เรื่องการรักษาความสัมพันธ์ให้แนบแน่นและสตรองอยู่เสมอนั้น ส่วนประกอบที่สำคัญมากๆ อย่างหนึ่งคือเรื่องของการสัมผัส เพราะภาษากายอย่างการสัมผัสนี่แหละที่แสดงถึงสายใยรักอันแนบแน่นระหว่างคนสองคน อย่าง “เบเบ้-ธันย์ชนก” และ “บูม-สุธีร์ บวรวาณิชย์” ที่เพิ่งแต่งงานกันไปหมาดๆ ที่รู้จักใช้การสัมผัสอันใกล้ชิดมาเป็นเครื่องมือในการดูแลความรักความสัมพันธ์ระหว่างกัน
“รู้จักกันครั้งแรกเพราะรุ่นน้องแนะนำให้รู้จักกันครับ พอเริ่มได้คุยกันจริงจังก็พบว่าเราคิดอะไรคล้ายๆ กัน มองอะไรในทางเดียวกัน แต่ตอนแรกผมก็จะเกร็งอยู่หน่อย เพราะเบเบ้เค้าเป็นดารา แต่คุยกันไปเรื่อยๆ แล้วเราสัมผัสได้ว่าเค้าทำตัวปกติมาก เป็นคนตลกดี อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ทำให้เราเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นเวลาอยู่ด้วยกัน พอสบายใจแล้วผมก็ไม่ต้องทำตัวหล่อหรือดูดีตลอดเวลาที่มาเจอกัน หลายครั้งผมใส่เสื้อยืดรองเท้าแตะออกมาเจอเค้า เค้าก็โอเค” บูมเกริ่นให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่สตรองจนนำไปสู่การตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
หลังจากคบกันเป็นแฟนได้ราวๆ สองปี ต่างคนต่างพร้อมแล้วทั้งคู่ ทั้งบูมและเบเบ้จึงตัดสินใจที่จะแต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกัน “ที่บ้านเบเบ้จะเลี้ยงเบเบ้กับพี่สาวมาแบบมีแบบแผนชัดเจน เบเบ้เลยจะเป็นคนที่วางแผนตลอด เรียนจบแล้วต้องไปต่อโทนะ จบโทแล้วควรจะทำงานซักพัก พออายุประมาณนี้แล้วคือซัก 28 ก็ควรจะแต่งงานได้แล้ว พอแต่งงานแล้วก็จะได้มาใช้ชีวิตร่วมกัน แล้วพออีกซัก 2 ปีอายุประมาณ 30 ก็ค่อยมีลูก” เบเบ้คุยให้ฟังต่อถึงแพลนชีวิตของทั้งคู่
พอได้มาใช้ชีวิตด้วยกัน ในแง่ของความรักความสัมพันธ์ที่แนบชิดติดกันตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งสองคนเป็นอย่างไร “ตั้งแต่จีบกันแรกๆ เวลาขับรถไปนี่ต้องจับมือกันตลอดนะคะ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว (หัวเราะ)” เบเบ้เล่าถึงสัมผัสที่ใกล้ชิดกันของทั้งสองคนที่เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เริ่มคบจวบจนวันนี้ ก่อนจะเสริมว่าที่ทุกวันนี้ไม่จับมือแล้วเพราะขับรถควรขับสองมือ จะได้ปลอดภัย
“แต่จริงๆ เราสองคนจะตัวติดกันตลอด อย่างช่วงก่อนนอน บูมเค้าจะชอบเล่นเกม แต่เราชอบดูซีรี่ส์ ก็แยกกันไปทำอย่างที่ตัวเองชอบ แต่เราจะนั่งทำคนละอย่างแบบนี้ในบริเวณเดียวกันในบ้าน แล้วก็มีชิ้นส่วน(ของร่างกาย)ไป pair กันตลอด (หัวเราะเขิน) เราแค่รู้สึกว่าถึงเราจะทำกันคนละกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ว่าเรายังอยู่ด้วยกัน การสัมผัสกันมันเหมือนเป็นการสานสัมพันธ์กันวิธีหนึ่ง” เบเบ้เล่าถึงการใช้การสัมผัสมาเป็นเคล็ดลับในการสานสัมพันธ์ระหว่างกันให้ราบรื่นตลอด
แต่แน่นอนว่าคู่รักก็เหมือนลิ้นกับฟัน มันก็ต้องมีทะเลาะกันหรืองอนกันบ้าง เบเบ้เล่าก่อนว่า “ของเบเบ้นี่ถ้าทะเลาะกันแล้วสมมติอยู่กันคนละห้อง เบเบ้จะมีอารมณ์แบบเดินแวะไปห้องที่เค้าอยู่บ่อยๆ มีธุระเยอะจัง ต้องไปหยิบน้ำ ต้องไปเอาของ แต่จริงๆ คิดว่า เอ๊ะ เมื่อไหร่จะมาคุยกับเราซะที ก็ไม่ใช่ว่าเราไม่ง้อก่อนนะ แต่ว่าคงเป็นครั้งๆ ไปมากกว่า”
ส่วนบูมเสริมว่า “เวลาทะเลาะกัน จะงอนกันไม่นาน เต็มที่ชั่วโมงนึงก็ง้อแล้ว บางทีเค้าเอาแต่ใจ เราก็รู้ แต่ขอทำเป็นโกรธก่อน แต่ไปๆ มาๆ เริ่มเมื่อยหน้า (พอบูมพูดว่าเมื่อยหน้า เบเบ้หัวเราะใหญ่) พอทนไม่ไหวเราก็จะไปง้อก่อนด้วยการดึงเค้ามากอดบ้าง กระซิบถามเค้าว่าเป็นอะไร พอได้ละนะ ขี้เกียจละ สะใจยัง พอใจยัง อะไรแบบนี้ครับ”
#โอ๊ยหวานอะไรกันเบอร์นี้!
ฟังคู่นี้เล่าเรื่องราวความรักแล้วเราพบว่า สัมผัสที่แนบชิดนี่แหละคือส่วนสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แข็งแกร่งอยู่เสมอ ในการนี้ “ดูเร็กซ์”พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการ “กระชับ” ความสัมพันธ์ของคู่รักให้แนบแน่น ด้วยการพัฒนานวัตกรรมถุงยางอนามัยให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ในเรื่องความแนบชิดมากยิ่งขึ้น จนออกมาเป็น “ดูเร็ก สมูท” ถุงยางอนามัยรุ่นล่าสุดที่ผลิตขึ้นจาก “โพลีไอโซพรีน” เทคโนโลยีเน็กซ์เจนของดูเร็กซ์ที่ช่วยมอบสัมผัสที่ใกล้ชิดเป็นธรรมชาติยิ่งกว่าให้กับผู้ใช้ ช่วยกระชับความสัมพันธ์ของคู่รักให้แนบชิดยิ่งขึ้น ..ดูเร็กซ์ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคู่รัก ได้รักกันนานๆ นะจ้ะ