เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

แด๊ดดี้ดีเด่น มิค บรมวุฒิ ที่วันนี้ขอควงลูกๆ ทั้ง 3 คน น้องปรางน้องปริมน้องเปรม มาเผยความน่ารักความแสบ ที่ทำคุณพ่อมิคน้อยใจหนักมาก พร้อมเคลียร์ดราม่า ชาวเน็ตเคยแซะรักลูกไม่เท่ากัน อีกทั้งยังเผยปาฏิหาริย์หลังกลับจากพม่า ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow

น้องปรางรักพ่อมิคขนาดไหน?

น้องปราง : รักมากๆ เลย

พี่หลงลูกมาก เคยไปออกรายการนึง แล้วพูดถึง ถ้าลูกสาวโตขึ้นแล้วมีคนมาจีบ จะเป็นยังไง แล้วพี่ก็ร้องไห้กลางรายการ?

มิค : ถูกต้อง 

น้องเปรมชอบอ้อนใคร?

น้องเปรม : พ่อกับแม่

ปริมล่ะ?

น้องปริม : อ้อนแม่

มิค : ดีมากที่พูดความจริง แต่เราก็สนิทกัน ไม่ใช่ว่าไม่สนิทนะ

น้องปราง : หนูอ้อนพ่อกับแม่

 

มิคได้อธิบายให้ลูกฟังไหมว่า การที่เราออกรายการแล้วบอกว่าลูกคนนั้นเป็นของพ่อ ลูกคนนั้นเป็นของแม่ เด็กๆเข้าใจไหม?

มิค : เขาเข้าใจครับ เพราะที่บ้านเป็นอย่างนี้ค่อนข้างชัดเจน แต่เราจะบอกเสมอ อย่างเช่น ปริมที่บอกว่ามิคไปกอดเบนซ์แล้วปริมโกรธ ปริมจะฉลาดมาก เขาจะบอกคนนี้ เพราะคนนี้หวงพ่อ เขาจะบอกปรางดูสิ พ่อ แม่ กอดกัน นี่วิ่งกระโดดขาคู่แม่ออก ปล่อยพ่อเดี๋ยวนี้ จนกระทั่งวันนึงผมคิดแล้ว คิดอีกว่าจะบอกเขายังไง ผมเลยบอกว่า ปริมรักคุณปู่ไหม รักคุณย่าไหม รัก ปริมรักคุณชายไหม รัก เห็นไหมลูก คนคนนึงมันรักได้หลายคน แต่รักคนละแบบ ไม่ได้หมายความว่าแม่ไม่ได้เป็นของปริมคนเดียว หรือพ่อต้องเป็นของปราง อธิบายเขาก็เข้าใจ

เบนซ์ : ถามว่าลูกใคร ลูกใครเบนซ์ว่าเขารู้ได้อัตโนมัติ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รักเราเลย หรือว่าเราไม่รักเขาเลยไม่ใช่ เขารู้ว่าคนไหนที่เขาอ้อนเขาจะได้ก่อนเสมอ เขาจะไปหาคนนั้น

 

ที่ถามคือวัยเด็กอาจารย์เป็นลูกของแม่นะ พี่สาวเป็นลูกของพ่อนะ เราก็แบบทำไมเราไม่ได้เป็นลูกของทั้ง2คน เราอธิบายให้ลูกฟังไหม?

มิค : ผมว่าเป็นเรื่องจริงนะที่แบบคำว่าคนเป็นพ่อ เป็นแม่มันรักลูกทุกคน รักเหมือนกัน เท่ากัน เวลาซื้ออะไรก็ซื้อให้ทุกคนเหมือนกัน แต่จริตมากกว่า จริตนิสัยของแต่ละคนว่ามันจูนติดกับพ่อหรือแม่มากกว่ากัน

เบนซ์ : เหมือนเวลาโดนดุ เบนซ์จะชอบบอกพี่มิคว่า อย่าเพิ่งดุปริมตอนนี้ เพราะเรารู้ว่าเขาทำอย่างนี้เพราะอะไร เพราะเขาเหมือนเรา อย่างพี่มิคก็รู้ว่าเบนซ์อย่างเพิ่งดุปรางตอนนี้ เพราะเขาเหมือนมิค จริงๆ ลูกทั้งคนเราก็ไปมูมานะ ตอนปริมเราไปขอที่ฮ่องกง

 

มิค : ตอนนั้นมีหลายคนแนะนำให้ไปขอเจ้าแม่กวนอิม แต่พอถามเพื่อนหลายๆ คนเขาบอกว่านี่เลย Repulse bay ดิเราไปเที่ยวพอดีก็ไปยืนขอเจ้าแม่กวนอิม แล้วไปโยนเข้าปากปลา แล้วจะบอกว่าครั้งนึงที่เราได้ผล แล้วกลับไปขอใหม่คือขอว่าให้ได้แต่งงานกับเบนซ์ ถ้าได้ขอให้โยนเข้า พอโยนเข้าปากปลาเลย ตอนนั้นไม่รู้เข้าใจว่าต้องโยน แล้วเรากลับไปใหม่ ตอนนั้นปรางน่าจะอยู่ในท้อง ปริมขวบกว่าๆ เริ่มเดินได้ และพูดนิดๆ หน่อย แล้วอยู่ดีๆ นางก็ไหว้ และกราบทุกๆบันไดของนางเอง แล้วไปยืนตรงจุดอธิฐาน นางไหว้เสร็จแล้วเดินออกไปเลย

เบนซ์ : จำได้ว่ามีอยู่ครั้งนึงไปกินข้าว

มิค : เสร็จแล้วเดินออกมารถเราจอดในวัด กำลังจะขึ้นรถ ดึงปริมทำไมไม่ขึ้น เขาสะบัดมือเรา ถอยมาสองก้าวมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม เขาไหว้เอง

เบนซ์ : ไม่รู้ว่าเขารู้ได้ยังไง เราไม่ได้แนะนำด้วย เขายังเด็ก

อาจารย์เป็นหนึ่ง : ต้องบอกแบบนี้ ด้วยน้องเอง ด้วยพรหมลิขิต เราไปตั้งจิตอธิฐาน แล้วเป็นลูกพระโพธิสัตว์จริงๆ

มิค : ก็เหมือนพี่ตอนเด็กๆ ท่องคาถาหลวงปู่ทวดได้ มารู้ตอนโตว่า ตอนเกิดเสียงหัวใจมันดังผิดปกติ มีคนแนะนำคุณปู่ให้ยกมิคเป็นลูกหลวงปู่ทวด

อย่างน้องเปรมพระเคยทักจนพี่มิคขนลุก?

มิค : เปรมยังไม่เกิดเลย ตอนนั้นไปที่อินเดีย ตอนนั้นยังไม่มีลูก เพิ่งแต่งงาน ท่านพูดว่าเดี๋ยวโยมทั้งสองจะมีลูกชายถ้าเกิดโยมทั้งสองอนุญาตให้เขาได้บวชเรียน คนนี้มีสิทธิ์เป็นพระสังฆราช ในอนาคต ก็มองกับเบนซ์ยังไม่ผลิตคนที่หนึ่งเลย แล้วจะมีตอนไหน ปรากฏพอมาคนที่หนึ่งเป็นผู้หญิง คนที่สองก็ผู้หญิง อยู่ดีๆ มาคนนี้ มาถึงบางอ้อตอนเวลาผมเปลี่ยนน้ำพระทุกเช้า ลูกคนเดียวที่ช่วยผมทุกวันคือเปรม

 

ความรู้สึกเป็นยังไงพอพระทักแบบนั้นถ้าเกิดเป็นความจริงขึ้นมาในอนาคต?

มิค : ยังเถียงกับเบนซ์ว่าเราจะยอมไหม แต่มันจะเป็นเรื่องดีสำหรับเขา ตอนแรกเราก็คิดจะบวชไปตลอดเลยหรอ

น้องเปรมเกิดวิกฤติเหมือนกันหรอ?

เบนซ์ : ใช่ตอนที่ท้อง 5 เดือน

มิค : ตอนนั้นมิคเข้าห้องน้ำอยู่ ปริมวิ่งเข้ามาตาเหลือกพ่อแม่เลือดไหล ผมก็ตกใจเกิดอะไรขึ้นรีบออกมาจากห้องน้ำเห็นเบนซ์ยืนช็อก อยู่ในห้องน้ำข้างนอกเราก็ถามเกิดอะไรขึ้นนางก็เช็ดขาใหญ่เลยมันเหมือนแก้วกาแฟหนึ่งแก้วใส่เลือดแล้วเทออกจากขาเขา

เบนซ์ : เหมือนในละครเหมือนน้ำคร่ำแตก ความเป็นบ้านเราตอนไปหาหมอแทนที่ไปถึงหมอแล้วคุยกับหมอก่อนว่าลูกเป็นยังไงบ้างระหว่างทางพ่อได้โทรหาหมอเหมือนกันแต่เป็นหมอดู เราไม่ค่อยโมหรอกแต่ถามหมอดูก่อน

 

มิค : พอเสร็จหมอคนที่เป็นเจ้าของไข้ที่คลอดลูกเราทุกคนไม่อยู่เข้าห้องผ่าตัดอยู่เขาเลยให้ผู้ช่วยเป็นคนตรวจ สิ่งที่เจอเขาบอกว่าเด็กยังมีชีพจรอยู่ แต่อ่อนแล้วก็ไม่ขยับเลย แล้วเขาบอกว่านี่คือภาวะของการแท้ง ก็มองหน้าไม่คุยกันเลย สักพักมิคอยากกลับไปไหว้พระที่บ้านเลยบอกเบนซ์รอแป๊บนึงเดี๋ยวกลับไปเอากระเป๋าที่บ้านเดี๋ยวมานอนด้วย ผมก็กลับมาไหว้พระที่บ้านแต่มันก็ยังไม่สบายใจสักทีจนกระทั่งโทรไปหาหมอดูที่เราดูประจำชื่อพี่นุชระหว่างกลับไปที่โรงพยาบาล ก็ถามว่าลูกผมยังโอเคไหมเปิดไพ่มาปกติทุกอย่างใจชื้นพอมาถึงโรงบาลก็บอกเบนซ์ พอวันรุ่งขึ้นหมอมาตรวจหมอบอกว่าลูกเต้นแล้วชีพจรดีขึ้นทุกอย่าง

วันนั้นเกิดจากอะไร?

เบนซ์ : น่าจะเป็นเพราะว่าเบนซ์โดนกระแทกที่ท้องแต่ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรนะหมอบอกว่าอาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุเบนซ์อาจจะอุ้มลูกหรือเวลาลูกนอนแล้วละเมอเท้าอาจจะมากระแทก

 

อยากมีลูกอีกคนจริงไหม ?

มิค : ถ้าเกิดวันนึงมันมีอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจแล้วมันเหลือๆ ก็ยังอยากมีกันอยู่ ภรรยาก็อยากมี

เบนซ์ : เป็นคนชอบท้องตอนเด็กอยู่ในท้องมันมีความสุข

ตอนท้องสามีตามใจหรือเปล่า ?

เบนซ์ : เป็นไปได้ สามีอะไรก็ได้ ใจดี

เพราะเรื่องนี้หรือเปล่าจะมีลูกเพิ่มเลยบินไปขอพรเรื่องธุรกิจถึงพม่า ?

มิค : มันมีเรื่องคาราคาซัง แต่ว่าไปพม่ากลับมามันได้ คือเรารอแบงค์อนุมัติเงินคุยกันตั้งแต่ปลายปีที่แล้วไม่จบสักทีเนี่ยไปขอบอกว่าเมื่อไหร่ที่เท้าถึงแผ่นดินไทยขอให้ตรงนี้ผ่านซึ่งตอนนี้ผ่านแล้ว