เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่าร้านจำหน่ายทุเรียนในจังหวัดชลบุรีโกงเครื่องชั่ง ทำให้ผู้บริโภคถ่ายคลิปวิดีโอแล้วนำเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ทางอธิบดีกรมการค้าภายในจึงสั่งการให้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เข้าตรวจสอบสถานที่ตามข่าว โดยมีหมายค้น
จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าของร้านเป็นผู้นำตรวจ แต่ไม่พบเครื่องชั่งตามภาพข่าว เมื่อสอบถามเจ้าของร้านยอมรับว่าไม่ทราบว่าเครื่องชั่ง 2 ตัว ตัวไหนมีความไม่เที่ยงตรง เนื่องจากใช้เครื่องชั่งดังกล่าวมาเป็นเวลานาน เมื่อได้รับการทักท้วงจากลูกค้า เพื่อไม่ให้ร้านเกิดความเสียหาย จึงนำเครื่องชั่งดังกล่าวไปทิ้งตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และซื้อเครื่องชั่งใหม่มาเพื่อจำหน่ายสินค้าเรียบร้อยแล้ว และนำมาแสดงเพื่อสอบเทียบความเที่ยงตรง พบว่ามีความเที่ยงตรงถูกต้อง
ทั้งนี้ ในส่วนของเครื่องชั่งที่นำไปทิ้ง เจ้าหน้าที่ได้ขอให้ไปชี้จุดที่ทิ้ง แต่ไม่พบเครื่องชั่งดังกล่าวแล้ว เจ้าพนักงานชุดเฉพาะกิจจึงแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 270 ป.อาญา ผู้ถูกกล่าวหารับทราบและรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรพานทอง เพื่อลงบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายอุดม กล่าววว่า ในช่วง 5 เดือนแรก (มกราคม-พฤษภาคม) ปี 2567 กรมการค้าภายในได้ดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 และ พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 ไปแล้วทั้งสิ้น 172 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง 295 ราย หรือลดลง 63% โดยแบ่งออกเป็นความผิดในกรณีต่าง ๆ ดังนี้
– ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายปลีก 24 ราย
– แสดงราคาจำหน่ายปลีกไม่ตรงกับราคาที่จำหน่าย 19 ราย
– ไม่มีหนังสือขนย้ายสินค้าควบคุม หรือคิดค่าชั่งน้ำหนักการรับซื้อสินค้าเกษตร 5 ราย
– ไม่แจ้งปริมาณครอบครองภายในกำหนดเวลา 2 ราย
– ใช้เครื่องชั่งที่ไม่ตรวจรับรอง 73 ราย
– บรรจุปริมาณไม่ครบตามที่แสดง 12 ราย
– เครื่องชั่งไม่เที่ยงตรง 12 ราย
– ไม่ปฏิบัติตามประกาศที่เกี่ยวข้อง 9 ราย
– เครื่องชั่งเสื่อมสภาพ 7 ราย
– ดัดแปลงเครื่องชั่ง 5 ราย
– ไม่นำเครื่องชั่งมาตรวจให้คำรับรอง 4 ราย
นายอุดมกล่าวต่อว่า หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 เพื่อจะได้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ขอย้ำให้พ่อค้าแม่ค้าใช้เครื่องชั่งที่ผ่านการตรวจสอบและได้รับการรับรองจากกรมการค้าภายในแล้ว หากพบเครื่องชั่งที่ไม่ผ่านการตรวจสอบให้คำรับรอง จะมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตราชั่งตวงวัด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายอุดม กล่าวอีกว่า หากพบมีการดัดแปลงแก้ไขเครื่องชั่งจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้ามีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท และผู้ประกอบการใดที่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า จะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข่าวที่น่าสนใจ
“คุณแม่วัจฉสา” ว่าที่แม่ยายเผย “นนกุล” ชนะใจเพราะอะไร?
by TVPOOL ONLINE