เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ไอซ์ ปรีชญา เปิดใจในรายการ ชาใจ sharing ของ น้ำ

ชา ชีรณัฐ เมื่อครอบครัวไม่ใช่ safe zone บ้านลุกเป็นไฟมานานกว่า 10 ปี ข้างในตายไปแล้วแต่ร่างกายยังหายใจอยู่ จนเป็นเหตุทำให้เป็นโรคซึมเศร้า แต่ก็พยายามทำทุกวิธีเพื่อจะทำให้หายจากอาการป่วยนี้ และในวันนี้เธอได้เกิดใหม่แล้ว เป็นไอซ์ใน version ใหม่ที่สดใสและมีพลัง

ไอซ์ ปรีชญา เผยว่า “ช่วงนี้ดี แฮปปี้ มีความสุข มันยากสำหรับเรา แต่พูดได้เต็มปากว่ามีความสุข ยิ้มได้จากข้างในลึก ๆ ยิ้มได้แบบไม่ฝืน เป็นตัวของตัวเอง รักตัวเองแล้ว ปัญหาไม่ได้หายไป แต่เรียนรู้อยู่กับปัญหา ทุกคนมี

วิธีการแก้ไขปัญหาไม่เหมือนกัน เพราะมุมมองความคิดไม่เหมือนกัน เชื่อว่าทุกบ้านมีปัญหาหมด เพียงแต่เรา ต้องรู้ว่าเราเรียนรู้จะหยุดหรือแก้ปัญหายังไงที่เหมาะกับ บ้านเรา เหมาะกับตัวเรา”

เหตุการณ์ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น ?

“คงต้องย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ตั้งแต่เด็ก ๆ ทุกบ้าน มีปัญหา บ้านเราเองก็มีปัญหา ถูกรักจากพ่อกับแม่นะ ทุก

ๆ คนคุณพ่อคุณแม่รักลูกทุกคนอยู่แล้ว แต่ไม่เคยมีใครมานั่งสอนวิชาเลี้ยงดูลูกยังไงให้ถูกต้อง คุณพ่อกับคุณแม่ไอซ์ ก็สอนด้วยความรัก แต่อาจจะใช่ในมุมมองความคิดเหล่านั้น ในการเลี้ยงดูเราที่เขาคิดว่าดีที่สุดสำหรับเรา ก็อาจจะมีปัญหากันบ้างข้างในบ้าน การทะเลาะเบาะแว้ง กันเป็นเรื่องธรรมดา ครอบครัวเป็นสถาบันแรก สำคัญมาก ไอซ์รู้สึกว่า คุณแม่ได้จากเป็นจากไอซ์ไปแล้ว นานแล้วล่ะ แต่คุณพ่อเราเนี่ย เพิ่งได้จากเป็นไปประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว แล้วสองคนนี้ก็น่าจะตายจากกัน อาจจะ 8 ปีที่แล้ว ตายจากเป็น ความทรมานกว่าตายจากตาย เพราะฉะนั้นก็เลยเป็นแบบที่เกิดขึ้นตอนนี้”

“ไอซ์เป็นคนแบบอดทน ๆ จนถึงขั้นที่ว่า ไม่เคยพูดคำว่าไม่ไหวแล้ว กับใครก็ตาม ทั้งที่ข้างในไม่ไหวแล้ว แต่ปากบอกว่า โอเคค่ะ ไม่เหนื่อย ข้างในได้ตายไปแล้ว แต่ข้างนอกยังมีชีวิตอยู่ ข้างในได้ตายไปแล้ว บ้านของไอซ์ในตอนนี้ เหมือนอยู่ในสถานการณ์ที่บ้านกำลังไฟไหม้ บ้าน ถูกไฟไหม้อยู่ แล้วเราอยู่ในนั้นกันทั้งสามคน

ใช้เวลากี่ปีในการอยู่ในบ้านที่ไฟไหม้ ?

“10 ปี ที่ไม่ออกมาจากไฟ เหมือนครอบครัวดูรักกันดีอบอุ่นดี ทุกอย่างเพอร์เฟกต์ แต่ความจริงแล้วเรารู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นยังไง สิ่งที่แสดงออกไปไม่ใช่การเสแสร้ง แต่เป็นการที่เราอยากได้สิ่ง ๆ นั้นต่างหาก”

หลังจากรักษามาแล้ว 8 ปี อาการดีขึ้นมั้ย ?

“ต้องบอกก่อนเลยว่ามีประสบการณ์เยอะกับการรักษาการทานยา อะไรก็แล้วแต่ที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ เพื่อที่เราจะใช้ชีวิตไปต่อ ที่ผ่านมามันเหมือนกับการใช้ชีวิตแบบ survival mode ในทุก ๆ วัน ตื่นมาก็ขอให้มัน ผ่านให้มันจบวันนี้ให้ได้”

“แล้วเหนื่อยมาก ๆ เพราะเราพยายามที่จะหาทางออกแต่หาไม่ได้ หลุมดินที่มีโคลนดูดอยู่ตลอดเวลา เราก็พยายามเอามือตะเกียกตะกายขึ้นมา มันดีขึ้นมั้ย มันดีขึ้นแต่ก็ดีขึ้นเป็นบางช่วง บางช่วงที่เราหนักจริง ๆ ถ้าตัว ต้นตอของปัญหายังอยู่ มันจะไม่ถูกแก้ไข เพราะฉะนั้นก็จะกลายเป็น infinity problem ต่อให้ยาครอบจักรวาล ก็ไม่ได้ช่วยเหลือ เพราะมันเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ ต้น

เหตุคือ ครอบครัว”

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากกลับไปแก้ไขอะไรมั้ย ?

“ไม่ ก็ไม่อยู่ดี เพราะก็อาจจะไม่ได้เจอน้ำชาก็ได้ อาจจะไม่ได้มีเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นกับเราตอนนี้ก็ได้ เราเลยไม่อยากย้อนกลับไป เราจะรู้สึกขอบคุณมากกว่า ถ้าเราไม่รู้จักความทุกข์ที่แท้จริง เราจะไม่รู้จักความสุขที่แท้จริง”

มีอะไรอยากบอกครอบครัวมั้ย ?

“ไอซ์รู้นะว่าพ่อกับแม่รักไอซ์มาก ๆ รักมาก ๆ แล้วก็ขอบคุณมาก ๆ ที่ทำให้ไอซ์เกิดมา และไอซ์ก็ยังดีใจ ต่อให้ไอซ์เลือกพ่อกับแม่ได้ ไอซ์ก็ยังเลือกเป็นพ่อกับแม่อยู่ดีเพราะพ่อกับแม่ทำให้ไอซ์มีวันนี้ และถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันบ้าง ในวันเกิด ก็แค่นี้แหละ รักพ่อกับแม่ที่สุด”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โรงพยาบาลแม่ลานยืนยัน แม่หญิงลี หรือพระมหาเทวีเจ้า ไม่ใช่บุคลากร!