พระอาทิตย์ตกดินยามเย็น
เหมาะกับคู่รักเลยใช่ไหมละ ท้องฟ้าเป็นสีแดงผสมปนไปกับก้อนเมฆและท้องฟ้า
ชั่งน่าหลงใหล รู้สึกถึงความเย็นที่กำลังคลืบคลานเข้ามา
และพัดพาความร้อนของแสงแดดออกไป มาพร้อมกับความโรแมนติกที่ไม่ว่าคู่ไหนๆ
ก็อยากที่จะเห็น แต่พระอาทิตย์ตกดินใช่จะมีดีแค่ความสวยเท่านั้น
มันยังมีประโยชน์ทางจิตใจอีกด้วยนะเธออ
1. ช่วยพัฒนาความคิดเชิงบวก
ผลงานวิจัยทางจิตวิทยาเมื่อปี
2012 ได้แสดงผลการทดลองเอาไว้ว่า
อาสาสมัครที่ใช้เวลาดื่มด่ำกับภาพพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม
จะเกิดความรู้สึกพึงพอใจ อิ่มเอม และช่วงเวลาสั้น ๆ นั้นก็จะทำให้เขาเกิดสมาธิ
มีโอกาสได้ใช้มุมมองด้านบวกมากขึ้น พร้อมกันนั้นก็ผลักดันให้เกิดความหวังในการใช้ชีวิตมากกว่าเดิม
ด้วยความรู้สึกที่คิดว่า ตัวเองมีเวลาเหลืออีกมากมายที่จะทำในสิ่งที่อยากทำ
ทำให้เปลี่ยนวิถีมาใช้ชีวิตแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร่งรีบจนรู้สึกเหนื่อยและล้า
2. เติมพลังชีวิตอย่างเต็มเปี่ยม
แม้หลายคนจะอ้างว่าไม่มีเวลามากพอจะมาอ้อยอิ่งชื่นชมพระอาทิตย์ตกดินทุกเย็น
แต่ถ้าคุณสามารถปลีกเวลาออกมาดูพระอาทิตย์ตกดินอย่างน้อยแค่ 20 นาที ก่อนกลับเข้าไปทำงานอีกครั้ง (ในกรณีคนเลิกงานดึก)
ก็เพียงพอให้คุณได้สัมผัสแสงแดดอ่อน ๆ
และถือโอกาสผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวัน
อีกทั้งงานวิจัยจากสถาบันวิจัยจิตวิทยากับสิ่งแวดล้อมยังบอกมาอีกด้วยว่า
ธรรมชาติก็เปรียบเสมือนเชื้อเพลิงชั้นดีของจิตวิญญาณ
ยิ่งเราได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากแค่ไหน เราก็จะยิ่งมีพลังใจเพื่อต่อสู้กับสิ่งต่าง ๆ
ในแต่ละวันมากขึ้นเท่านั้น
เนื่องมาจากออกซิเจนที่เราได้รับเข้าไปพร้อมกับบรรยากาศที่กำลังสบายในช่วงเย็น
จะปลุกให้สมองและระบบต่าง ๆ ในร่างกายตื่นตัว สดใส และกระปรี้กระเปร่าขึ้นได้ง่าย
ๆ นั่นเอง
3. ฝึกสมาธิ และส่งเสริมสุขภาพ
ถ้าอยากได้โชค
2 ชั้น ผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำให้คุณออกกำลังกายเบา ๆ
ยามเย็นเคล้าแสงแดดอ่อน ๆ ไปด้วยเลย เพราะการออกกำลังกายในช่วงนี้
จะช่วยลดความเสี่ยงโรคซึมเศร้า ลดอาการวิตกกังวล และลดความเครียดได้ด้วยนะคะ
แต่ถ้าใครอยากจะนั่งชมพระอาทิตย์ตกเฉย ๆ ก็ตามสบายเช่นกัน เพราะได้ฝึกสมาธิ
ส่งผลดีต่อระบบความจำ ลดความกดดัน และความเครียด รวมทั้งยังช่วยจัดระเบียบระบบต่าง
ๆ ภายในร่างกายได้อีกทาง เรียกได้ว่า มีประโยชน์ไม่แพ้กันเลยล่ะค่ะ
4. ช่วยให้ห่างไกลจากโลกเทคโนโลยี
(ชั่วคราว)
ระยะแรก ๆ
ที่เพิ่งได้ลองมาดูพระอาทิตย์ตกดิน คุณอาจจะตื่นเต้นและอยากจะเก็บภาพสวย ๆ
ไว้ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อเอาไว้แชร์ในโซเซียลเน็ตเวิร์ก แต่พอผ่านไปได้สักพัก
ความคุ้นชินและความสวยงามที่อยู่ตรงหน้า จะทำให้คุณเลิกสนใจจะเก็บภาพ
แล้วหันมาใส่ใจเก็บบรรยากาศที่รายล้อมรอบตัวมากกว่า ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี
ที่จะได้กลับมาใช้ชีวิตแบบไร้เทคโนโลยีที่เกินความจำเป็นบ้าง
แม้จะแค่ชั่วคราวก็เถอะ
5. กระตุ้นจิตสำนึกด้านดี
ภาพความสวยงามของธรรมชาติที่ไร้การปรุงแต่ง
มักจะทำให้เราเกิดความรู้สึกปลื้มปิติ จนนึกอยากจะขอบคุณธรรมชาติที่รังสรรค์สิ่งดี
ๆ แบบนี้ให้กับมนุษย์เราในทุกครั้ง ซึ่งนักจิตวิทยาก็อธิบายเพิ่มเติมว่า
ความรู้สึกเหล่านี้มีความเกี่ยวเนื่องกับจิตสำนึกด้านดี
ที่จะชักนำให้คุณแสดงออกด้วยพฤติกรรมเชิงบวกต่อไป
นอกจากนี้การมุ่งความสนใจไปยังสิ่งที่เรารู้สึกดี หรือให้ความสนใจในเชิงบวก
จะช่วยให้รู้สึกรื่นเริง พัฒนาการนอนหลับ และได้ฝึกความอดทนไปในตัวอีกด้วยนะ
6. สร้างแรงบันดาลใจ
แม้ช่วงเวลาของพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น
ๆ แต่กลับมีอานุภาพมากพอจะสร้างแรงบันดาลใจดี ๆ ให้กับใครหลายคนอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
ซึ่งนักจิตวิทยาก็เน้นย้ำมาอีกครั้งว่า การโบกมือลาของพระอาทิตย์
ก็เปรียบเสมือนสัญญาณว่าเราใช้ชีวิตผ่านพ้นไปได้อีกวัน
เพื่อเตรียมพร้อมรับวันใหม่ที่สดใสในวันรุ่งขึ้น และวันต่อ
ๆ ไปเรื่อย ๆ และตราบใดที่พระอาทิตย์ยังคงขึ้นจากขอบฟ้า
เราก็ยังคงมีหวังในชีวิตตลอดไปนั่นเอง
by TVPOOL ONLINE



