วันที่ 7 ต.ค. 59 “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ยังไม่หมดหวัง แม้ล่าสุดบุกพ่าย ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) 1-3 ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่มบี นัดที่ 3 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา วางเป้าแก้ตัวจากเกมต่อไปที่จะพบกับ ทีมชาติอิรัก ให้ได้
จากการปราชัยดังกล่าวทำให้ช้างศึกยังไม่มีคะแนนจาก 3 นัดที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม “ซิโก้” มองว่าเสมือนผ่านมาแค่ครึ่งทางเท่านั้น ยืนยันยังไม่ยอมแพ้แน่นอน
“แน่นอนเด็กทุกคนก็เสียใจ เราไม่ได้ 3 แต้ม ครึ่งหลังเราก็ทำได้ดีนะครับ แทนที่เราจะได้ 2-2 ถ้า 2-2 เกมอาจจะเปลี่ยนได้ แต่แฟนบอลต้องยอมรับว่ามาเชียร์ที่สนามกันเยอะมาก ก็ต้องขอบคุณน้ำจิตน้ำใจของแฟนบอล” กุนซือช้างศึกกล่าว
“วันนี้เราต้องยอมรับว่าเวทีเอเชียนั้น เราต้องแข็งแกร่งกว่านี้ เด็กของเราอายุ 22-23 ยังไปต่อได้ ยังมีอนาคตอยู่ ฉะนั้นอย่าเพิ่งท้อ อย่าเพิ่งถอดใจ”
“แต่สิ่งที่เห็นวันนี้แฟนบอลยังไม่ถอดใจ นักฟุตบอลก็ไม่ควรจะถอดใจ วันนี้อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะพูดคุยแล้วเห็นรอยยิ้ม แต่เรายังมีภารกิจที่ต้องสู้ต่อ คือการพบกับอิรัก”
“อิรักเองเขาก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน คือแพ้มา 3 เกม เราต้องแข่งกับตัวเอง นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้ผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ ฉะนั้นวันนี้ก็อยากบอกกับแฟนบอลชาวไทยว่าให้กำลังใจน้องๆ เยอะๆ พวกเราจะพยายามทำให้ดีที่สุด”
“อิรักแข็งแกร่งขึ้นเยอะ มีการปรับเปลี่ยนทีม มีการผสมผสานกันระหว่างทีมชาติชุดใหญ่กับชุดโอลิมปิก ซึ่งเหมือนกับเรา ฉะนั้นไม่ใช่งานง่าย ยังคิดว่าเป็นงานหนักอยู่ แต่เราเชื่อว่าถ้าน้องๆ ทุกคนขวัญกำลังใจกลับมาเร็ว อะไรก็เกิดขึ้นได้ ก่อนมาเราตั้งเป้าไว้ 4 แต้มเป็นอย่างน้อย แต่เราพลาดในเกมนี้ ฉะนั้นเราจะต้องไปลุ้นต่อกับอิรัก” เฮดโค้ชช้างศึก กล่าว
ขณะที่ ขจร เจียรวนนท์ ผู้จัดการทีมชาติไทย กล่าวว่า “เสียดายนะครับ ลูกแรกของเขา (ยูเออี) จากที่ผมดูเทปนี่ก็ล้ำหน้า เพราะฉะนั้นประตูแรกผมว่าเขาไม่น่าจะได้ แน่นอนนักเตะไทยเล่นได้ดีที่สุดแล้ว เราก็พยายามเต็มที่”
“ครึ่งหลังเราก็เล่นได้ดีมาก สูสี ก็น่าเสียดาย พอเราบุกมากก็โดนสวนกลับมา จริงๆเสียดายครับเกมนี้เราน่าจะได้ 1 แต้ม ไม่เป็นไรครับ เกมหน้าเอา 3 แต้มให้ได้กับอิรัก”
โปรแกรมต่อไป ทีมชาติไทย จะออกไปเยือน ทีมชาติอิรัก ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่ 4 วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2559 ณ ปาส สเตเดียม กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน
ที่มา – thairath