เมื่อเวลา 08.00น. วันที่ 26ต.ค. ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำผู้บริหารและข้าราชการกทม.จำนวนกว่า 3,500 คน ร่วมถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยผู้บริหารและข้าราชการกทม.ได้ยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัย เป็นเวลา 89วินาที ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่งข้าราชการกทม. ได้ยืนไว้อาลัยเป็นรูปเลขเก้าไทย เพื่อแสดงออกถึงความอาลัยและแสดงออกถึงความจงรักภักดี และแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในหลวง รัชกาลที่9 ที่ทรงเป็นมิ่งขวัญของแผ่นดิน และมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประชาชนชาวไทยเสมอมา
โดยพล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า ในวันนี้ ข้าราชการกทม.ทุกคน ล้วนตั้งใจแสดงออกถึงความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งทรงเป็นมิ่งขวัญของแผ่นดินมาตลอดระยะเวลา 70ปี ทั้งนี้ กทม.จะขอตามรอยเบื้องพระยุคลบาท และน้อมนำเอาพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้ให้แนวคิดด้านต่างๆไว้มากมายทั้งด้านเศรษฐกิจพอเพียง การแก้ปัญหาด้านต่างๆ เพื่อนำมาสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนชาวกรุงเทพฯ และประชาชนทุกๆคนของไทย ให้มีความสุขมากที่สุด ส่วนในโครงการในพระราชดำริ อาทิ โครงการแก้มลิง โครงการสร้างพื้นที่สีเขียว กทม.จะน้อมนำเอามาปฏิบัติตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้ประชาชน และประเทศชาติพัฒนายิ่งขึ้นไปได้
สำหรับการเตรียมงานสนับสนุนการจัดพิธีพระบรมศพนั้น ขณะนี้มีประชาชนเข้ามาถวายความอาลัยในพื้นที่โดยรอบพระบรมมหาราชวังจำนวนมาก และในวันที่ 29ต.ค.นี้เป็นต้นไป สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชนเข้าสักการะพระบรมศพได้ ซึ่งคาดว่าจะมีประชนจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่ กทม.จึงได้จัดสถานที่รองรับประชาชน โดยประสานกับทางกองทัพบกและหน่วยงานต่างๆเพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยจะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครคอยดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่สนามหลวงและรอบพระบรมมหาราชวัง โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่ต้องดูแลกวดขันพื้นที่มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับการแจกบัตรคิวเพื่อเข้าเคารพพระบรมศพนั้น จะเป็นหน้าที่หลักของกองทัพภาคที่ 1 โดยกทม.ได้สนับสนุนงานในการจัดเต้นท์ และเก้าอี้ บริการประชนในการรอคิวอย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ส่วนประชานที่เข้าในพื้นที่ และไม่มีที่พักอาศัย กทม. ได้จัดที่พักไว้ให้ คือ 1.อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง รองรับประชาชนได้ 500-600 คน 2.บ้านอิ่มใจ รองรับ ประชาชนได้ประมาณ 50-60 คน และได้ประสานของใช้สนามม้านางเลิ้งให้เป็นจุดพักค้างเพิ่มเติมอีก 1 แห่ง โดยประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ทุกวันที่กองอำนวยการร่วมกรุงเทพมหานคร บริเวณสนามหลวง ทั้งนี้ตนต้องขอร้องประชาชนอย่านำรถส่วนตัวเข้ามาในพื้นที่โดยรองพระบรมมหาราชวัง เนื่องจากเป็นพื้นที่แออัด ไม่มีที่จอดรถบริการ ซึ่งการนำรถส่วนตัวเข้ามาในพื้นที่จะสร้างปัญหาการจราจรติดขัดมากยิ่งขึ้น จึงขอให้ประชาชนใช้รถบริการรถส่งฟรีมายังท้องสนามหลวง ซึ่งหน่วยงานต่างๆก็จะบริการกระจายยังจัดอยู่ในจุดต่างๆให้ประชาชนใช้บริการได้อย่างสะดวกมากที่สุด
พล.ต.อ.อัศวินกล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คือปัญหาขยะ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 14-24 ต.ค. 59 ขยะที่จัดเก็บได้มีจำนวนถึง 2,683 ตัน เฉลี่ย วันหนึ่งจะมีขยะประมาณ 80-100 ตัน ที่ผ่านมาก กทม.ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าจัดเก็บขยะ แต่วิธีการเก็บขยะของเจ้าหน้าที่ อาจทำให้ประชาชนไม่สะดวก เนื่องจากต้องนำรถเข้าไปเก็บขยะในพื้นที่ ซึ่งอาจกีดขวางทางเดิ นทางของประชาชน อย่างไรก็ตาม กทม.ต้องขอความร่วมมือประชนช่วยทิ้งขยะในถังขยะที่ จัดเตรียมไว้ และขอให้ประชาชนร่วมกันคัดแยกขยะ ซึ่งกทม.ได้จัดจุดคัดแยกรอบพื้นที่ จำนวน 10จุด โดยแบ่งถังขยะออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ถังสีเขียวทิ้งเศษอาหาร ซึ่งเศษอาหารมีปริมาณเยอะมาก มีถึง 50% ของขยะทั้งหมด ถังสีน้ำเงินเป็นขยะทั่วไป และถังขยะสีเหลืองขยะรีไซเคิล ซึ่งทั้ง 3 ถังจะติดป้ายบอกด้านข้างทุกถัง โดยหากประชาชนร่วมมือกัน ก็จะช่วยให้กทม.สามารถจัดเก็บขยะได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ที่มา – เดลินิวส์