วันนี้ (9 ก.ค. 68) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับสมเด็จฮุนเซน อดีตผู้นำกัมพูชา หลังเกิดเหตุการณ์ปล่อยคลิปเสียงสนทนา กับ น.ส.แพทองธาร ว่าเคยเป็นพี่น้องกัน แต่เมื่อทำกับลูกตนเองขนาดนี้ถึงกับช็อก ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
นายทักษิณเล่าว่า เหตุการณ์ในวันที่มีการบันทึกเสียงการสนทนา นส. แพทองธาร เล่าให้ฟังว่า ทางกัมพูชา ต้องการคุยด้วย จึงได้เชิญ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้น นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริเดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อไปหารือกัน แต่รอนานกว่า 3 ชั่วโมงก็ไม่ได้คุย ทางกัมพูชาแจ้งว่า สมเด็จฮุนเซนหลับ
แต่เมื่อแยกย้ายกันกลับ ก็โทรกลับเข้ามาคุย จึงกลายเป็นคุยกันส่วนตัว ไม่ใช่คุยแบบผู้นำกับผู้นำคุยกัน และมีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนาขึ้น นายทักษิณบอกว่าไม่เป็นไร ความสัมพันธ์ก็จบลง
ส่วนทำไมเหตุการณ์ถึงเป็นเช่นนั้น ตนก็ไม่ทราบ สงสัยจะเหยียบตาปลากันเกิดขึ้น เมื่อสมเด็จฮุนเซน ทำแบบนี้เชื่อว่าต่อไปนี้คงไม่มีใครกล้ากล้าคุยด้วยแล้ว และจนถึงตอนนี้ก็ไม่คุยกันอีกเลย เพราะไม่รู้จะคุยอะไร
นายทักษิณ ระบุว่าไม่เคยคิดว่าปัญหานี้จะทำให้สถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาบานปลาย จนถึงตอนนี้ทั้งสองประเทศยังไม่ได้อยู่ในสถานะประกาศสงครามต่อกัน เป็นเพียงแค่การประทะกันตามเรื่องชายแดน ดังนั้นยังสามารถพูดคุยเพื่อความสันติกันได้ ภายใต้กลไกที่มี แม้ว่าสนิทกันมาก แต่ประเทศก็ต้องมาก่อน คิดว่าตอนนี้ต่างคนก็คงลืมชื่อจะไป
นายทักษิณ จึงยืนยันว่าตนไม่เคยทำอะไรให้ สมเด็จฮุนเซนโกรธ ให้เกียรติกันมาตลอด จึงคิดว่าน่าจะเป็นเพราะฝ่ายไทยพยายามปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติ จึงทำให้โกรธได้ถึงขนาดนี้
นายทักษิณถึงกับเอ่ยปากขอโทษประชาชนที่พลาดไปคบคนแบบนี้ ยืนยันว่าหลังจากนี้ไม่มีสงครามไม่มีความขัดแย้งถึงขนาดรบกันแน่นอน ใครอดทนกว่ากันก็ชนะ
เรื่องร้องเรียน ว่านายกรัฐมนตรีขาดจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีคลิปเสียงที่หลุดออกมา นายทักษิณ มองว่าการเจรจา ที่อ่อนน้อม เป็นเทคนิคหนึ่งของการเจรจา ถือเป็นการเจรจาแบบไม่เป็นทางการ แต่กลับถูกกับดัก บันทึกเสียงไว้ ซึ่งอาจใช้ประเด็น นี้ในการชี้แจงต่อศาลด้วย
by TVPOOL ONLINE