ตำรวจจราจร สภ.เมืองกาญจนบุรี ตั้งด่านกวดขันวินัย พบรถเก๋งฮอนด้า แจ๊ส ขับผ่านท่าทางมีพิรุธ เมื่อเรียกตรวจสอบถึงกับตกตะลึง! พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา 12 คน (ชาย 9, หญิง 3) นั่งแออัดอยู่เต็มห้องโดยสาร คนขับชาวพม่าวัย 33 ปี รับสารภาพว่ารับจ้างขนคนงานผิดกฎหมายไปส่งบ้านโป่ง ราชบุรี ได้ค่าหัว 2,000 บาท/คน และเพิ่งทำเป็นครั้งที่ 2 ก่อนถูกจับกุม ตำรวจอายัดรถและดำเนินคดีทั้งคนขับและผู้โดยสารทั้งหมด
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.พศวีร์ เรืองภู่ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้มีการตั้งด่านตรวจกวดขันวินัยจราจรและเฝ้าระวังอาชญากรรม บริเวณแยกตัดทางรถไฟ หมู่บ้านกาญจนบุรีวิลล่า ถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร นำโดย พ.ต.ท.โชคชัย ไทยเจริญ รอง ผกก.จราจร สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีบอรนซ์ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ขับมุ่งหน้าเข้าเขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จึงส่งสัญญาณเรียกตรวจสอบตามปกติ เมื่อคนขับลดกระจก เจ้าหน้าที่ถึงกับตกตะลึงเมื่อพบว่าภายในห้องโดยสารมีผู้โดยสารนั่งเบียดเสียดกันมาเต็มคันรถอย่างผิดสังเกต
เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวนายนัย ลิน เต็ต อายุ 33 ปี คนขับรถชาวเมียนมา พร้อมให้ผู้โดยสารทั้งหมดลงจากรถ พบว่าเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาจริง จำนวน 12 คน (ชาย 9 คน หญิง 3 คน) ซึ่งไม่มีเอกสารใด ๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่
คำสารภาพคนขับและแรงงาน
นายนัย ลิน เต็ต คนขับรถชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ใน จ.สมุทรสาคร ให้การรับสารภาพว่า ตนได้รับการว่าจ้างให้ขับรถไปรับแรงงานทั้ง 12 คน ที่บริเวณชายป่าบ้านลาดทอง ต.แก่งเสี้ยน เพื่อนำไปส่งในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยตกลงค่าจ้างจากผู้ว่าจ้างคนละ 2,000 บาท โดยเมื่อ 5 วันที่ผ่านมา ตนเคยลักลอบขนแรงงานชาวเมียนมา 7 คน มาแล้วครั้งหนึ่ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง โดยรถยนต์ที่ใช้เป็นรถของเพื่อนที่ยืมมา
ด้านกลุ่มแรงงานต่างด้าวให้การว่า พวกตนหลบหนีเข้าประเทศโดยใช้ช่องทางธรรมชาติผ่าน อ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา บริเวณชายแดนติดกับบ้านพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี โดยมีผู้นำทางเดินลัดเลาะไปตามป่าเพื่อหลีกเลี่ยงด่าน ก่อนจะถูกพาต่อรถและเรือเพื่อเดินทางไปยังจุดพักคอยหลายวัน จนกระทั่งถูกจับกุมขณะกำลังเดินทางไปทำงานที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายนัย ลิน เต็ต คนขับ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย” และยังถูกดำเนินคดีร่วมกับแรงงานทั้ง 12 ราย ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่วนรถยนต์ของกลาง เจ้าหน้าที่ทราบตัวผู้ครอบครองแล้วและจะเรียกมาสอบปากคำต่อไป
by TVPOOL ONLINE