ศาลยกฟ้อง “อ.อ๊อด” หลัง “ดีเจเคนโด้” ยื่นฟ้องคดีหมิ่นประมาท จากนี้เตรียมฟ้องกลับ ลั่น ตอนฟ้องแถลงข่าวใหญ่โต พอศาลยกฟ้องเงียบกริบ

พิเคราะห์แล้วเห็นสมควรวินิจฉัยก่อนว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 96 บัญญัติว่า ในกรณีความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายไม่ได้ร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิด เป็นอันขาดอายุความ

คดีนี้โจทก์เบิกความยืนยันว่า จำเลยให้สัมภาษณ์กับนักข่าวโดยมีข้อความอันเป็นการใส่ความโจทก์ เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2567 ตามวัตถุพยานหมาย วจ.1 แม้โจทก์จะเบิกความตอบทนายโจทก์ซักถามโจทก์ เพิ่งได้ดูวิดีโอฉบับที่จำเลยกล่าวถึงโจทก์เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2567 หาได้ทราบถึงการกระทำดังกล่าวของจำเลยก่อนหน้าหน้านั้นก็ตาม

แต่โจทก์ก็เบิกความตอบคำถามค้านของทนายจำเลยว่า สาเหตุที่โจทก์ได้ไปให้สัมภาษณ์กับนักข่าวในวันที่ 16 และ 18 ต.ค. 2567 นั้น เนื่องมาจากโจทก์ทราบจากนักข่าวคนหนึ่ง โดยนักข่าวคนดังกล่าวสันนิษฐานว่า บุคคลที่จำเลยให้สัมภาษณ์ถึงนั้นเป็นโจทก์หรือไม่

ต่อมาโจทก์ให้สัมภาษณ์กับพิธีกรรายการ… ในวันที่ 18 ต.ค. 2567 ตามเอกสารหมาย ล3 เกี่ยวกับเรื่องที่จำเลยกล่าวถึงโจทก์ แม้ได้ความว่าโจทก์ตอบคำถามพิธีกรรายการดังกล่าวว่าอย่างไร แต่โดยวิสัยบุคคลที่ประกอบอาชีพสื่อสารมวลชน และมีประสบการณ์เป็นผู้ประกาศข่าว ดีเจ และจัดการรายโทรทัศน์ 25 ปี เช่นเดียวกับโจทก์ ย่อมต้องไปศึกษาประเด็นนี้เพิ่มเติม

แสดงให้เห็นว่า โจทก์ได้ทราบเรื่องที่จำเลยกล่าวพาดพิงถึงโจทก์แล้วตั้งแต่วันดังกล่าว เมื่อความผิดตามที่โจทก์กล่าวหาจำเลยเป็นความผิดอันยอมความได้ โจทก์จึงต้องร้องทุกข์ หากมิได้ร้องทุกข์ก็ต้องฟ้องร้องดำเนินคดีภายในกำหนดเวลา 3 เดือน นับแต่วันวันที่ 18 ต.ค. 2567 เป็นต้นไป อย่างช้าสุดจะต้องร้องทุกข์หรือฟ้องร้องดำเนินคดีภายในวันที่ 18 ม.ค. 2568 เมื่อโจทก์ฟ้องคดีวันที่ 31 ม.ค. 2568 ซึ่งล่วงเลยอายุความดังกล่าว ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาหรือไม่ เพราะไม่มีผลทำให้คดีเปลี่ยนแปลงไป

พิพากษายกฟ้อง

ขณะที่ อ.อ๊อด ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ต่อไปก็จะฟ้องกลับนะครับ ฟ้องเท็จและเบิกความเท็จนะจ๊ะ”