ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ปลดปล่อยคำผรุสวาทล่าสุดอีกแล้ว หลังสหภาพยุโรปเรียกร้องให้เขายุตินโยบายการปราบปรามยาเสพติดที่รุนแรง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายประเทศในอียูได้ร่วมกันเรียกร้องให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากสงครามยาเสพติดครั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนเป็นต้นมา วันที่ประธานาธิบดีดูเตอร์เตขึ้นดำรงตำแหน่ง มีประชาชนเสียชีวิตไปแล้วประมาณ 3,500 จากนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของเขา ซึ่งในจำนวนนี้การวิสามัญเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวผู้กระทำ
ด้านดูเตอร์เตเมื่อได้ทราบข่าว ก็มีปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างโกรธเกรี้ยวว่า ตัวเขานั้นได้อ่านการประนามจากสหภาพยุโรปแล้ว และจะบอกพวกเขาว่า “ฟัคยู” ที่อียูพากันสนใจก็เพราะต้องการที่จะลบล้างบาปในอดีต ที่เคยล่าอาณานิคมในภูมิภาคนี้ ดังนั้นอียูจึงกล่าวโทษมาที่ตัวเขา ดังนั้นเขาจะย้ำอีกครั้งว่า “ฟัคยู” ดูเตอร์เตกล่าวในระหว่างสุนทรพจน์ในเมืองดาเวา บ้านเกิดของเขา พร้อมชูนิ้วกลางมอบให้แก่อียู
ดูเตอร์เตพยายามบอกว่าอียูกำลังทำเพื่อแก้ไขความรู้สึกผิดบาปในอดีต จากการล่าอาณานิคม เช่น สิ่งที่อังกฤษ และฝรั่งเศสทำกับหลายประเทศในอาเซียน
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีดูเตอร์เตเพิ่งจะเรียกประธานาธิบดีโอบามาว่าเขาเป็นลูกโสเภณีไป หลังถูกวิจาณ์เรื่องนโยบายปราบปรามยาเสพติด ซึ่งดูเตอร์เตได้ออกมากล่าวขอโทษในภายหลัง
และล่าสุดผู้เสียชีวิตจากการปราบปรามยาเสพติดคือชาวต่างชาติ มาเรีย ออโรรา มอยนิฮาน วัย 45 ปี ลูกสาวของบารอนแอนโธนี มอยนิฮาน ขุนนางแห่งสหราชอาณาจักร รายงานจากตำรวจฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า มีผู้พบศพของมาเรีย ออโรรา มอยนิฮาน บนถนนแห่งหนึ่งในกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา โดยสภาพศพถูกยิงหลายนัด ทั้งยังมีห่อบรรจุยาบ้าและป้ายข้อความกล่าวหาว่ามอยนิฮานเป็นผู้จัดหายาเสพติดให้แก่เหล่าคนดังในฟิลิปปินส์ถูกทิ้งไว้ข้างศพอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ มอยนิฮานเคยถูกจับกุมในคดีที่เกี่ยวพันกับยาเสพติดและได้รับการประกันตัวเมื่อปี 2556 ส่วนบารอนแอนโธนี มอยนิฮาน ผู้เป็นบิดาของทั้งคู่ เคยถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดและค้าประเวณีในฟิลิปปินส์มาก่อนเช่นกัน
ที่มา – http://www.posttoday.com/