เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันนี้ (12 พ.ย.68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีฉีก Joint Declaration จะต้องชี้แจงกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หรือไม่ ว่า มันไม่มี 4 ข้อ นั้นแล้ว จะมีข้อที่ประเทศไทยจะต้องดำเนินการ Do it My Way ไม่รู้จะพูดอย่างไร

ขณะที่บนเวทีพิธีเปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 68 ที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ  นายกฯ กล่าวถึงข้อกังวลที่อาจถูกบีบด้วยมาตรการภาษีทรัมป์ ว่า เราต้องมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เราเป็นประเทศที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกเป็นหลัก ฉะนั้น ก็มีหน้าที่ที่จะแสวงหาโอกาส หาตลาดใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา เรามีหน้าที่ในการพัฒนาคุณภาพสินค้าของประเทศไทยให้เป็นที่ต้องการของทั่วโลกให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้ ซึ่งศักยภาพของประเทศไทยมีแล้ว เราจะไม่ให้สิ่งเหล่านี้ มาเป็นเป็นตัวฉุด หรือทำให้เราเสียเปรียบ หรือทำให้อธิปไตยของเราถูกก้าวล่วง

ส่วนจะมีการชี้แจงกับสหรัฐอเมริกาหรือไม่ ในฐานะผู้สังเกตการณ์ลงนาม Joint Declaration นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนส่วนหนึ่งต้องการให้มีการสู้รบให้จบโดยเด็ดขาด และอีกส่วนกังวลจะมีการสู่รบ นายอนุทิน กล่าวว่า เรามีแผนปฎิบัติอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องความมั่นคง การป้องกันประเทศ ไม่สามารถมาพูดในลักษณะการให้สัมภาษณ์ ได้ แต่ในความรัฐมนตรีและหัวหน้ารัฐบาล เราได้มีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ กำหนดมาตรการและผู้ปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่ออธิปไตยของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชน ต่อเกียรติภูมิศักดิ์ศรี ของทหาร และเจ้าหน้าที่ที่คอยปกป้องดูแลแผ่นดินของเราอยู่ พร้อมย้ำว่าทุกอย่างมีอยู่ในแผนการดำเนินการทั้งหมดแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้

“เมื่อวานที่ประชุม สมช.ได้มีการประเมินสถานการณ์ วันนี้เราลงนามในปฏิญญา​ แต่ปฏิญญาผู้ที่ลงนามกับเราไม่ปฏิบัติ ในเมื่อไม่ปฏิบัติ ตนก็ไม่รู้จะเปรียบเทียบอย่างไร ตนก็ต้องร้องเพลง​my way อย่างตน​ อย่างพี่เล็ก​ พี่หยอย​ พี่​ปู จะมานั่งโต๊ะก็ตะขิดตะขวงใจกัน มันไม่ได้แล้ว เพราะ 4 ข้อหลัก 4 ข้อคุณไม่ทำ แต่เราทำ เราทำทุกข้อ เราต้องการให้เกิดสันติภาพโดยเร็วที่สุด​ แต่เมื่อคุณไม่ทำ แล้วจะกลับมาทำใหม่ไม่ได้ วันนี้ประเทศไทยต้องยึดผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนคนไทยเท่านั้น ตรงนี้มีความชัดเจนแล้วตนจึงบอกว่า เดี๋ยวเจรจาการค้าภาษีเป็นอย่างไรไม่สนแล้ว หากขายประเทศนี้ไม่ได้ก็ไปหาประเทศอื่น​ ภาคเอกชนต้องช่วยกัน เราจะเอาชีวิตไปฝากไว้กับประเทศเพียงประเทศเดียวได้อย่างไร ภาคเอกชนเข้าใจเรื่องนี้ดี​ ส่วนนี้ปิด​ไปไม่เป็นไร​ ไปหาที่อื่นได้ ใช้ภาษีมากกดดันเราก็ไม่เป็นไร เพราะประเทศอื่นก็โดนผลกระทบเรื่องภาษีเหมือนกัน เราต้องมานั่งคุยกันเองท้ายที่สุดแล้วหากภาษีสูงมากจนถึง 100% ท้ายที่สุดผู้เดือดร้อนก็คือผู้ซื้อเราเป็นผู้ผลิตเราก็ต้องมา หันมาซื้อของในบ้านเราให้ได้มากที่สุด ซึ่งเราต้องอยู่ให้ได้ในยุคที่สร้างศักยภาพให้กับตนเอง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีการเตรียมกำลังทางทหารพร้อมแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน พยักหน้า รับ ก่อนกล่าวว่า “แน่นอนครับ”

by TVPOOL ONLINE