เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล หลังเธอโพสต์ระบายความรู้สึกถึงโรงพยาบาลที่ทำการรักษาลูกชายของตัวเอง โดยหญิงรายนี้โพสต์ ระบุว่า

“เข้มแข็งขนาดไหน มันก็ต้องอ่อนแออยู่ดี เมื่อมาเห็นลูกในสภาพที่ซูบผอมอิดโรยแบบนี้ น้ำตาไหล หลบสายตาลูกแทบไม่ทัน กูเข้าใจเคสที่ญาติคนไข้ตบพยาบาลก็ตอนนี้แหละ อยากทำเหมือนที่ผู้ชายคนนั้นทำเหมือนกัน ฟังคุณหมอพูดจนจบ พอเราถามกลับมาตอบไม่ทันจบแล้วเดินหนี โยนกันไปมา บายเบี่ยงที่จะตอบ

#พูดแต่จะเจาะคอลูกเราเพื่อให้อาหาร แม่ตกลงมั้ย กูไม่ให้ลูกเจ็บไปกว่านี้แล้ว แค่นี้ใจก็สลายแล้ว ลูกเราผ่าตัดไส้ติ่งแตก ลากมาเป็นอาทิตย์งดน้ำงดอาหาร น้องไม่เย็บแผลที่ผ่า พอรู้ว่าเราไป เย็บแผลและให้น้องจิบน้ำ เป็นอะไรที่ข้องใจ ถามไปคำตอบก็ไม่ชัดเจน #ทำเรื่องพาลูกกลับรักษาต่อบ้านเรา พอแล้วเมืองหลวง

หลายคนวิจารณ์หนัก เนื่องจากโรงพยาบาลที่ทำการรักษาเป็นโรงพยาบาลรัฐอันดับต้นๆของประเทศ ที่ใครๆก็อยากเข้ารับบริการ อีกทั้งการให้อดอาหารก็เป็นวิธีการรักษาปกติของคนที่ผ่าตัดไส้ติ่ง ยิ่งเป็นอาการไส้ติ่งแตกเสี่ยงติดเชื้อในช่องท้อง แพทย์ก็ยิ่งต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ การไม่เชื่อฟังคำแนะนำของแพทย์อาจนำมาสู่อันตรายถึงชีวิตก็เป็นได้

สิ่งที่หญิงรายนี้ข้องใจ ก็คือขั้นตอนการรักษาของแพทย์ ทั้งการงดน้ำงดอาหาร การไม่เย็บแผล วันที่เห็นว่าได้เย็บแผลและจิบน้ำได้ นั่นคือวันที่ครบกำหนดตามที่แพทย์วางไว้นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าโพสต์นี้ได้ถูกลบออกไปแล้ว เนื่องจากกระแสสังคมพุ่งเป้าโจมตีแม่รายนี้ ทั้งการไม่เข้าใจกระบวนการรักษา และคำขู่ที่บอกว่าอยากทำร้ายร่างกายพยาบาล นี่เป็นอีกสิ่งที่สังคมควรตระหนักถึงความสำคัญของการให้เกียรติกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งฝั่งบุคลากรและฝั่งประชาชน

ต่อมาทางด้านเพจ Drama-addict ได้ออกมาอธิบายถึงเคสนี้ว่า “ไส้ติ่งแตก แผลจะไม่เย็บทันที ต้องเปิดแผลไว้ก่อน แล้วทำแผลเรื่อยๆ ป้องกันการติดเชื้อ ถ้าติดเชื้อขึ้นมา เรื่องใหญ่ จะเกิดการอักเสบในช่องท้อง อันตรายถึงตายได้ และการให้กินอาหาร ต้องค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากอาหารเหลว อาหารอ่อนตามลำดับ ยิ่งเป็นไส้ติ่งแตกยิ่งต้องระวัง ถ้ารีบกิน ไส้ทะลุ ตายได้นาจา”

by TVPOOL ONLINE