เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

นุ่น วรนุชนางเอกแถวหน้า เปิดใจทุกเรื่องผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow  ทั้งประเด็นพักหลังๆ แอบเซ็กซี่ สรุปจะมีลูกหรือไม่? 14 ปีรักต๊อด ปิติหวานมากขึ้นหรือน้อยลง พร้อมเล่าประสบการณ์สุดอเมซิ่งเคยเจอมนุษย์ต่างดาว รวมทั้งโมเมนต์ดีต่อใจ หนิง ปณิตา ทำหน้าที่สัมภาษณ์เพื่อนซี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทำไมพักหลังๆ แอบเซ็กซี่?

นุ่น : “เอาจริงๆ ไม่ได้เป็นคนเซ็กซี่เลย หนิงจะรู้อยู่แล้ว แต่เหมือนเป็นปกติ เวลาเรามีรูปสวยๆ  เราถ่ายรูปก็อยากลงบ้าง ช่วงนี้น้ำหนักลงนิดนึง ต้องบอกว่าเริ่มพังๆ ตั้งแต่ช่วงโควิด เมื่อก่อนหนัก 45 แต่มันขึ้นมาเกือบ 52 เลย แต่ตอนนี้ก็ลงมา 50 แล้ว แต่ไม่ได้ทานยาลดน้ำหนักใดๆ เลย จะมีแค่เริ่มทำ IF แต่ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น บางมื้ออยากกินก็กินเหมือนกัน แต่ระวังเรื่องอาหารการกินมาก ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเยอะ ไม่ชอบเข้ายิม รู้สึกว่าไม่สนุก ชอบอะไรที่เป็นฟีลแอ็กติวิตี้มากกว่า แล้วช่วงทำงานเยอะ แล้วออกกำลังกายโดยเอาหัวลง จะชอบเป็นเส้นเลือดฝอยแตกที่หน้าเป็นเม็ดๆ ร่างกายแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน เป็นประมาณ 3-4 วันกว่าจะหาย เลยไม่ได้เล่นอะไรที่เอาหัวลงเลย

 

สามีว่าไงถ่ายรูปเซ็กซี่?

นุ่น : “เขาไม่ได้พูดถึงเลย (หัวเราะ) ถ้าหุ่นดีจะถ่ายสวยกว่านี้อีก แต่หุ่นไม่ดีไง (หัวเราะ) เขาก็ไม่ได้ว่า ไม่ได้พูดถึงเลยมันจะเป็นฟีลอยากลงอะไร ไม่ได้สนยอดไลก์ด้วย ลงตอนตีสองก็มี อยากทำอะไรก็ลงเลย ไม่ได้คิดอะไรเยอะมากขนาดนั้น เวลาเจอใครเขาก็จะถามว่านี่อยู่ไหนกันแน่ เพราะเป็นคนชอบเที่ยว ส่วนใหญ่จะรู้กันว่าเมื่อก่อนไม่ได้เที่ยวเลยทำงานหนักมาก จะไปถ่ายรายการที่เมืองนอกผู้ใหญ่ก็ไม่ให้ไป เราก็เลยรู้สึกว่าถ้ามีโอกาสได้เที่ยว บางทีอยากพักผ่อน เราก็เปิดย้อนดูรูปเก่าๆ มันก็มีความสุขดี คนก็จะถามว่าอยู่ประเทศอะไร (หัวเราะ) ก็เป็นรูปเก่าค่ะ

หนิง : “เขาเป็นคนดูแลตัวเองดีมาก และดูแลธรรมชาติ จะต่างจากเราตลอดเวลา ไม่ได้ทำอะไรมากมาย กินอาหารดีๆผักผลไม้ และไม่ได้เปลี่ยนอะไร บางคนอยากให้หมอทำอะไรบ้าง แต่นุ่นจะไม่ค่อย

นุ่น : “สนิทกับหนิง 20 กว่าปีแล้ว เราเล่นละครด้วยกันหลายเรื่องนะ ตั้งแต่อายุไม่ถึง 20 หมายถึงนุ่นนะหนิง(หัวเราะ)”

หนิง : “น่าจะสัมภาษณ์นุ่นเป็นครั้งที่สอง  เคยทำรายการนึงก็เคยคุยกัน แต่บางเรื่องเราก็รู้แล้ว เราจะถามทำไม เราต้องถามมุมคนดูอยากรู้

แต่งงานทั้งหมดกี่ปี?

นุ่น : “..นี้ครบ 14 ปี คิดว่าใช่ (หัวเราะ) ก่อนแต่ง 4 ปี รวมเป็น 18 ปี


ชีวิตก่อนแต่งกับหลังแต่งเหมือนหรือแตกต่างกันยังไง
?

นุ่น : “แตกต่างกันอยู่แล้ว ก่อนแต่งเราไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน จะบอกว่าแตกต่างเลยก็ไม่เชิง ตอนเริ่มคุยกัน คบกันแทบเจอกันทุกวันอยู่แล้ว เขามาหาทุกวัน ว่างก็เจอกัน

หนิง : “สิ่งที่เหมือนเดิมคือมีมือที่สามอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา ตั้งแต่ก่อนแต่งถึงหลังแต่ง คือคุณส้มจุก

นุ่น : “จะมีคนแซวเหมือนกัน พี่จุกเขาดูแลนุ่น รู้จักกันตอนเขาเล่นละครด้วยกัน แม่อายสะอื้น ในเรื่องเขาเป็นผู้จัดการด้วยนะ แต่ชีวิตจริง เขาไม่ใช่ผู้จัดการ แต่เหมือนคนดูแลเรา และทุกๆ คน รวมไปถึงต๊อดด้วย

14 ปีแล้ว พยายามมีลูกมากขนาดไหน?

นุ่น : “ไม่ได้พยายามขนาดนั้น ทุกคนมีสิทธิ์เลือกชีวิตในแบบที่ตัวเองอยากเป็น การมีลูกไม่ได้หมายความว่าไม่มีความสุข นุ่นก็มีความสุขในแบบของนุ่นกับต๊อดเหมือนกัน แต่ก็ชินกับคำถามพวกนี้ เบื่อถามมั้ยคะ (หัวเราะ) นุ่นเชื่อว่าหลายๆ คนเป็นแบบนุ่นเลย สามารถใช้ชีวิตมีความสุขโดยไม่ต้องคิดว่าจะต้องมีลูก คนบอกว่าลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจบ้าง ตามคำผู้ใหญ่ แต่สุดท้ายก็อยู่ที่คนสองคน

ต๊อดอยากมีลูกมั้ย?

นุ่น : “สมัยก่อนก็เคยคิดว่าจะมีกัน แต่พอวันนึงสังคมเปลี่ยนไปมากมายหลายอย่าง ถ้าเราตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีลูกนุ่นก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม ก็รู้สึกว่าชอบทำงาน อยากเล่นละคร แต่เดี๋ยวนี้บทละครของไทยเองไม่เหมือนเมื่อก่อนตอนนุ่นแต่งงานก็คิดว่าเส้นทางการเล่นละครอาจไม่มีแล้วก็ได้ แต่ก็ยังดีที่วงการบันเทิงยังให้โอกาส แล้วมีอะไรใหม่ๆมากมายนะ กลับมาเล่นละครก็ได้ คนก็คิดถึง ผู้จัดยังไงคะ

คู่เขาก็ลงตัว วันที่ไม่มีลูกก็ใช้ชีวิตชิลๆ ไปเที่ยวโน่นนี่ ชิลกันขนาดไหน?

นุ่น : “เราไม่รู้คู่อื่นเป็นยังไงบ้าง แต่ต๊อดเขาทำงานประจำ จะมีเวลาว่างเสาร์อาทิตย์ แต่วีคนีเขาอาจไปแข่งรถต่างประเทศบ้าง ถ้าเราว่างก็ไป ถ้าไม่ว่างก็ไม่ไป แต่ชอบให้เขาไปแข่งรถฝั่งยุโรป เพราะเราก็จะได้ไปด้วย พรุ่งนี้ก็จะบินไปเที่ยวยุโรป เป็นทริปเที่ยวประจำปี ทุกปีเราก็จะไปกัน แต่เราไม่ได้ไปกันสองคน ทริปที่ไปกันสองคนครั้งสุดท้ายคือเมื่อไหร่ก็นึกอยู่ ทริปนี้มีพี่สาวไปด้วย นุ้ยบอกว่าชอบไปเที่ยวกับต๊อดเพราะจะได้กินเยอะๆ เขาชอบกิน รอบนี้น่าจะไปประมาณ 17 วัน แต่ต๊อดน่าจะกลับก่อนเขามีประชุม นุ่นก็อยู่เที่ยวต่อ

ความหวานเหมือนเดิมมั้ย?

นุ่น : “คู่นุ่นไม่ใช่คู่ที่หวาน ถ้าจำกัดคำว่าหวาน ต้องสวีตอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ไม่ใช่ คาแรกเตอร์กับต๊อดอาจเป็นคู่ที่ไม่เหมือนใครมาก ถึงจะไม่หวานแต่เรามีความใส่ใจซึ่งกันและกัน เราแชร์เรื่องราวชีวิตกันและกัน

ไปเรียนเต้นเลย?

นุ่น :   “ท่าไม่สวย ก็นุ่นเรียนรำมา รำก็สู้ตาย แต่เรียนเต้น เอาจริงๆ ปัจจุบัน ตัวนุ่นเองยังชอบอยากทำงาน และคิดว่าศักยภาพของเราไม่ได้เยอะเหมือนที่ทุกคนคิดว่าเก่ง เรารู้สึกว่าเราไม่ได้เก่งเลย ยังมีอีกหลายสกิลที่เราขาด ก็เลยอยากลอง พอมีโอกาสได้เต้นกับน้องๆ หลายๆ ครั้งก็เลยเรียนดีกว่า เพราะเราไม่รู้จักร่างกาย เห็นเด็กหลายคนเขาเก่งเขาฝึกหลายๆ อย่าง เราก็อยากทำแบบนั้นบ้าง มีคำพูดของหม่อมน้อย บอกว่าเราไม่สามารถเอาความสำเร็จในอดีตมาวัดกับปัจจุบันได้ ถ้าเรามัวแต่หลงใหลว่าอดีตเราประสบความสำเร็จแค่ไหนมันไม่ได้ เราต้องทำวันนี้ให้ดีในทุกๆอย่างที่เราได้ทำ และช่วงนี้มีเวลาว่างมากขึ้น บางทีมีงานติดต่อมาหลากหลายอย่าง เรารู้สึกว่างานนี้เรายังไม่พร้อมงานนี้เรายังไม่ได้ ก็พยายามฝึกทักษะตัวเอง ตอนนี้เรียนภาษาจีนด้วย เรียนหลายๆ อย่าง สนุกด้วย พัฒนาสมองด้วย

พี่ลิงกับพี่ดู๋ สัญญาเป็นพี่ที่สนิทมากๆ?

นุ่น : “พี่ดู๋น่ารักมากๆ นุ่นทำรายการที่นี่หมอชิตกับพี่ๆ 10 ปีนะ นุ่นได้ประโยชน์ ได้ความรู้ ได้เทคนิค ได้ทักษะการเป็นพิธีกรกับเขาเยอะมาก บางอย่างเราเคยกลัว เขาก็เป็นคนนึงทำให้เราก้าวข้ามบางอย่างไป เขาก็สอนนุ่นนะ ตอนถ่ายละครเราไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ติดตามข่าวเลย พี่ดู๋บอกว่าไม่ได้นะ เราต้องอ่าน ไม่งั้นเราจะไม่รู้อะไร เราจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง เราต้องรู้ทุกอย่าง รู้รอบตัว มีความรู้เข้าไว้

อยากบอกอะไร?

นุ่น : “คิดถึงเสมอค่ะ พี่ดู๋พี่ลิงยังอยู่ในความทรงจำเสมอ แล้วพี่ดู๋กับพี่ลิง ทำให้นุ่นเป็นคนชอบเที่ยวค่ะ เพราะที่นี่หมอชิตทำให้เราได้เปิดโลก สมัยก่อนผู้ใหญ่ไม่ให้เราไปไหน ไม่เคยได้ไปต่างประเทศ แต่พอทำรายการเราได้ไปหลายที่ เป็นแรงบันดาลใจนึงที่ทำให้เราชอบเที่ยวได้ไปเจอคนดีๆ คนพลังงานบวก เห็นวัฒนธรรม พอเห็นอะไรเราก็ได้เอากลับมาพัฒนาหรือเป็นไอเดียในการต่อยอดทำงานของเรา ตั้งแต่การทำยูทูปท่องเที่ยวก็ทำให้รู้จักพี่ๆ น้องๆหลายคน จนทำโรงแรมที่เกาะล้าน PORTO SALO”

ประสบการณ์เจอมนุษย์ต่างดาว?

นุ่น : “ไม่ได้เห็นขนาดนั้น แต่เห็นเหมือนวัตถุที่ระบุไม่ได้มากกว่า จริงๆ เคยอัดเอาไว้ในยูทูปตัวเองด้วย เพราะมันตื่นเต้นมากๆ ที่ทางใต้ของฝรั่งเศส ตอนแรกเราอยู่บนรถ กำลังกลับเข้าโรงแรม พี่จุกก็เห็นเป็นกลุ่มไฟ ก็ถามไกด์ว่าตรงนั้นมีหมู่บ้านอยู่เหรอ เขาก็ตอบว่าไม่ใช่ มันเคลื่อนตัวไม่ใช่เครื่องบิน เราก็พูดเล่นๆ ว่าไอว่ายูเอฟโอแน่เลย ถ้าใช่เดี๋ยวเขามาให้เห็นเองแหละ สักพักมาด้านข้าง ถ้าเปรียบเทียบกับเมืองนอกจะมีไหล่ทาง มีต้นไม่สูงๆ เขาใหญ่มาก พี่จุกสายตายาวกว่าเราเขาบอกเป็นสี่เหลี่ยมคางหมู แต่นุ่นเห็นเป็นไฟดวงๆ หลายดวงกระพริบ พอเริ่มเห็นก็ให้คนรถจอด แสงไฟที่อยู่ตรงวัตถุที่เราเห็น มันเข้าหน้าร้อนเลยนะ

ฟีลเหมือนไฟสนามฟุตบอลไฟคอนเสิร์ต ส่องหน้าเราแล้วร้อน พี่จุกหยิบโทรศัพท์จะถ่ายรูป พอกดหน้าต่างลง ก็หายระยะที่เห็นเป็นครั้งที่สาม นุ่นก็เลยไปเสิร์จเน็ตดู ระยะที่นุ่นเห็นอันที่สองไม่มีอยู่ในอินเตอร์เน็ตเลย อาจเป็นเรื่องของจิตมั้ย ที่เขาไม่อยากให้เราเห็นมั้ย ทั้งที่อยู่ตรงหน้าเรา อยู่นานด้วย แต่พอจะถ่ายรูปหาย มันใหญ่มากนะ ตอนนั้นสี่ทุ่มครึ่งแล้ว ฉะนั้นที่เราเห็นชัดคือแสง เรารับรู้ถึงพลังงานความร้อนได้ แล้วระยะที่สามใช้กล้องไลก้าถ่าย ใช่หรือเปล่าเราก็ตอบไม่ได้แต่เป็นสิ่งอเมซิ่งที่เราได้เจอ ยังอยากเห็นอยู่ มันตื่นเต้น

 


จะได้เห็นผลงานของนุ่นอีกเมื่อไหร่
?

นุ่น : “ปีนี้ก็มีอยู่นะคะเป็นซีรีส์ อย่ากลับบ้าน ทางเน็ตฟริกซ์

มีบทอะไรที่ยังอยากเล่น?

นุ่น : “ตอบยากจังเลย เป็นคนอ่านบทแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจมั้ย โดยเราไม่ได้คิดว่าต้องเป็นบทแบบไหนยังไง เราจะให้ความสำคัญกับเรื่องดีเทล เรื่องตัวเรื่องมากกว่า สมมติถ้าบทเดียวกันในอายุที่แตกต่างกัน สมมติ 10 ปีที่แล้วกับตอนนี้นุ่นว่านุ่นก็เล่นไม่เหมือนกัน แล้วมุมมองการใช้ชีวิตกับตอนนี้ก็ไม่เหมือนกัน ผู้จัดไงคะถ้าเธอทำฉันเล่น เธอทำเปล่าล่ะ

หนิง : “พูดแล้วนะ รอดูคุณผู้ชม รอดูค่ะ เกิดแพสชั่นขึ้นมาเลย หลังจากล้มเหลวจากการทำงานมากพักใหญ่ๆ(หัวเราะ)”