เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 ที่วัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พร้อมด้วยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด และสอบปากคำ พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งขณะนี้ลาสิกขาแล้ว

ภายหลังสอบปากคำเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสให้ความร่วมมือและพร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายอย่างเต็มใจ

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าอดีตเจ้าอาวาสมีการโอนเงินจำนวน 12.8 ล้านบาทจากบัญชีส่วนตัวให้กับหญิงที่รู้จักในชื่อ “สีกากอล์ฟ” ซึ่งเริ่มเข้ามาตีสนิทโดยอ้างตัวว่าเป็นไฮโซและรู้จักพระผู้ใหญ่ ทั้งนี้เงินจำนวนดังกล่าวเป็นรายได้จากกิจนิมนต์และการสอนหนังสือ

นอกจากนี้ ยังตรวจพบการโอนเงินจากบัญชีวัดอีก 380,000 บาทให้กับบุคคลเดียวกันในช่วงเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม 2567 โดยเฉพาะเดือนหนึ่งมีการโอนถึง 10 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดไม่มีเอกสารยืนยันการยืมเงินหรือสัญญาทางธุรกิจ

อดีตเจ้าอาวาสให้การรับสารภาพว่า “อ่อนต่อโลก” และหลงเชื่อหญิงคนดังกล่าว ที่อ้างว่าจะนำเงินไปลงทุนในธุรกิจเซรามิก จนกระทั่งมีข่าวกรณีคล้ายกันกับอดีตเจ้าคุณอาชว์ วัดตรีทศเทพ จึงเริ่มรู้ตัวว่าถูกหลอก

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบว่าวัดชูจิตธรรมารามไม่มีไวยาวัจกรและคณะกรรมการวัด ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนที่เปิดช่องให้เกิดการเบิกจ่ายโดยไม่มีระบบตรวจสอบ เช่นเดียวกับวัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร

สำหรับประเด็นความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างอดีตเจ้าอาวาสกับสีกากอล์ฟ ทั้งสองฝ่ายยืนยันว่าไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว และไม่พบหลักฐานเช่นภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอในลักษณะถูกแบล็กเมล์

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม โดยพิจารณาเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 ฐานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยจะมีการขยายผลตรวจสอบวัดต้นทาง รวมถึงวัดตรีทศเทพ เพื่อให้ความจริงปรากฏครบทุกมิติ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“เนย วรัฐฐา” ประกาศข่าวดีตั้งท้องลูกคนแรก ลั่น มีลูกคนนึงไม่ง่ายเลย ต้องบ้ายบายน้องไปถึง2 รอบ

ค่ำคืนแห่งความสนุก สุดอภินิห่าน ร่วมสร้างประสบการณ์และความทรงจำที่ดีที่สุด

by TVPOOL ONLINE