หลังจากหมดสัญญาออกมาจากค่ายเดิม เหมือนเราหายเงียบไปเลย
“ช่วงนี้ก็อย่างที่ทราบกันว่าหมดสัญญากับค่าย “ทรูแฟนเทเชีย” แล้ว ก็หายไปเลยเหรอ ผมไม่รู้ตัวเองเลย คือก็หลายๆอย่างหลายๆช่วงครับ ช่วงนี้ก็กำลังเคลียร์เรื่องอนาคตให้ลงตัวอยู่ครับว่าจะยังไง ขอผมจัดการทำทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนดีกว่าแล้วค่อยบอกทีเดียวดีกว่า ว่าผมเป็นยังไง มายังไง จะไปที่ไหน”
แสดงว่าตอนนี้ยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญากับที่ใหม่เป็นลายลักษณ์อักษร
“ยังครับ ไว้ว่ากัน คืออยู่ในช่วงที่กำลังคุยกันและจัดการเรื่องข้อตกลงอะไรหลายๆอย่าง”
แต่หลายคนมองว่าเราไปซบ “แกรมมี่” แน่นอนแล้ว เพราะว่าเห็นเข้า-ออกที่นั่นอยู่บ่อยๆ
“ก็แล้วแต่จะคิดครับ ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะคิดแบบนั้น แต่ก็ไว้ผมจะประกาศออฟฟิเชียลด้วยตัวเองดีกว่า ว่าไปไหน หรืออยู่ที่ไหนยังไง”
บางคนอาจจะมองว่า ออกจากที่เก่า แล้วพอไปอยู่ที่ใหม่ก็จะไปไม่รอด เรากลัวมั้ย
“ถามว่ากลัวมั้ย ก็มีความกลัวอยู่บ้างครับ แต่ไม่ถึงกับมากมาย เพราะว่าสุดท้ายแล้ว มันก็คือสิ่งที่ไม่มีใครเลือกให้เรา เราเลือกด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นผลเป็นยังไงก็ต้องยอมรับ แต่ก่อนที่จะยอมรับหมายถึงว่า เราต้องทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่เราตั้งใจไว้ หรืออยากจะทำจริงๆ เมื่อได้โอกาศมาแล้ว ก็ต้องทำให้ดีที่สุดไปก่อน”
แนวทางในอนาคตข้างหน้าเราวางไว้ยังไงบ้าง
“เหมือนเดิมครับ เหมือนกับที่ผ่านๆมา คือจะมีการโฟกัสเรื่องเพลงเหมือนเดิม อาจจะต้องพัฒนาตัวเองมากขึ้น ขยันมากขึ้น ก็รอติดตามว่าจะเป็นยังไง ส่วนเรื่องละคร ซีรีส์ก็ยังเหมือนเดิมครับ ถ้ามีติดต่อเข้ามาก็ต้องพิจารณา”
กับค่ายใหม่ มีข้อจำกัดเรื่องรับงานละครรึเปล่า ว่าจะเล่นของค่ายได้อย่างเดียวห้ามไปเล่นที่อื่น
“อันนี้ต้องอยู่ที่การคุยครับ ผมก็ยังไม่ได้คุยกันถึงเรื่องนี้นะ ไว้ต้องลองดู”
อีกนานมั้ยกว่าเราจะบอกได้ว่าเซ็นสัญญากับค่ายไหน
“เรียบร้อยน่าจะช่วงพฤศจิกายนน่าจะเรียบร้อยดีทุกอย่างครับ”
แล้วช่วงนี้เราทำอะไรอยู่บ้าง
“นอน (หัวเราะ) ล้อเล่นๆ ช่วงนี้ก็ห่างหายไปบ้าง ก็กำลังเตรียมผลงานของตัวเองที่คิดว่าน่าจะได้ใช้ในอนาคตครับ ก็พยายามเตรียมทุกๆอย่างไว้ให้พร้อมครับ เผื่ออนาคตจะได้ใช้เลย ก็พวกเพลงเป็นหลักซะส่วนใหญ่ พวกการแสดงยังไม่ได้คุยถึงตรงนั้น ขอโฟกัสเพลงก่อน อย่างที่เคยบอกไปว่ามันต้องแอ็คทีฟและกระตือรือล้นมากกว่าเดิมครับ”
เตรียมปรับตัวให้เข้ากับทีมงานหรืออะไรใหม่ๆบ้างหรือยัง
“แน่นอนครับ คือไม่ว่าจะอยู่ที่เดิมหรือที่ใหม่ ก็ต้องปรับตัว หรือเปลี่ยนแปลงกันอยู่แล้ว เพราะผมเชื่อว่าจุดที่เรายืนต้องพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เราจะยึดถือแบบเดิมหรือไม่ปรับปรุงให้มันทันในแต่ละปี อาจจะดูลำบากนิดนึงครับ”
กลัวคนมองว่าเนรคุณกับค่ายเก่ามั้ย เพราะก็อยู่มาถึง 5 ปีแล้ว
“ไม่กลัวเลยครับ เพราะว่าผมไม่มีปัญหากับทางที่เก่าเลย ไม่มีปัยหากับ “ทรูแฟนเทเชีย” เลย เค้าใจดีกับผมมาโดยตลอด สังเกตได้จากผลงานทั้งหลาย ทั้งอัลบั้มที่ผมได้ ทั้งซีรีส์ ทั้งซิงเกิ้ล รวมถึงงานอื่นๆ ผมรู้สึกว่าไม่มีตรงไหนเป็นปัญหา และไม่คิดว่าเราจะมีปัญหากันแน่นอนครับ”
เพราะว่ามีเพื่อนๆเรา หรือรุ่นน้องๆหลายคนในเอเอฟไม่ได้เซ็นสัญญาต่อหลายคน
“ผมเชื่อว่าแต่ละคนมีทิศทางหรือแนวทางของตัวเองที่อยากจะเติบโตขึ้นไปอีกในแนวทางหรือทิศทางไหนมากกว่า ซึ่งผมก็มีในรูปแบบของผมเหมือนกัน ก็จากที่ได้คุยกันแล้ว ว่าแบบนั้นมันจะไปด้วยกันได้มั้ย หรือมันยังไม่ลงล็อคสักเท่าไหร่ ก็อาจจะต้องเป็นปัจจุบันเป็นหลัก ทำไปตามความฝันตัวเอง”
เราตัดสินใจเองมั้ยเรื่องย้ายค่าย
“หลายๆอย่างครับ มีการตัดสินใจของตัวเองด้วยส่วนนึง ของครอบครัวที่ช่วยกันคิดแล้ว ซึ่งเราก็ผ่านกระบวนการคิดมาแล้วว่า โอเคเราตัดสินใจแบบนี้แล้ว ที่บ้านก็แฮปปี้ครับ
คิดอยากจะโกอินเตอร์บ้างมั้ย เพราะอย่างซีรีส์ที่เราเล่น ก็มีคนจีนชอบ
“ถ้ามีโอกาสก็ถือว่าเป็นเรื่องดีครับ แต่ ณ ปัจจุบันที่โอกาสนั้นยังไม่มาถึง ผมว่าเราก็ทำผลงานของเราให้มันแน่น ให้มันดีที่สุด อย่างผมถ้ามีโอกาสมาปั๊บ ก็ต้องทำงานให้มีคุณภาพครับ”
ฝากถึงแฟนๆหน่อย เราเปลี่ยนบ้านหลังใหม่แล้ว เหมือนจะหายหน้าหายตาไปด้วย
“ไม่ได้ห่างหายไปไหนครับ ช่วงนี้ก็เตรียมงาน ทำงาน ถึงเวลาเราน่าจะได้เจอกันปกติแน่นๆเหมือนเดิมไม่มีปัญหา ก็ฝากทุกๆผลงานด้วย อย่าง U-Prince แม้ว่าตอน ทีเรกซ์ จะจบไปแล้ว ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวอนาคตเราเจอกันแน่นอน
ขอบคุณรูปจาก ANNABELLE / IG : kachanontanun
CR. SPOTLIGHT
