วันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. มอบหมาย พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า, พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์, พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทรผกก.สส.บก.น.5 นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาในคดีปลอมธนบัตรและยาเสพติดได้ 1 ราย
ผู้ต้องหาเป็นชายอายุ 32 ปี ในข่าวใช้ชื่อแจ้งว่า “นายเอ” (นามสมมุติ) ถูกจับกุมภายในคอนโดมิเนียมย่านวงศ์สว่าง หลังจากเจ้าหน้าที่รับแจ้งจาก น.ส.บี (นามสมมุติ) ผู้ถูกว่าจ้างให้ไปเอนเตอร์เทนว่าได้รับค่าจ้างเป็นธนบัตรสกุลยูโรฉบับละ 100 ยูโร จำนวน 3 ฉบับ (รวม 300 ยูโร) แต่เมื่อไปแลกกับผู้ให้บริการพบว่าเป็นธนบัตรปลอม จึงแจ้งตำรวจ

จากการตรวจค้นห้องพักของนายเอ เจ้าหน้าที่พบของกลางสำคัญหลายรายการ ได้แก่
-
ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์) บรรจุในถุงซิปใส 2 ถุง น้ำหนักสุทธิยา 1.53 กรัม และ 0.66 กรัม (รวมถุงน้ำหนัก 1.95 กรัม และ 1.08 กรัม)
-
ธนบัตรรัฐบาลไทยปลอม ได้แก่ ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 2 ฉบับ และฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ (ระบุหมายเลขธนบัตรในสำนวน)
-
ธนบัตรต่างประเทศ (ยูโร) ปลอม ฉบับละ 100 ยูโร จำนวน 5 ฉบับ (ในสำนวนระบุหมายเลข)

สอบสวนเบื้องต้น นายเอ รับสารภาพว่าทราบดีว่าเป็นธนบัตรปลอม และยอมรับว่าได้ใช้ธนบัตรปลอมเป็นเงินค่าจ้างผู้หญิงเอนเตอร์เทนไปแล้ว 300 ยูโร น.ส.บียังแจ้งด้วยว่าได้เอาเงินไปแลกเป็นเงินไทยจึงพบว่าเป็นของปลอม ก่อนแจ้งตำรวจ
นอกจากนี้ นายเอ ยังรับว่าเสพยาไอซ์จริง และให้การว่าซื้อยาไอซ์มาจากชาวต่างชาติที่สถานบันเทิงย่านอาร์ซีเอ โดยซื้อในราคากรัมละประมาณ 1,800 บาท เจ้าหน้าที่จึงให้ผู้ต้องหาตรวจปัสสาวะเบื้องต้น ผลการตรวจด้วยชุดตรวจของ ป.ป.ส.ให้ผลเป็นบวก (พบสารเมทแอมเฟตามีน) และผลการตรวจในโรงพยาบาลยืนยันผลบวกเช่นกัน
จากการสอบปากคำ นายเอ ให้การยอมรับอีกว่าเคยได้รับธนบัตรต่างประเทศปลอมจากกลุ่มชาวจีนในสถานบันเทิง โดยเป็นธนบัตรที่นักท่องเที่ยวต่างชาติแจกกันในงานดวลเหล้า จากนั้นตนเก็บธนบัตรปลอมไว้เป็นตัวอย่างและทดลองทำของปลอมเอง โดยค้นหาวิธีทำจากอินเทอร์เน็ต จนสั่งกระดาษชนิดหนึ่งมาลองปริ้นและพับจ่ายเป็นเงินค่าจ้างแก่ผู้หญิงเอนเตอร์เทน
พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายเอ ได้แก่ “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1, และมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรรัฐบาลไทยปลอมและธนบัตรต่างประเทศปลอม โดยตนรู้ว่าเป็นของปลอม” ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เจ้าหน้าที่ระบุว่าจะเร่งขยายผลติดตามเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งการปลอมธนบัตรและการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด รวมถึงสอบสวนเส้นทางการได้มาของธนบัตรต่างประเทศปลอม เพื่อดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด.
ข่าวที่น่าสนใจ
อนุทิน แถลงข่าวชิงยุบสภาฯ รู้ตัวดีเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ยืนยันเดินหน้าตาม MOA
สะเทือนวงการลูกหนัง! “แพรรี่ ไพรวัลย์” เปิดตัวลุคใหม่ สวมชุดบอล “ทีมหมอนทอง” ลั่น! “หมอนทองมาว่ะ”
by TVPOOL ONLINE