วันนี้ (8 ก.ค.68) ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลนัดไต่สวนพยาน คดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยในวันนี้เป็นการไต่สวนพยาน จำนวน 9 ปาก เป็นเจ้าหน้าที่พัศดีและเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพที่ปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องระหว่างวันที่ 22-23 ส.ค. 66 มาเบิกความในประเด็นการรับตัวนายทักษิณที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และการส่งตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยศาลกำชับสื่อมวลชนไม่เผยแพร่รายละเอียดการเบิกความของพยาน
ต่อมานายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการไต่สวนเสร็จสิ้นว่า ตนขอกราบขอบคุณศาล ที่กำชับในสิ่งที่ตนร้องขอไปสองครั้งแล้ว ซึ่งตนได้ร้องขอไม่ให้มีการนำข้อเท็จจริงในการเบิกความหรือสาระสำคัญต่าง ๆ ออกไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ แม้บางคนจะไม่ได้เผยแพร่คำเบิกความ แต่นำไปสรุปและวิเคราะห์ตั้งประเด็นการซักถามของศาลถึงปฏิกิริยาของพยาน ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ ทางศาลได้กรุณากำชับให้มีการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ความจริงตนขอให้ศาลออกข้อกำหนดให้พิจารณาคดีลับ แต่ศาลเห็นว่ายังไม่มีเหตุให้พิจารณาลับ จึงยังคงให้การพิจารณาเป็นไปอย่างเปิดเผย ซึ่งภายหลังจากศาลออกคำสั่งแบบนี้ตนก็ต้องยอมรับ เชื่อว่าหลังจากนี้ถ้าการพิจารณาเสร็จสิ้นและศาลมีคำสั่งออกมาชัดเจนว่าเป็นอย่างไร ตนก็พร้อมที่จะพูดข้อเท็จจริงของคดีในภายหลัง แต่ระหว่างนี้ตนยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้
นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า สำหรับนัดไต่สวนครั้งต่อไป ศาลนัดอีกครั้งวันที่ 15 ก.ค. และมีการกำหนดพยานเอาไว้ 5-6 ปาก โดยจะเป็นกลุ่มผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ และผู้บริหารโรงพยาบาลราขทัณฑ์ หลังจากนั้นจะมีการไต่สวนอีกในวันที่ 18 ก.ค. และ 25 ก.ค. ในส่วนของจำเลยหากศาลยังไม่มีหมายเรียกพยานอื่นเพิ่มเติม ตนก็จะขอใช้สิทธิ์ระบุพยานจำเลยที่เราประสงค์ไว้เข้ามาเบิกความในวันที่ 30 ก.ค. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะมีดุลพินิจอย่างไร เราก็จะดูอีกว่าพยานจำเลยซ้ำกับพยานที่ศาลมีหมายเรียกมาหรือไม่ และถ้าคนไหนไม่ซ้ำและเห็นว่ามีข้อเท็จจริงที่อยากให้ศาลทราบ ก็จะเตรียมมา ซึ่งตนยังบอกไม่ได้ว่ามีทั้งหมดกี่ปาก และคาดว่าจะแล้วเสร็จในระยะเวลา 1 นัด
ส่วนเรื่องการแถลงปิดคดี ตนยังไม่ทราบว่าจะมีขึ้นหรือไม่ เนื่องจากเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการพิจารณาคดีทั่วไป เป็นการไต่สวนที่ศาลเห็นว่ามีความปรากฎ การจะให้แถลงปิดคดีหรือไม่อยู่ที่ดุลพินิจของศาล แต่ถ้าอนุญาต ก็จะแถลงปิดคดี
เมื่อถามว่า ประเด็นที่สมเด็จฯ ฮุน เซน ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการไม่ได้ป่วยจริงของนายทักษิณ นายวิญญัติ กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องระหว่างประเทศ คดีนี้ศาลอยากทราบอะไรก็จะออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ส่วนใครจะพูดอะไรก็ขอให้ใช้ดุลพินิจว่าจะรับฟังหรือไม่ และตนไม่มีความกังวลในคดีนี้ เพราะนายทักษิณมีอาการป่วย และได้รับการปฏิบัติจากหน่วยงานราชการ กระบวนการได้รับสิทธิประโยชน์ในช่วงที่เป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดก็ได้รับการปฏิบัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนความกังวลเกิดขึ้นเป็นรายครั้ง เหมือนวันนี้ที่ได้นำเรียนต่อศาล
เมื่อถามว่า ทนายจำเลยร้องขอให้พิจารณาเป็นการลับเป็นคำสั่งของนายทักษิณหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า นายทักษิณไม่ได้กังวลในส่วนนี้ เป็นหน้าที่ของตนที่ทำงานอยู่หน้างานอยู่แล้ว ซึ่งตนจะเป็นคนประเมินและดูบรรยากาศ และจะดูว่าผลอะไรตามมา เพราะตนเป็นคนหนึ่งที่ต้องช่วยศาลตรวจสอบด้วย จึงถือเป็นดุลยพินิจที่ศาลออกข้อกำหนดออกมา ซึ่งศาลก็กำชับเรื่องที่มีบุคคลไปโพสเฟซบุ๊กและออกรายการต่าง ๆ แล้วให้ข้อมูลขาด ๆ เกิน ๆ ถ้าถึงเวลาเมื่อไหร่ก็จะใช้สิทธิ์ปกตนเอง ตอนนี้ตนยังไม่ร่างคำฟ้องเพื่อฟ้องใคร เพราะยังอยู่ในการไต่สวนอยู่
by TVPOOL ONLINE