เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 26 มกราคม 2568 – เกษตรกรหญิงเจ้าของไร่อ้อยในจังหวัดหนองบัวลำภูตกเป็นกระแสหลังโพสต์ภาพเซลฟีตัวเองขณะจุดไฟเผาใบอ้อยในสื่อโซเชียล พร้อมข้อความขอบคุณเพื่อนบ้านที่มาช่วยดับไฟ ซึ่งทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ โดยมีการตั้งคำถามถึงผลกระทบจากการเผาอ้อยที่อาจเพิ่มปัญหาฝุ่น PM 2.5 และไฟป่าในพื้นที่

เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 23 มกราคม 2568
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา เวลา 18.30 น. หญิงวัย 59 ปี ชาวบ้านบ้านกุดแข้ หมู่ที่ 10 ตำบลทรายทอง อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู ได้ทำการเผาใบอ้อยที่เหลือหลังการเก็บเกี่ยวในพื้นที่ประมาณ 2.8 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์ลมหนุนทำให้ไฟลุกลามจนไม่สามารถควบคุมได้เอง จึงได้ขอความช่วยเหลือจากญาติและเพื่อนบ้านมาช่วยดับไฟ

หลังจากไฟดับแล้ว หญิงเจ้าของไร่อ้อยได้โพสต์ภาพเซลฟีของตนกับเปลวไฟในเฟซบุ๊ก เพื่อขอบคุณชาวบ้านที่มาช่วยดับไฟโดยไม่รู้ว่าการเผาอ้อยเป็นความผิดตามกฎหมาย จนกระทั่งโพสต์ดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตที่มองว่าการเผาอ้อยในขณะนี้เพิ่มปัญหาฝุ่น PM 2.5 และไฟป่า

 

การดำเนินการของหน่วยงาน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ได้สั่งการให้หน่วยงานท้องถิ่นดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดกับผู้โพสต์ตามกฎหมาย โดยคณะเจ้าหน้าที่พบว่าการเผาไร่อ้อยหรือพื้นที่ตอซังหลังเก็บเกี่ยวเป็นความผิดตามคำสั่งการห้ามเผาในพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัด ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 14,000 บาท

นอกจากนี้ ในระหว่างการตรวจสอบยังพบเหตุการณ์เผาตอซังในพื้นที่อีก 4 แปลง เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีทั้งหมด

ผู้โพสต์ขอโทษและยอมรับผิด
หญิงเจ้าของโพสต์กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าการเผาใบอ้อยเป็นความผิด และหากรู้คงจะไม่ทำอย่างนั้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนและสังคมที่ทำให้เกิดกระแสดราม่า โดยบอกว่าเป็นครั้งแรกที่ทำไร่อ้อยและไม่ได้ตั้งใจที่จะทำผิดกฎหมาย เธอยังฝากเตือนเกษตรกรคนอื่น ๆ ให้หลีกเลี่ยงการเผาและใช้วิธีการอื่นแทน

มาตรการป้องกัน
ทางนายศักรินทร์ โพธินาม ปลัดอำเภอศรีบุญเรือง ได้แจ้งกำชับกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการเผาอ้อยหรือเผาป่า เนื่องจากการเผาทำให้เกิดมลพิษทางอากาศและมีผลกระทบต่อปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาของประเทศอยู่ในขณะนี้ พร้อมทั้งขอให้ดำเนินการตามกฎหมายหากพบการเผาเกิดขึ้น

เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความจำเป็นในการให้ความรู้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับผลกระทบจากการเผาอ้อยและการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อป้องกันปัญหามลพิษทางอากาศที่เกิดจากการเผาทุกชนิด

ข่าวที่น่าสนใจ

จับคนลักลอบเผารายแรก เมืองกาญจนบุรี อ้างจุดไฟตีผึ้ง แถมตรวจฉี่สีม่วง ส่งเข้าห้องขังทันที

รักกันอย่าดึงแรง ๆ  ลำไย ไหทองคำ ถูกแฟนคลับดึงมือจนเล็บหลุด เจ้าตัวสปิริตแรง ไม่วีน แถมเอนเตอร์เทนต่อ

by TVPOOL ONLINE