ้าชาติหน้าเกิดมาอยากให้เกลียดอะไรสักอย่าง?
กุ้งนาง : เราคุยกันเล่นๆ ให้กำลังใจกันนี่แหละ ยายเกิดชาติหน้าฉันใดยายเกลียดบุหรี่ไปเลยนะ ยายเกลียดเหล้าไปเลยนะ จะได้ไม่ต้องมาเป็นแบบนี้อีก

หนิงถ้าชาติหน้าเลือกเกลียดได้จะเกลียดอะไร ?
หนิง : เกลียดผู้ชายเจ้าชู้

หมอบอกไหมว่าสาเหตุของโรคมันมาจากไหน?
กุ้งนาง : ดูดบุหรี่หนัก เมื่อก่อนดูดบุหรี่มวนต่อมวน เขาดูดบุหรี่ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะสูบบุหรี่ไหม?
ยายชา : ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ยายชาไม่อยากให้คนที่อยู่บนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเด็กหรือผู้ใหญ่ ถ้าคิดว่าสิ่งที่เรากำลังจะทำมันเป็นผลพวง ให้กับตัวเองให้เกิดความลำบากลำบน ทำให้ตัวเองเดือดร้อน ยายชาขอนะอย่าทำ

ทำไมถึงเลิกมา 3 เดือนแล้ว?
กุ้งนาง : เขาให้เป็นของขวัญวันเกิดตัวเขาเองแล้วตัวพี่ด้วย เขาบอกว่าเนี่ยมีของขวัญมาให้นะ พี่จะเลิกบุหรี่ให้ แล้วเขาก็ตัดสินใจหักดิบ ณ วันที่เขาเลิก บุหรี่ซองสุดท้ายเหลือ 4 มวน เขาก็เก็บไว้แบบนั้นพร้อมไฟแช็กไม่ได้ดูดเลย

ดูดมา 63 ปี หับดิบวันเดียว?
ยายชา : ก็ไม่ดูดสักอย่าง มึงไม่ใช่ญาติกุ กูไม่ดูดสักอย่าง มึงทำอะไรกูไม่ได้อยู่แล้ว

ที่เราเป็นมะเร็งปอดหลักๆเลยคือบุหรี่?
ยายชา : ใช่

มีเพื่อนในวงการส่งคลิปมาให้กำลังใจ?
เท่ง เถิดเทิง : พอรู้ข่าวยายชาหมอว่าเป็นมะเร็ง ฝากถึงเพื่อนไม่มีอะไร มันก็แค่มะเร็ง คิดบวกไว้ก่อน ถ้าคิดว่ามันร้าย เดี๋ยวจิตจะตก ที่พูดแบบนี้ก็อยากให้กำลังใจ มีหลายคนที่พอกำลังใจมาแล้วสู้มันหาย แต่ยาที่สำคัญคือกำลังใจ ขอให้เพื่อนมีกำลังใจ เท่ง เถิดเทิง เป็นกำลังใจให้ สู้กับมัน ต้องชนะมัน ทำให้ได้
ยายชา : ขอบใจๆ

ทำงานด้วยกันที่ระเบิดเถิดเทิงนานแค่ไหน?
ยายชา : 18 ปี

พี่เท่งน่ารักยังไงในฐานะเพื่อนร่วมงาน?
ยายชา : เขาน่ารักหลายเรื่อง เขานิสัยดี มารยาทดี

ไม่เจอกันนานแค่ไหนแล้ว?
ยายชา : สิบกว่าปี

อยากบอกอะไรพี่เท่ง?
ยายชา : เท่งกูรักมึงนะ แต่เป็นไปได้กูอยากให้มึงมาหากู

ข่าวที่น่าสนใจ

“ยายชา เถิดเทิง” หามส่งโรงพยาบาลจากโรครุมเร้าหลายอย่าง ล่าสุดเป็นมะเร็งปอด
“เท่ง เทิดเทิง” เปิดสวนทุเรียน เห็นแบบนี้ปีนและเก็บทุเรียนเองนะ