เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เป็นอีกหนึ่งงานที่ ทางด้าน “เอส กันตพงศ์” รับงานพิธีกร ในงานแถลงข่าวการประกวด “Miss Wellness World Thailand 2025”  จึงได้มีโอกาสได้ถามถึงสาเหตุการตัดสินใจ รับเป็นพิธีกรคุยแซ่บโชว์ ลั่นใช้เวลาตัดสินใจนาน เพราะไม่ใช่ทางที่ถนัด ยังต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับรายการร่วมกับพิธีกรคนอื่นๆ ด้วย ยันไม่รู้วาาตนเองต้องมาแทน  “ดีเจพีเค” เพราะช่วงที่ตนป่วย ทำให้ลืมเรื่องในอดีตทั้งหมด ทุกอย่างต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เหมือนเด็กเกิดใหม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โดยเอสเผยว่า “คุยแซ่บโชว์” ก็ตัดสินใจนาน ประมาณ 3-4 เดือนมั้งครับกว่าจะตอบตกลงกับผู้ใหญ่ เจอกันผู้ใหญ่ก็นัดทานข้าว 2-3 ครั้ง คือผมก็ไปศึกษาทำการบ้านหาข้อมูล รายการดีมากๆ นะครับ แต่ตัวผมเองจะเหมาะสมกับรายการหรือเปล่า เพราะผมจะเป็นคนชอบถามคำถามเจาะลึก ละเอียด เราจะไม่ค่อยได้ถามคำถามเรื่องครอบครัวของเขา หรือคำถามที่เป็นเรื่องส่วนตัวเท่าไหร่ ผมจะไม่ถนัด

แต่พอดีคุยกับผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็บอกว่าในมุมที่ผมมาก็อยากจะให้เอามุมของผมไปเพิ่ม ไปปรับดูในสไตล์ของผม อันไหนอยากถามเพิ่มก็ถามได้เลยผมดูคลิปประมาณ 40-50 คลิปของรายการคุยแซ่บโชว์ ที่ตัดสินใจนานเพราะดูแล้วไม่เหมือนสไตล์ผมเลย (หัวเราะ) แต่พอมันเป็นฮาร์ดทอล์ก แล้วผู้ใหญ่บอกว่าอยากให้เอาสไตล์ของผมมาปรับดู เพื่อคุณผู้ชมจะได้รับชม รับฟังในมุมที่ไม่เคยได้ฟังในรายการนี้ด้วย ถ้าสังเกตผมจะเป็นคนชอบคิดก่อนจะถาม ก็คือนอกเหนือสคริปต์จะมีคำถามอะไรที่อยากจะถามจริงๆ ก็เลยรู้สึกว่ารายการนี้ก็เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกว่าผมน่าจะชอบมากขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วย คือชอบอยู่แล้ว และพอมารู้แนวทางอย่างนี้ก็น่าจะชอบมากขึ้นไปอีก”

เผยต้องปรับตัวกับพิธีกรร่วม และการพูดด้วย คือทุกคนดีหมด แต่ผู้ใหญ่บอกว่าให้ผมพูดให้เร็วขึ้นหน่อย อย่าพูดทางการมาก ข้อเสียก็คือผมยังเปิดรายการไม่ได้ตามที่รายการเป็น จนอาทิตย์ที่ 2-3 ผมก็บอกว่าผมยังไม่กล้าเปิดรายการ ผมขอดูเพื่อนๆ ทำก่อนได้ไหม และเวลาพูดส่งกัน พิธีกรแต่ละคนก็จะมีบุคลิกต่างกันไป แล้วผมเป็นคนไม่กล้าขัดคนอื่นพูด ผมก็ปล่อยให้เขาพูดไปเรื่อยๆ พอมาดูในสคริปต์ก็เอ๊ะมันถึงคิวที่ผมต้องพูดแล้ว แต่เขายังพูดไม่จบแล้วผมจะยังไงดี มีช่วงนึงที่ผมแอบยกมือ แอบส่งคิว เพราะผมดูกล้องแล้วว่าไม่ได้ถ่ายมาที่ผม เพื่อว่าขอผมพูดแล้วกัน แต่ทางพี่ๆ ทีมงานบอกว่ารายการเราไม่ได้ซีเรียส ไม่ได้เหมือนรายการที่ผมพูดเป็นทางการ ใส่อะไรก็ใส่ได้เลย ไม่ต้องเป๊ะ เน้นเอ็นเตอร์เทน เน้นความสนุก

 

 

บอกไม่รู้ว่าต้องมาแทน “พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร”

“เริ่มชินกับความแซบมากขึ้นครับ อย่างที่เขาบอกว่าให้พูดมากขึ้น ให้ขัด ให้แทรกได้เลย แต่ผมเป็นคนไม่กล้าทำแบบนั้น กับพิธีกรบางท่านก็จะมีส่งสายตาให้รู้ว่าให้ผมพูดต่อ ก็เลยรู้ว่าอันนี้เข้าขากัน ก็จะมีการส่งสายตาบอกกันแบบนี้ ถามว่าได้คุยกับดีเจพุฒ (พุฒิชัย เกษตรสิน) เรื่องมาแทนพี่พีเคไหม ตรงนั้นไม่ได้พูดคุยกันเลยครับ ซึ่งผมก็ได้มาซ้อมกับดีเจพุฒก่อนจะมาทำรายการจริง ก็รู้สึกว่าเข้าขากันมากๆ สไตล์ใกล้เคียงกัน ก็คือพูดไม่เร็วเท่าไหร่ พูดช้าๆ ประมาณนึง

แต่เรื่องต้องมาแทน อันนี้ต้องบอกว่าผมไม่ทราบจริงๆ ครับ ไม่ใช่ว่าผมโกหกหรืออะไร เพราะทุกคนน่าจะทราบว่าผมป่วยมา เพราะฉะนั้นความจำในอดีตหายหมดเลย

ผมไม่ทราบเลยว่าก่อนหน้านี้มีพิธีกรท่านไหนบ้าง ผมยังต้องมานั่งจดเลยว่าพิธีกรคนนี้ ชื่อนี้ หน้าตาแบบนี้ เพราะผมลืมหมดเลย แม้กระทั่งบางทีจะพูดก็ลืมชื่อที่เคยถ่ายละครด้วยกัน ผมก็ยังบอกว่าขอโทษนะครับ ผมคุ้นๆ ว่าเคยถ่ายละครหรือไปออกงานอะไรด้วยกันไหม เขาก็บอกว่าใช่ เคยไปด้วยกัน”เผยที่ทำพินัยกรรมยกสมบัติทั้งหมดให้ภรรยาก่อนจะผ่าตัด ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

 

แต่เรื่องพินัยกรรมจำได้ว่ามอบให้กับภรรยาทั้งหมดเลย แต่ความยากคือผมจำไม่ได้ว่าทรัพย์สินมีอะไรบ้าง แต่ก็มีให้คุณแม่เป็นพยานร่วมด้วย ถามว่าตอนนี้กลับมาเกือบ 100% แล้ว พินัยกรรมนั้นยังสมบูรณ์หรือว่าเป็นโมฆะ คือพินัยกรรมเป็นอะไรที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาครับ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ยอมรับจำไม่ได้เลยว่ามีสมบัติอะไรบ้าง และเก็บเอาไว้ที่ไหน อันนี้จำไม่ได้เลยว่ามีอะไรยังไงบ้าง

by TVPOOL ONLINE