เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ชนะคดีประวัติศาสตร์ “อิงฟ้า วราหะ” เปิดใจหลังศาลยกฟ้องละเมิดสัญญา ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหาย 1.2 พันล้าน

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

หลังจากที่ทนายความของอิงฟ้า วราหะ, มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022, ได้เปิดเผยคำพิพากษาของศาลที่ตัดสินว่าเธอชนะคดีในเรื่อง “สัญญาไม่เป็นธรรม” จากกรณีที่ถูกต้นสังกัดเดิมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจำนวนมากถึง 1,245,500,000 บาท ล่าสุด อิงฟ้าได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ผ่านการสัมภาษณ์ โดยเผยความรู้สึกหลังจากที่ศาลตัดสินให้เธอชนะคดี “หนูรู้มาสักพักแล้ว เรารอทางองค์กรและทีมทนายว่า เราจะสามารถพูดเรื่องนี้ได้ตอนไหน และอันนี้เป็นการชนะแค่ศาลตั้งต้นเฉยๆค่ะ เขายังมีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์ได้ สำหรับครั้งที่สองคือภาพโดยรวมที่คุยกับทางทีมทนายก็ต่อสู้เพื่อความถูกต้องแล้วก็ข้อเท็จจริง ไม่มีอะไรต้องกลัว อีกอย่างกำลังใจดีมากจากทุกคน พอทางทนายมีการประกาศออกไปคือ ทุกคนก็แห่เข้ามาให้กำลังใจ พี่ๆในวงการบันเทิงทุกคนเหมือนรอฟังข่าวนี้มานาน ถือว่าสิ่งที่ดีสำหรับปีนี้กับการเริ่มต้น มารอดูในขั้นตอนต่อไปว่าจะเป็นยังไง มีการถามกับทางทีมทนายแล้วว่าเราจะมีการเตรียมตัวยังไงบ้างกับทางนั้นต่อไป คือสุดท้ายเราสู้ด้วยความจริง ความถูกต้อง ไม่มีอะไรต้องกลัว ดูทิศทางในครั้งที่สอง คิดว่ามันเป็นไปในทิศทางที่ดีก็เบาใจ พูดจริงๆหนูไม่ได้กลัวอยู่แล้วกับการที่เขาฟ้องเรามาตั้งแต่แรก สำหรับ1.3 ล้าน เรามองว่ามันไม่สมเหตุสมผลมันไม่จำเป็นที่จะต้องจ่าย เพราะว่ามันมีในส่วนของการที่เราเสียเวลา เสียโอกาสหลายๆอย่างในตอนนั้น ตอนนี้ไม่กังวลเพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่าความถูกต้องและความยุติธรรมมันมีอยู่ในโลกจริงๆและศาลเขาก็น่าจะมองเห็นด้วย”

 

 

ตอนที่มันเกิดเรื่อง มันก็กวนใจไหม?

“กวนใจ เพราะเหมือนเราจะทำอะไรซักอย่างเกี่ยวกับธุรกรรม การทำงาน มันเป็นแผลในใจเรา เดี๋ยวก่อนนะเดี๋ยวค่อยทำ เหมือนมันรั้งเราไว้เหมือนมันเป็นโซ่ที่ติดขาเราไว้ แต่ว่าในวันนี้ก็ได้ปลดออกไปหนึ่งข้อแล้ว รอดูต่อไปว่ามันจะเป็นอิสระจากความกังวลใจตรงนี้เมื่อไหร่ ตัวฟ้าได้เจอกับทางคู่กรณีในศาล มีการพูดคุยกันเล็กน้อยก่อนที่เราจะเริ่มขั้นตอนต่างๆ”

 

รู้สึกยังไงที่ชื่อเรามันขึ้นว่าเป็นจำเลย?

“มันอยู่ที่มุมมอง คือในมุมมองเขา เราเป็นจำเลย แต่สำหรับเรา เราพร้อมที่จะพิสูจน์ความจริง แล้วตัวหนูเองอยากจะได้ความยุติธรรม แล้วก็ไอ้สิ่งที่เขาเคยหมิ่นประมาทเราในเพจ บางอย่างมันก็ไม่ได้เป็นความจริงเสมอไป หนูก็พร้อมที่จะพิสูจน์ แล้วก็พร้อมที่จะพูดความจริงต่อหน้าศาล ตอนนั้นมีความกดดันแล้วก็มีความกล้าหาญอยู่ในตัวเองด้วย ขอบคุณที่วันนั้นเรากล้าที่จะพูดกับเขา กล้าที่จะยืนหยัดด้วยตัวเอง เพราะที่ผ่านมาหนูกลัวมาตลอดเกรงใจไม่กล้าด้วย แต่วันนี้ต้องขอบคุณบอส ทีมทนายที่สู้มาด้วยกัน คอยให้กำลังใจกันตลอด ถามว่าถึงไหนเป็นยังไง ส่วนบอสก็หาทนายที่ดีที่สุดรอบคอบที่สุดเพื่อที่จะให้เราไม่เกิดข้อผิดพลาด”

 

ถ้าวันนั้นเราไม่ตัดสินใจความกลัวก็จะอยู่ในตัวเราไปตลอด?

“ใช่ค่ะ เพราะว่าหนูก็ 10 ปีเนอะ เหมือนเราเพิ่งจะได้เจอเขาอีกครั้งนึง คือมัน 10 ปีหนูว่าถ้าไม่ได้ตัดสินใจ สัญญามันคงต่ออัตโนมัติไปถึง 12 ปี ดีแล้วที่เราตัดสินใจมาประกวดมิสแกรนด์ ได้เจอบอสแล้วก็ผู้ใหญ่ที่พร้อมที่จะยืนเคียงข้างเรา”

 

จริงๆเราได้มีการคุยกันนอกรอบไหม?

“ได้คุยที่อยู่ที่ศาล ได้เจอกันครั้งแรกเลย เป็นประโยคเหมือนที่ตอนที่เรายังอยู่กับเขาเลย เหมือนเขาบอกเราว่า อยากจะให้เราเข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องฟ้องเรา แต่เราบอกว่าเราไม่เข้าใจหรอก เป็นการนั่งคุยกับเขาสองคนหน้าศาล เราเรียกเขาว่าแม่ ก็บอกว่าเราไม่เข้าใจจริงๆ แต่อยากให้แม่เข้าใจด้วยว่าทำไมวันนี้หนูต้องสู้ เพราะว่าที่ผ่านมา ช่วงที่เราไม่ได้มีวันนี้ เราก็ไม่ได้รับการติดต่อจากใครเลยจริงๆ แต่พอเรามีวันนี้ พอที่จะยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอ งเรากลับมาเจออะไรแบบนี้ อยากให้เขาเข้าใจเราด้วย เพราะเราก็เคยมีความรักความหวังดีต่อกัน มันเคยมีเคยเกิดขึ้น ที่ผ่านมาเราก็อ่อนน้อมตลอด อย่างเช่นเวลาที่เราไปประกวดเดอะวอยซ์ เรายอม เพราะว่าเขามีการโทรไปหาทีมงานเดอะวอยซ์ว่าให้ตัดเราออก เราก็ยอมตลอด หรือแม้กระทั่งตอนที่เราประกวดมิสแกรนด์สุพรรณในปีก่อนหน้านั้น มีข้อความไปทางพีดีมิสแกรนด์ ว่าถ้าเกิดให้เราเข้ารอบ จะฟ้อง เราถูกตัดสิทธิ์ออกไป จนกระทั่งมาประกวดมิสแกรนด์กรุงเทพฯ เราถึงได้พร้อมแล้วจริงๆ หลายปีที่เรายอม แล้วเราก็ไม่สู้เพื่อตัวเอง”

 

ในระหว่างที่สู้คดีมันสร้างความเสียหายเป็นเม็ดเงินมากขนาดไหน?

“ไม่มากไม่น้อย เราก็ต้องมีค่าใช้จ่ายด้านทีมทนายด้วย”

 

ได้คุยกับทนายไหมว่าคดีมันน่าจะจบลงยังไง มันก็ค่อนข้างยืดเยื้อมาสามปี?

“ได้ถามว่ามันมีวี่แววว่ามันจะจบยังไง จะต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ถ้าเลวร้ายที่สุดเป็นยังไง ดีที่สุดจะเป็นยังไง ให้เราเตรียมยังไงบ้าง แต่ทนายก็เชื่อว่า สุดท้ายแล้วใบเบิกความทั้งหมดที่เราเป็นลายลักษณ์อักษรมันเป็นความจริงที่เราพร้อมจะสู้ เขาไม่กลัว เราก็ไม่กลัว ทีมพร้อมที่จะพิสูจน์”

 

 

ถ้ามันจบแล้วทางเราได้รับข่าวดี จะฟ้องกลับไหม?

“ไม่ฟ้องค่ะ หนูอยากให้จบลงด้วยดีด้วยซ้ำ เราเองก็รู้สึกว่าช่วงที่มันมีความรักความหวังดีต่อกันมันก็มี แม้ว่ามันจะไม่ได้มากแต่มันก็มี เราก็อยากให้มันจบลงได้ด้วยดี สามารถเจอกันได้ คุยกันได้ร่วมงานกันได้ ในอนาคตมีอะไรให้เราช่วยเหลือ เราก็อยากช่วย”

 

สาเหตุที่ทำให้อิงฟ้าไม่มีเพลงเป็นของตัวเองคือเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยมั้ย?

“เกี่ยวค่ะ เพราะว่าในสัญญาคือห้ามทุกอย่าง ห้ามร้องเพลง ห้ามเดินแบบ ห้ามเป็นพิธีกร ห้ามทุกอย่างเลย ไม่สามารถมีเพลงเป็นของตัวเองได้”

 

ถ้าเกิดหลังจากที่ได้รับข่าวดีเราก็คงจะได้เห็นผลงาน?

“แฟนคลับก็รอคอยเพลงของเราจริงๆ เป็นเพลงที่เป็นเพลงพี่ฟ้าโจ๊ะๆสนุกๆ สักครั้งหนึ่ง”

 

คิดว่ามันจะเป็นตัวอย่างให้น้องน้องมิสแกรนด์ที่จะมาประกวด เขาได้ไปเคลียร์ตัวเองก่อนไหม?

“มันเป็นปัญหานึงที่บางทีองค์กรก็ไม่สามารถที่จะช่วยเราได้ทุกครั้งตลอด ถ้าหากว่าบางทีข้อเท็จจริงความผิดพลาดมันเกิดจากเด็กก็มี เพราะฉะนั้นก็อยากให้น้องๆ ดูเรื่องของสัญญาให้ดี สุดท้ายมันมีผลต่อการประกวดเช่นเดียวกัน แล้วมันก็จะมีปัญหาตามมาบานปลายไปอีก อย่างที่บอกว่า องค์กรไม่สามารถที่จะปกป้องเราได้ อย่างตัวเองฟ้าพร้อมที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าเราเจออะไรมาบ้าง แล้วความโชคดีของของเราก็คือ เรามีศิลปินที่เคยอยู่ในค่ายเขาที่เจอเหตุการณ์แบบเดียวกับเรา เรามีพยานที่พร้อมจะสู้ไปด้วยกัน คือหนูว่าเรื่องแบบนี้มันไม่มีใครอยากเจอ ถ้าเป็นไปได้ จะเซ็นสัญญาจะทำอะไรก็คิดดีๆ”

by TVPOOL ONLINE