แบงค์ ปรีติ และเพื่อนๆ วงแคลช มาร่วมแจกอาหารและเครื่องดื่มให้กับประชาชนที่บริเวณท้องสนามหลวง บอกอยากเห็นคนไทยรักและสามัคคีกันแบบนี้ตลอดไป…
มาร่วมแจกอาหาร และทำอาหารกับมูลนิธิร่วมกตัญญู สำหรับกลุ่มศิลปินวงแคลช (Clash) ที่รวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมดีๆ เหล่านี้ โดยทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ทำความดีร่วมกันนั่นเอง
โดยหนุ่ม แบงค์ ปรีติ บารมีอนันต์ ให้สัมภาษณ์ว่า “ที่มาร่วมแจกอาหารกับมูลนิธิร่วมกตัญญู เพราะว่าพ่อของแฮ็คเป็นอาสาที่นี่ ก็ตกลงกับสมาชิกในวงว่าเราจะมาทำความดีร่วมกัน จริงๆ วงเราไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรแบบนี้มานานพอสมควรตั้งแต่แยกวงไป เพราะปกติเราจะไปไหนด้วยกันตลอด แต่ครั้งนี้ถือว่ามาทำความดีเพื่อพ่อหลวง เราก็มาทำกัน จริงๆ ประชาชนยังคงหลั่งไหลมาแสดงความอาลัยพระองค์ท่านเหมือนเดิม ผมอยากให้มันเป็นแบบนี้ทุกวัน เพราะผมไม่ทราบว่าถ้าเวลาผ่านไป 1-2 เดือน ทุกคนจะมากันแบบนี้หรือเปล่า ก็เลยอยากให้คนไทยสามัคคีกันแบบนี้ทุกวัน ผมเองเพิ่งเคยนั่งมอเตอร์ไซค์ฟรี ครั้งแรกในชีวิต ทำให้ผมรู้สึกว่าคนไทยควรจะรักกันมาแบบนี้นานแล้วไม่ใช่หรือ และควรจะเป็นตลอดไป ส่วนตัวของผมเป็นคนกรุงเทพฯ ยังไม่อยากจะไปแย่งประชาชนคนต่างจังหวัดที่เข้ามาแสดงความอาลัยพระองค์ท่าน เพราะเค้ามาไกล และต่อคิวนาน คิดว่าคงรออีกสักพักหนึ่งดีกว่า สำหรับตัวผมได้นำคำสอนของพ่อเรื่องการประมาณตนเป็นเรื่องสำคัญ มันมีนัยเยอะ แค่คำนี้เราแตกยอดออกไปได้เยอะ พอดีตรงไหน พอเพียงตรงนั้น เราก็น้อมนำมาปฏิบัติ จริงๆ ฟังดูเหมือนง่าย แต่มันล้ำลึกครับ”
ด้าน พล คชภัค ผลธนโชติ มือกีตาร์ของวง ที่วันนี้วางกีตาร์แล้วมาจับตะหลิวทำอาหารแทน ได้บอกว่า “จริงๆ พวกเรามาที่นี่เป็นครั้งแรก ก่อนหน้าที่เห็นบรรยากาศตามสื่อต่างๆ และคิดว่าพวกเราน่าจะมาช่วยเหลือกัน ก็เลยมาในวันนี้ เราก็ตั้งใจว่าจะมาช่วยเดินแจกของให้กับประชาชนที่มาแสดงความรัก ความเคารพแด่พ่อหลวงของเรา และผมก็ขอเป็นหนึ่งกลุ่มคนเล็กๆ ที่อยากจะมาช่วย และแสดงพลังบางอย่างให้พ่อหลวง เพื่อพระองค์ท่านจะได้เห็น จริงๆ ภาพที่คนไทยรักกันแบบนี้ผมอยากให้มันคงอยู่ต่อไป ไม่ใช่เฉพาะแค่วันที่เราสูญเสียพ่อหลวง อยากให้คนไทยรักกันแบบนี้ ผมเชื่อว่าประเทศไทยเราจะแข็งแรงมากๆ ผมว่าหลายๆ คนคงคิดเหมือนผม ที่ว่าความสูญเสียครั้งนี้มันสอนอะไรเราหลายอย่าง ทั้งให้รักกันเอง และรักประเทศมากขึ้น ไม่แบ่งแยกอีกต่อไป ที่สำคัญสอนให้เราพอเพียง อย่างบางคนมาร่วมกราบพ่อหลวง แจกอาหารก็ไม่รับ เพราะเขาบอกว่าอิ่มใจแล้ว คือการให้มันทำให้เราเท่าเทียมกัน ไม่มีคนจน คนรวย และผมว่ามันน่าจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ สำหรับคำสอนของพ่อหลวงที่เรานำมาใช้ คงเป็นเรื่องความพอเพียง การเสียสละ อย่างที่บอกการเป็นคนดียากแล้ว แต่การเป็นคนที่เสียสละมันยากยิ่งกว่า ซึ่งเราก็จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เหมือนที่พ่อบอกไว้ว่า เราเศร้าได้แต่อย่าละทิ้งหน้าที่”.
ที่มา – thairath
