เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เปิดใจที่แรก “ชูษี เชิญยิ้ม” กับความสัมพันธ์ของลูกสาว “บูม ชญาภา” หลังจากที่ทั้งคู่ไม่คุยกันนานกว่า 6 ปี พร้อมขึ้นแท่นคุณตาป้ายแดงรับขวัญหลานสาวคนแรก “น้องใบบุญ” ที่จะขอมาเคลียร์ทุกประเด็น ผ่านรายการ คุยแซ่บshow

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตอนนี้กี่เดือนแล้ว?

บูม ชญาภา : 5 เดือน 8 โล 

เป็นยังไงบ้าง 5 เดือนที่ผ่านมากับการเลี้ยงน้องใบบุญ ?

บูม ชญาภา : มีลูกคนแรกก็จะงงๆ หน่อย แต่มีป้าช่วยเลี้ยง เลี้ยงไม่ยาก 

ทำไมถึงตั้งชื่อคนแรกว่าน้องใบบุญ ?

บูม ชญาภา : คุณยายของหนูเป็นคนตั้ง เค้าบอกว่าอยากให้เกิดมาเป็นใบบุญให้พ่อแม่พึ่งพา 

 

แต่กว่าจะแฮปปี้ตอนอยู่ในท้อง ก็มีเครียดเหมือนกัน?

บูม ชญาภา : จริงๆหนูอยากมีนานแล้ว เพราะอายุเยอะแล้วเลขสามแล้ว แล้วก็มีพระทักด้วย ว่าถ้าไม่คุ้มอาจจะมี แต่ถ้ามีก็จะดีทุกอย่างจะดีขึ้น ก็ลองปล่อยดู สามเดือนก็เลยติดเลย แต่พอมีแล้วก็เครียด พ่อก็จะพูดตลอดว่าแบบเราเป็นนักร้องพอมีลูกเราก็จะจบ ถ้าโสดไปก็จะดี เราก็คิดแล้วว่าถ้าพ่อรู้จะเป็นยังไงเพราะโกรธกันอยู่ด้วย ก็เลยไม่ได้โพสต์ลงโซเชียล แต่คนรอบตัวรู้หมด คุณพ่อไม่รู้เพราะไม่ได้คุยกันมา 6 ปี ช่วงนั้นทะเลาะกันอยู่ไม่ได้คุยกัน ก็เครียดมีเพื่อนเป็นกำลังใจให้ เพื่อนพ่อก็บอกถ้าลูกคลอดก็จะมีแต่แต่สิ่งดีๆ เข้ามา เชื่อสิ

วันที่เค้าตัดสินใจมาบอกเรา ?

บูม ชญาภา : คือตอนนั้นคุยกับพี่ปอ (แฟนปัจจุบัน) ของพ่อก่อน เค้าก็โทรมาหาแม่ว่าถ้าอยากมากราบหลวงตาก็มานะหนูก็ อโหสิกรรมพี่ หนูก็เลยบอกกับแม่ว่าให้บอกพี่ปอไปเลยว่าหนูท้องเพราะอยากรู้ว่าพ่อเขาจะว่ายังไง เพราะตลอดเวลาที่หนูเห็นพ่อผ่านโซเชียลหนูจะคิดตลอดเลยว่าพ่อสร้างภาพ ปล่อยวางจริงหรือเปล่าเพราะก็ยังไม่คุยกับหนู เราก็คุยกับแม่อยู่แบบนี้ว่าสร้างภาพหรือเปล่า

ตอนนั้นทะเลาะกันเรื่องอะไร?

ชูษี เชิญยิ้ม : ถ้าเราไม่ได้ฝึกฝนธรรมะ ถ้าเรามีสติก็จะไม่มีเรื่องอะไรเลย ก็ทะเลาะกันเรื่องคนอื่น ก็เลยเป็นเรื่องไม่คุยกันเลย

บูม ชญาภา : พ่อเค้าก็ไลฟ์สดด่าหนู

ชูษี เชิญยิ้ม : อันนี้มันเป็นตัวอย่างที่ไม่น่าจดจำ ทะเลาะกันแล้วมาโพสต์ในโซเชียล ไม่น่าจะให้คนอื่นรับรู้ อยากจะบอกคนอื่นว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ดี

การที่เราตัดสินใจไปหาพ่อวันนั้น เราคิดว่าเค้าจะเป็นแบบวันนี้ไหม ?

บูม ชญาภา : คือหนูแอบถามพี่ปอ ว่าพ่อว่าไงบ้าง เค้าก็จะบอกว่าไม่มีอะไรหรอกเข้ามาเถอะพ่อเค้ารักอยู่แล้ว วันที่ไปหนูก็คิดในใจอยู่แล้ววันนั้นท้องก็โตใกล้จะคลอด พอเดินเข้าไปใกล้เค้าก็ยิ้มเลย เราก็เดินเข้าไปกอดซื้อพวงมาลัยไปขอโทษนะพ่อพ่ออโหสิกรรมให้หนูนะ เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้โกรธอะไรแล้ว เพราะอโหสิกรรมนานแล้ว หนูว่าหลวงตามีส่วนเยอะมาก เพราะว่าก่อนที่หนูจะขอโทษครั้งนั้นหนูขอโทษบ่อยมาก ผลักบ้างเดินหนีบ้างให้ออกไป

ชูษี เชิญยิ้ม : ตอนนั้นเพื่อนพี่น้องในวงการมาช่วยจับมาผลักกันบ้างเราไม่เอาเลย อีโก้เราสูง มันมีหมดแหละศิลปินมันไม่รู้ตัวเอง

นาทีที่ลูกสาวมาบอกว่าท้อง ?

ชูษี เชิญยิ้ม : คือตอนนั้นไม่ต้องมาบอก เพราะเราเห็นท้องเขาใหญ่แล้ว มาได้ 6 วันลูกก็ออกเลย 

ความรู้สึกครั้งแรกที่เห็นว่าท้องรู้สึกยังไงบ้าง ?

ชูษี เชิญยิ้ม : ต่อไปเค้าก็จะเรียนรู้ชีวิตเขาแล้ว ความเป็นพ่อเป็นแม่เค้าจะเริ่มรู้แล้วว่าพ่อแม่รักลูกขนาดไหนพอเค้าเป็นแม่เค้าจะรู้เอง ไม่มีอะไรก็สบายๆ เพราะเราอยู่กับหลวงตา เราเรียนรู้และอยู่กับปัจจุบันให้ได้

ช่วงที่ทะเลาะกับพ่อเพื่อนถึงกับต้องดึงสติ?

บูม ชญาภา : คือช่วงที่ทะเลาะกันพ่อเค้าจะเป็นคนแบบว่าถ้าทะเลาะกันเค้าจะแบ่งฝั่งเลย ตอนนั้นมันมีงานที่เราต้องทำด้วยกันประจำ งานคอนเสิร์ต เจ้าภาพก็จะเรียกเหมือนเดิม เค้าก็จะบอกเลยถ้าบูมจะไม่มีเขา ถ้าศิลปินคนไหนคบกับไอ้บูมก็ไม่ต้องอยู่ข้างเขา ซึ่งวันนั้นก็ไม่มีใครอยู่ข้างหนูเลย นอกจากพี่แจ็ค ธนพล, ถั่วแระ, คาร์ฟ เชิญยิ้ม, เสเบนซ์ รุ่งสว่าง แค่นั้น 

แล้วพอทะเลาะกันมันมีผลต่อจิตใจเราไหม?

บูม ชญาภา : มีค่ะ หนูกับแม่ไม่ออกไปไหนเลย ปกติงานวันเกิดอะไรเราจะออกไปข้างนอก แต่พอมีเรื่องเราก็เปลี่ยนไปเลยเพราะออกไปมันก็จะเกิดการแบ่งแยก ก็มองทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดเลย

ที่พ่อออกมาบอกว่าลดละทุกอย่างหมดแล้วเราคิดว่าพ่อเป็นแบบนั้นจริงไหม? 

บูม ชญาภา :  จริงค่ะ เค้าไม่มีความโกรธไม่มีอะไรเลย เค้าจะมองเป็นเรื่องขำๆปกติ มันแปลกมาก วันที่หนูดีกับเขาแล้วหนูก็มาบอกว่ามันจริงหรอ วันที่พาเค้าไปวัด เค้าใช้ชีวิตอยู่แบบธรรมดามากเลย ไม่มีติดไม่มียึดมีอะไรก็กิน 

รู้สึกยังไงบ้างกับคุณพ่อในเวอร์ชั่นนี้?

บูม ชญาภา : หนูต้องกราบหลวงตาที่ทำให้พ่อเปลี่ยนได้ขนาดนี้ หนูอ่ะคิดอยู่ว่าจะมีวันนั้นไหมที่หนูกับพ่อจะได้ดีกัน มันก็คงมีแต่คงอีกยาวไกลมาก

ทำไมถึงตัดสินใจไปอยู่ที่วัดได้?

ชูษี เชิญยิ้ม : คือจริงๆแล้วกับหลวงตาไม่ได้รู้จักมาก่อน มันมีที่มาคือได้ร้องเพลงเกี่ยวกับหลวงตา เค้าถามเราว่ารู้จักหลวงตาไหมเราก็บอกว่า ไม่ แต่พอเค้าเปิดให้ดูเราก็บอกอ๋อ เพราะท่านดังมากก็เคยได้ยินดูจาก TikTok ก็ร้องเพลงให้ท่าน เค้าก็ไปเล่าให้หลวงพ่อท่านฟัง แล้วก็บอกว่าเรามีทุกข์ในใจเยอะมากให้มาหาเค้าหน่อย เค้าเปลี่ยนเราเลย

ลูกสาวเราเคยมีความคิดที่จะฆ่าตัวตายเพราะเป็นโรคซึมเศร้า ?

ชูษี เชิญยิ้ม : พี่ไม่รู้เลย เพิ่งมาเจอเขาตอนเค้าท้องแก่ 

บูม ชญาภา :  เค้าบล็อคทุกช่องทาง คือเป็นหลังจากที่ทะเลาะกับพ่อ เราไม่อยากไปไหนไม่อยากพูดกับใคร ร้องไห้ทั้งวัน เพราะเพื่อนมาหาก็เหมือนกับดีนิดนึงพอเค้ากลับไปอยู่คนเดียวก็เป็นอีก จนตอนนั้นนอนไม่ได้สามวันเหมือนร่างกายอยากจะหลับสมองมันหลับไม่ได้หนูก็เลยเข้าไปทำแบบสอบถามของโรงพยาบาลศรีธัญญา ตอนเช้าพยาบาลก็โทรมาให้รีบมาที่โรงพยาบาลเลย แล้วก็รับยารักษามาเรื่อยๆ เค้าบอกว่ามันเกิดจากความผิดหวังทำให้เรามีอาการซึมเศร้าแต่ก็ยังดีนะที่ยังรู้ตัวไว ไม่ใช่ฆ่าตัวตายไปแล้ว

จุดที่ทำให้เราคิดจะฆ่าตัวตายมันคือจุดไหน?

บูม ชญาภา : ก็เวลาที่หนูไป เจอพ่อตามงานเค้าก็ผลักหนูแบบกระเด็นเลย คือไม่ใช่ครั้งเดียวมันเป็นหลายครั้งมากต่อหน้าเพื่อนต่อหน้าคนอื่น ก็เลยคิดว่าตายเลยดีกว่าไหม 

ตอนนี้รักษาไปถึงไหนแล้ว ?

บูม ชญาภา : ตอนนี้หายแล้วค่ะ ท้องน้องหมอก็ให้หยุดยาได้ ถ้าเกิดมีอะไรก็ให้ไปหาหมอแต่ก็ก็คือไม่มีอะไรเลย เราสบายใจเจอพ่อก็จบแล้ว ปมที่เราเจอก็หาย เค้าช่วยเยอะช่วยทำงานตั้งแต่อยู่ในท้อง

นาทีที่ได้เห็นหน้าน้องใบบุญครั้งแรกเป็นยังไงบ้าง?

ชูษี เชิญยิ้ม : จริงๆแล้วเราเป็นคนที่รักเด็กผู้หญิงอยู่แล้ว เปรียบเสมือนผ้าขาวบริสุทธิ์ ก็ธรรมดาเราเป็นตา ในใจเราสนิทสนมกับบูม 

เราก็เซอร์ไพรส์ด้วยที่คุณพ่อรับขวัญหลานถึงที่โรงพยาบาล? 

บูม ชญาภา : ไม่คิดว่าเค้าจะมา 

ชูษี เชิญยิ้ม : จังหวะวันนั้นหลวงตาขึ้นมากรุงเทพด้วย ก็เลยไปหาเขาที่โรงพยาบาล พอไม่ได้อยู่ด้วยกันก็วีดีโอคอลคุยกับหลานบ้าง เค้าไปหาผมเดือนละครั้ง แล้วก็จะไปกราบหลวงตาด้วย

ถือเป็นคุณตาสปอยล์หลานไหม ?

ชูษี เชิญยิ้ม : ไม่มีตังค์ตอนนี้สิ้นทุกอย่าง ไม่มีชื่อเสียงไม่มีงาน ตอนนี้ได้อย่างเดียวคือได้ธรรม อยู่ในศีลอยู่ในธรรม

อยากให้หลานเติบโตมาแบบไหน ?

ชูษี เชิญยิ้ม : เราก็ไม่รู้ชีวิตเขา อยากให้เขาอยู่ในศีลในธรรม รู้ตัวเองเยอะๆ อย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น ที่เราทุกข์ทุกวันนี้เพราะเราไปยุ่งเรื่องของคนอื่น ทุกวันนี้ธรรมะไม่มีอะไรมากมาย

ชาวเน็ตแซะตกอับหรือเปล่าไปอยู่วัด?

ชูษี เชิญยิ้ม : คนเรามีสองแบบมนุษย์โลกพอใจกับไม่พอใจ ถ้าพอใจเราเค้าก็ชมเรา หลวงตาบอกว่าเค้าด่าเราแล้วจริงไหมล่ะถ้าไม่จริงแล้วเราจะโกรธทำไม เค้ารู้จักเราไม่ดีพอ ถ้าเขารู้จักเราคงไม่ว่าเราหรอก คนเราก็แปลกชอบเอาความคิดตัวเองไปยัดเยียดให้คนอื่น มีแต่คนโง่ที่เป็นคนคิดว่าตัวเองสมบูรณ์แบบ 

ลึกๆ อยากมีอะไรบอกกันและกัน?

บูม ชญาภา : ขอโทษที่ทำให้พ่อเสียใจ ขอบคุณพี่ปอ ขอบคุณหลวงตาสินทรัพย์ที่ทำให้มีวันนี้ ที่ทำให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม รักคุณพ่อรักมาก ไม่ได้บอกมา 6 ปี กลับมาบอกก็จะเขินๆ

ชูษี เชิญยิ้ม : ไม่อยากบอกอะไรเขาอยากให้เขามีสติ  ให้อยู่กับตัวเองอย่ายุ่งเรื่องของคนอื่นเขา คนดังถ้าไม่ตกนรกก็ติดคุกถ้าไม่มีสติ สิ่งที่เราไม่รู้อันตรายมาก ตอนนี้ความเชื่อมันมีมากกว่าความจริง ถ้าเราเข้าไปอยู่ในความเชื่อมากๆเราจะไม่เห็นความจริง เพราะฉะนั้นอยู่กับความจริง 

เคยบอกรักหรือบอกความห่วงใยกับลูกไหม?

ชูษี เชิญยิ้ม : เค้ารู้อยู่แล้ว เราเคยเลี้ยงเค้าตั้งแต่ขวบสองขวบ เค้าเลี้ยงยากสันดานเหมือนพ่อ งี่เง่าเลี้ยงยาก เค้าก็เหมือนเราหนีไม่พ้นหรอก ถามว่ารักมั้ยรักอยู่แล้วลูกเรา 

by TVPOOL ONLINE