เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

อุดรธานี – ชายชาวอุดรธานีอายุ 50 ปี ได้รับการช่วยเหลือจากพลเมืองดีและแอดมินเพจชุมชนหลังเดินทางกลับบ้านมาจากกรุงเทพฯ ด้วยเท้าเปล่าและจักรยาน หลังจากถูกโจรล้วงกระเป๋าจนเงินและบัตรประชาชนหายไปหมด ใช้เวลากว่าครึ่งเดือนในการเดินทางกลับถึงบ้าน

เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 นายเดช หรือ อู๊ด โสภาดี ชาวบ้านเมืองนาซำ ต.นาไหม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี มีเงิน 1,100 บาท จากภรรยาที่อยู่อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เพื่อเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ในขณะที่นอนรอรถไฟที่สถานีกรุงเทพฯ นายเดชกลับถูกโจรล้วงกระเป๋าขณะหลับ ทำให้เงินติดตัวและตั๋วรถไฟหายไป

 

จึงตัดสินใจเอาไงเอากัน ขอเดินกลับบ้านแล้วกัน ก็เดินมาเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก พอมาถึงสระบุรี ก็เดินไปขอน้ำกินกับพี่รปภ.คนหนึ่งน่าจะเป็นโรงงานไก่

รปภ.ก็ถามว่าจะไปไหนอย่างไร ผมก็เล่าให้เขาฟัง เขาสงสารก็เลยยกจักรยานให้เลยบอกว่าปั่นกลับบ้านพร้อมให้เงินมาจำนวนหนึ่ง ก็ปั่นมาเรื่อยๆ จักรยานเกิดยางรั่ว เงินก็ไม่มี

ก็ได้จากพระที่ออกบิณฑบาต และชาวบ้านที่สงสารให้ ทีละ 10 20 100 เอาไว้ซื้อข้าวกินมาเรื่อยๆ ปกตินอนตามศาลาริมทางกลางวัน กลางคืนค่อยเดินและปั่นจักรยานเพราะอากาศไม่ร้อน

ส่วนที่ว่าทำไมไม่แวะหาตำรวจให้เขาช่วย ตอนนั้นผมมืดไปหมด และเคยไปขอความช่วยเหลือที่สถานีรถไฟแล้วเห็นเขาบอกมามีปัญญามาก็มีปัญญากลับบ้าน เลยไม่กล้าไปขอความช่วยเหลืออีก

ตอนแรกว่าจะกลับเพชรบุรี ก็ไม่อยากกลับเพราะภรรยาก็ไม่มีตังค์ จึงตัดสินใจต้องกลับบ้านที่อุดร ก่อนเดินมายกมือขึ้นท่วมหัว ยังไงต้องกลับบ้านไปตายเอาดาบหน้า

ตอนเดินทั้งเหนื่อยทั้งท้อ คิดในใจหิวต้องแวะวัด นอนข้างศาลา กินผักกระถิน กินน้ำที่เหลือตกอยู่ข้าง ผมคิดเสมอใจว่า ยังไงต้องตายบ้านเกิด แม้ขาเดินไม่ไหว แต่ใจต้องสู้ ผมต้องมาหาพี่สาวและญาติๆ ให้ได้

ดีใจที่ได้กลับมาถึงบ้านแล้ว เหมือนตายแล้วเกิดใหม่เลย ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือทั้งพระ ชาวบ้าน และลุงรปภ.ที่ให้จักรยานปั่นกลับบ้าน ชาตินี้ผมจะไม่ลืมพระคุณเลย นายอู๊ดพูดไปก็น้ำตาไหลสะอื้นร้องไห้ออกมา

ขณะที่นางพัชรี ปัจจะสุชาติ อายุ 60 ปี ภรรยานายอู๊ด บอกว่า สามีอยากกลับมาบ้านเทศกาลสงกรานต์จึงให้เงินติดตัวมา 1,100 บาท ออกมาตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.67 สามีไม่มีโทรศัพท์ติดตัว จากนั้นก็โทรหาพี่สาวสามีก็บอกว่ายังไม่ถึงบ้าน

ก็ตกใจขึ้นรถโดยสารมาที่อุดรทันที ไม่รู้ข่าวคราวเลยไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ทั้งไปแจ้งความคนหายและก็ไปดูหมอดูให้ท่านช่วย ท่านบอกว่า สามียังไม่ตาย เหมือนหลงทางอยู่ ใจเราก็เฝ้ารอ เมื่อวานเห็นหน้าสามีดีใจมาก ไม่คิดว่าเขาจะรอดมาได้ จากนี้ไปคงให้สามีไปบวชสักระยะที่วัด

ทางด้านนางดวงดาว โสภาดี อายุ 51 ปีพี่สาว บอกว่า น้องชายจะกลับมาเยี่ยมบ้าน เราก็เฝ้ารอ ผ่านวันแล้ววันเล่าก็ไม่เห็น จนภรรยาเขาขึ้นมาวันที่ 17 เม.ย.ไม่เห็นสามีก็ตกใจ พี่ๆ ก็ใจหาย

ไปแจ้งความก็แล้ว หาหมอดูก็แล้ว จู่ๆ โผล่มาบอกว่าถูกล้วงกระเป๋าไม่มีเงินกลับบ้าน ทุกคนที่เป็นญาติและชาวบ้านก็ดีใจ เหมือนน้องชายตายแล้วเกิดใหม่ ดีใจที่เห็นกลับมาบ้านครบ 32 ประการ พี่สาวกล่าวด้วยความดีใจ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ไม่ได้หายไปไหนนะจ๊ะ แมท นั่งแท่นCEO ยังไม่ทิ้งภาพเจ้าแม่แคปชั่นเริศ

ชาวสวนน้ำตาไหลริน ผลไม้ทางการเกษตรเหี่ยวแห้งตายคาต้น

by TVPOOL ONLINE