เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
        ขอแสดงความยินดีกับพระเอกหนุ่มสุดฮอท “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ที่ตอนนี้เรียนจบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ภายในเวลา 4 ปีแล้ว แถมยังได้เกียรตินิยมอันดับ 2 อีกด้วย
        แต่เรียนจบแล้ว ก็ยังมิวายงานเข้าอย่างจังอีก เมื่อมีคนมองงานเยอะแบบนี้ เอาเวลาที่ไหนไปเรียนจนจบ 4 ปี และยังคาใจด้วยว่าที่เรียนจบและได้เกียรตินิยมนั้นเพราะเป็นเด็กเส้นหรือเปล่า หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนออกมาแฉว่า “ณเดชน์” ไม่ค่อยเข้าคลาสเรียน การบ้าน รายงาน ก็อาศัยเพื่อนทำให้ แถมยังได้รับอภิสิทธิ์เข้าสอบสายเป็นชั่วโมงอีกต่างหาก ก่อนจะซัดไปถึงมหาวิทยาลัยดังที่มีสองมาตรฐาน เห็นว่าเป็นคนดังจึงช่วยเหลือเต็มที่เพื่อจะได้เกิดเป็นกระแส
งานนี้เลยร้อนถึงคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ต้องออกมาชี้แจงเหตุผลทั้งหมดว่าทางมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนช่วยเหลือนักศึกษาให้เรียนจบแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะ
พระเอกดังเป็นคนเรียนเก่งอยู่แล้วต่างหาก เอ้า! ทาง “ณเดชน์” จะว่าไงไปดูกันคะ
ณเดชน์: “สำหรับเรื่องฟีดแบ็คการเรียน จริงๆ ก็ได้ทราบข่าวมาแล้วตรงนี้ไม่ได้คิดอะไรครับ” 
Q: หลายคนก็ค้านว่าเราไม่ค่อยได้เข้าเรียน แต่ทำไมได้เกียรตินิยม
ณเดชน์: “จริงๆ เกียรตินิยมได้อันดับ 2 ได้เกรด 3.31 ผมต้องบอกเลยว่าเราก็พยายามทำให้เต็มที่ที่สุดแล้วนะ อยากจะจบ 4 ปี และไม่ได้หวังว่าจะได้เกียรตินิยม แต่เมื่อได้เราก็ต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ ผมเรียนเราได้เพื่อน ได้อาจารย์ที่คอยช่วยเหลือด้วย ช่วยได้ค่อนข้างเยอะมาก เวลาตามงานต่างๆ การจับเราเข้ากลุ่ม มันเป็นผลพลอยได้จากการที่แต่ละคนช่วยกัน รวมทั้งเราเองก็พยายามแบ่งเวลาเป็นสัดส่วนไปมหาวิทยาลัย ทุกๆ ครั้งที่มีงานจำเป็นหรืองานสำคัญ บางทีชนกับละครก็ไปช่วงเช้าบ้าง ช่วงบ่ายบ้าง คือพยายามจะไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะไปได้”
Q: กับข่าวที่ออกมาบั่นทอนจิตใจเรายังไงบ้าง
ณเดชน์: “ไม่บั่นทอนจิตใจครับ ผมดีใจมากกว่าที่จบ 4 ปีครับ มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวเราและทำให้ครอบครัวตัวเองด้วยครับ” 
Q: หลายๆ คนมองว่าที่เราเรียนจบเร็ว เพราะเราเป็นดารา จะได้โปรโมทมหาวิทยาลัยด้วยเราว่ายังไงดีกับตรงนี้
ณเดชน์: “ผมว่าทางมหาวิทยาลัยไม่ น่าจะเอาเข้ามาเสี่ยงกับผมหรอกครับ ผมเป็นเหมือนแค่นักศึกษาคนหนึ่งเท่านั้นเองครับ” 
Q: ตอนที่เราเรียนเราทุ่มเทให้มากน้อยแค่ไหน
ณเดชน์: “ก็มากพอสมควรครับ คือบางทีตื่นเช้าๆ ไปเรียนก็ไปครับ คือแม่เนี่ยจะคอยปลุกตลอดครับ ใครที่เป็นเพื่อนก็จะรู้ตลอด” 
Q: คนมองว่าเรางานเยอะเอาเวลาไปเรียนตอนไหน
ณเดชน์: “ไปเรียนได้ทุกตอนเลยครับ ถ้าเกิดว่าคุยกันรู้เรื่อง สมมติว่ามีงานตอนบ่ายก็ไปเรียนตอนเช้า และก็อีกอาทิตย์หนึ่งก็ย้ายงานไปตอนเช้าและมาเรียนตอนบ่ายแทน” 
Q: ทำให้มีกระแสข่าวว่าดูเป็น 2 มาตรฐาน?
ณเดชน์: “ไม่รู้จะพูดอะไรดีครับ ก็ปล่อยๆไปดีกว่าครับ ไม่ได้คิดอะไรมาก และก็ไม่ได้เครียดด้วย” 
Q: พอมีข่าวออกมาทั้งอาจารย์และคณบดีก็ออกมาชี้แจง
ณเดชน์: “คือผมไม่ได้คุยกับผู้ใหญ่แต่ละคนเลยนะครับ อันนี้คือจะคุยกับเพื่อนมากกว่า และก็ได้ข่าวว่าทางผู้ใหญ่ได้ออกมา ก็ขอขอบคุณมากครับผม ที่เป็นกำลังใจให้” 
Q: การเรียนสำคัญยังไงสำหรับเรา
ณเดชน์: “จริงๆ แล้วสำคัญมากนะครับ เพราะการเรียนมันก็เหมือนกับการรับผิดชอบของคนๆ หนึ่งเหมือนกัน เราก็แบ่งเวลาให้เป็น ผมทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยค่อนข้างจะคูณสองเลยแหล่ะ เพราะ   ฉะนั้นต้องอดทนมากเหมือนกันกับการที่จะผ่านมาได้ ช่วงปี 1 ปี 2 ผมลงค่อนข้างเต็มมากๆ ปี 3 ปี4 มันเลยมีช่วงเวลาที่เราค่อนข้างจะได้ผ่อนคลายตัวเอง และอีกอย่างหนึ่งนิเทศศาสตร์มันค่อนข้างเป็นสาขาวิชาที่ปฏิบัติซะส่วนใหญ่ ไม่ใช่การที่จะนั่งอยู่ในคลาสและจดโน้ต ฉะนั้นผมจะเน้นเรื่องการออกกองกับการทำงานนอกสถานที่มากกว่าครับผม ภาพที่ออกมาก็จะไม่ค่อยได้เห็นผมอยู่ที่มหาวิทยาลัยสักเท่าไหร่”
Q: เห็น ‘ณเดชน์’ ได้ทำหนังสั้นด้วย
ณเดชน์: “มีๆ เรื่อยๆ ครับผม ล่าสุดเพิ่งได้ทำหนังวิทยานิพนธ์ไป กำลังอยู่ในขั้นตอนตัดต่ออยู่ครับ”
Q: การที่เราเป็นคนในวงการบันเทิงมันส่งผลดียังไงกับการเรียนสายนิเทศศาสตร์บ้าง
ณเดชน์: “ผมบอกแล้วว่ามันค่อนข้างที่จะเข้าใจง่ายกับรายละเอียดโปรดักชั่นต่างๆ เพราะว่าเราก็ทำงานอยู่ตรงนี้เนอะ กองโฆษณาเอย กองหนังก็ผ่านมาแล้ว กองละครก็อยู่ประจำ มันเลยทำให้เนื้อหาและวิธีการทำงานซึมอยู่ในหัวสมองเร็ว และอธิบายออกมาได้ง่ายและละเอียดครับ”
Q: เป็นเพราะว่าเราปฏิบัติมากกว่าคนอื่นหรือเปล่า มันเป็นส่วนช่วยทำให้ ‘ณเดชน์’ ได้เกียรตินิยม
ณเดชน์: “จริงๆ แล้วเพื่อนๆ หลายคนก็ได้เกรดดี และได้เกียรตินิยมค่อนข้างเยอะนะครับ คือเค้าก็เรียนปฏิบัติ ไปออกกองทำงานต่างๆ ก็มีความรู้กันมากๆ ค่อนข้างเยอะ มีคนเก่งกว่าผมเยอะมากๆ แต่เค้าแค่ไม่ได้อยู่ในตรงนี้ ไม่ได้อยู่ในที่ที่คนจะรู้จักเฉยๆ” 
Q: รับปริญญาเมื่อไหร่
ณเดชน์: “22 กุมภาพันธ์ครับผม”
Q: มีแพลนจะเรียนต่อเลยมั้ย
ณเดชน์: “ยังไม่ได้คิดเรื่องเรียนต่อเลยครับ” 
Q: ถามเรื่องกระแสคู่จิ้นของ ‘ณเดชน์’ กับ ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ หน่อยสิ รู้มั้ยว่าตอนนี้มาแรงมาก
ณเดชน์: “ผมว่ากระแสคู่จิ้นผมกับพี่โอ้มาแรงมาก เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจไม่รู้ว่ารากฐานมาจากตรงไหน แต่ก็รู้สึกดีเหมือนกันที่มีแฟนคลับคู่จิ้นผมกับพี่โอ้มีฐานแฟนคลับอีกแบบเกิดขึ้นครับ”
“ณเดชน์” ยินดีที่ได้มีกระแสคู่จิ้นกับ“มาริโอ้” ออกมาแบบนี้ แล้วทางด้าน “มาริโอ้” ละจะว่าไง ยินดีด้วยหรือไม่ ไปฟังกันคะ
Q: รู้สึกไงที่แฟนคลับมาจับให้เป็นคู่จิ้น ‘มาริโอ้-ณเดชน์’ จนกระแสแรงมากแบบนี้
มาริโอ้: “แล้วแต่ครับอยากจิ้น จิ้นเลย แต่ความจริงเราเป็นพี่น้องกันนะครับ (หัวเราะ) ถามว่าโอ.เค.มั้ย ผมโอ.เค.เราก็พยายามทำอะไรที่เขาชอบ ผมก็พยายามจัดให้”
Q: แล้วจะมีคอนเสิร์ตด้วยกันแบบนี้จะจับจิ้น กันบนเวทีให้แฟนๆ ได้ฟินมั้ย
มาริโอ้: “ถามว่าอยากเห็นผมกับณเดชน์ร้องเพลงคู่กันบนเวทีคอนเสิร์ตมั้ย อันนี้ขอบอกว่าไม่แน่ครับ ต้องรอดู ตอนนี้เราก็เลือกเพลง ดูว่าเราถนัดยังไง การร้อง
ตอนนี้ผมฝึกพลังเสียงทุกวัน อยากให้ทุกคนสนุก ถึงเราไม่ได้เป็นนักร้อง แต่โอ้ก็จะร้องให้ฟัง”
Q: ขอถามเรื่องหัวใจหน่อยสิ ตอนนี้มีใครหรือยัง
มาริโอ้: “สาวๆ ตอนนี้พักไว้ก่อนครับ ขอทำงานก่อน แต่เราก็มีคุย มีคบเป็นเพื่อนแต่ถ้าคุยเป็นแฟนเลยไม่มีครับ ถ้ามีแล้วเดี๋ยวจะบอก แต่ตอนนี้งานเยอะมากครับ ขอมุ่งเอางานก่อนดีกว่าครับ”
“รักไม่ยุ่งมุ่งแต่งาน” คำนี้คงเป็นสโลแกนของหนุ่ม “มาริโอ้” ไปแล้ว ส่วนเรื่องเรียนของหนุ่ม   “ณเดชน์” ก็เคลียร์แล้วนะคะว่าที่จบได้เพราะความตั้งใจของตัวเองไม่ได้ใช้เส้นอะไรอย่างที่ข่าวลือ ก็คนมันเก่งอ่ะเนอะ “ณเดชน์”