จากกรณีระดับน้ำในแม่น้ำกกเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากฝนตกหนักในประเทศเมียนมา ซึ่งอาจนำพาสารปนเปื้อนบางชนิดเข้าสู่พื้นที่ชายแดนไทย รัฐบาลไทยยืนยันติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อคุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย
นายกรัฐมนตรีแถลงย้ำความปลอดภัยประชาชนต้องมาก่อน
นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน โดยได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึงเหล่าทัพ เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ในทุกมิติอย่างเร่งด่วน
ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเร่งประเมินสถานการณ์
รัฐบาลได้จัดตั้ง “คณะทำงานด้านเทคนิค” เฉพาะกรณีนี้โดยมีรองนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นหัวหน้าคณะ ร่วมกับหน่วยงานสำคัญ ได้แก่ GISTDA กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรฯ และกองทัพ เพื่อประเมินสถานการณ์และดำเนินการทางการทูตทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี รวมถึงใช้กลไก “คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง” (Mekong River Commission – MRC) ในการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน
จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ตั้งศูนย์เฝ้าระวังและประสานงานในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เพื่อควบคุมคุณภาพน้ำในพื้นที่อย่างเข้มงวด พร้อมยืนยันว่าน้ำเพื่อการอุปโภคจากการประปาภูมิภาคและประปาหมู่บ้านยังคงอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
เพิ่มมาตรการสำรอง-กระจายระบบกรองน้ำ RO เข้าสู่ครัวเรือน
การประปาเตรียมกระจายเครื่องกรองน้ำระบบ RO ระดับครัวเรือนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ พร้อมจัดตั้งจุดจ่ายน้ำประปาเคลื่อนที่ และติดตั้งแทงก์น้ำสำรองในพื้นที่ห่างไกล เพื่อไม่ให้ประชาชนขาดแคลนน้ำที่สะอาดและปลอดภัยในการดำรงชีวิต
เตรียมแผนระยะยาวรับมือภัยพิบัติจากต้นน้ำ
สำหรับการป้องกันในระยะยาว รัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการบริหารจัดการน้ำต้นทาง อาทิ การสร้างฝายหรือเขื่อนดักตะกอน เพื่อป้องกันปัญหาสารปนเปื้อนในอนาคต
นายกรัฐมนตรีกล่าวปิดท้ายว่า “แม้น้ำดิบจากลำน้ำจะมีปัญหา แต่รัฐบาลขอให้หลักประกันว่าน้ำเพื่อการอุปโภคจะปลอดภัย และเราจะไม่ละเลยสุขภาพของประชาชนแม้แต่วินาทีเดียว”
by TVPOOL ONLINE