เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินชนิดโละของเดิมทิ้งทั้งหมด โฟกัสแต่อาหารเพื่อสุขภาพจริง ๆ

2. ใช้แอพฯ คำนวณแคลอรีอาหาร หรือใครจะลองคำนวณด้วยตัวเองก็ได้ แต่อาจไม่ค่อยชัวร์เท่าไรนะ

3. สวม Apple Watch ตอนออกกำลังกาย เอาไว้ใช้คำนวณแคลอรีที่ได้เบิร์นไป

4. ดื่มน้ำเยอะ ๆ ตวงให้ชัดไปเลยว่าเราดื่มน้ำได้ถึง 2 ลิตรต่อวันไหม

5. ตั้งเป้าหมายระยะสั้น ๆ แล้วฉลองให้กับความสำเร็จในทุกขั้นด้วยปาร์ตี้ผัก-ผลไม้ บวกกับขนมกินเล่นอีกนิดหน่อย

6. เลือกเมนูอาหารที่เฮลธ์ตี้ เมื่อต้องออกไปกินอาหารนอกบ้าน เช่น เลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำผลไม้ปั่นหรือน้ำอัดลม เปลี่ยนเมนูเนื้อติดมันเป็นอกไก่ล้วน เป็นต้น

7. กินขนมได้แต่ห้ามเยอะ โดยเธอจะชั่งตวงขนมหรืออาหารแคลอรีสูงเป็นอย่าง ๆ ไป

8. ตุนอาหารเพื่อสุขภาพไว้ในตู้เย็น อ้อ ! แล้วอย่าลืมกำจัดอาหารขยะ อาหารแคลอรีสูงทิ้งด้วยล่ะ

9. บังคับตัวเองให้เคลื่อนไหวมากขึ้น เช่น เดินแทนการขับรถ ปั่นจักรยานแทนการนั่งรถโดยสาร หรือขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ และควรทำให้ติดเป็นนิสัย

10. ถ่ายรูปตัวเองเอาไว้เรื่อย ๆ เพื่อดูการเปลี่ยนแปลง

11. ลดนิสัยติดกินหวาน แล้วหันมาเติมไขมันดีอย่างไข่ อะโวคาโด ถั่วชนิดต่าง ๆ แทน

12. ศึกษาให้รู้จริงถึงหลักของการลดน้ำหนัก ไม่อดอาหาร แต่เลือกกินให้เหมาะกับร่างกายตัวเอง ซึ่งจุดนี้ก็จะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละคนนะคะ

13. เปลี่ยนตัวเองให้สุด พยายามอย่ากลับไปใช้ชีวิตในวิถีเดิม ๆ ไม่กลับไปมีไลฟ์สไตล์ที่ทำให้อ้วนอีกต่อไป

14. ท้อได้แต่ห้ามถอย ถ้าวันไหนพลาดกินเยอะเกินไป มื้อต่อมาก็ให้กินน้อยลง หรือเลือกกินอาหารคลีนให้ได้มากที่สุด และออกกำลังกาย อย่ามัวแต่รู้สึกผิดจนหมดกำลังใจและกลับไปใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยอาหารแคลอรีสูง

15. อย่าลดน้ำหนักด้วยความรู้สึกฝืนต่อใจ อย่าลดน้ำหนักเพราะใครมายุยงให้ลด แต่ให้เริ่มลดน้ำหนักเพราะรู้สึกว่าอยากลดแล้วจะผอมลงได้สำเร็จ

นอกจากนี้เธอยังมีลิสต์รายการอาหารต้องห้ามกินในขณะลดน้ำหนักให้ตัวเองอีกด้วย ซึ่งอาหารที่เธอจะไม่ยอมแตะเลยในระหว่างลดน้ำหนักก็มีดังต่อไปนี้ค่ะ

– อาหารทอด อาหารมัน
– ฟาสต์ฟู้ด
– น้ำอัดลม น้ำหวาน ชา กาแฟ
– เนื้อแดง
– อาหารแช่เข็ง
– ขนมปังขัดขาว ข้าวขัดขาว
– ซีเรียล เบรกฟาสต์บาร์ กราโนลาบาร์
– สลัดน้ำข้น
– อาหารสำเร็จรูป
– อาหารแปรรูปทุกชนิด

อีกสิ่งที่ควรทำและเธอก็ทำควบคู่มาโดยตลอดก็คือการออกกำลังกายลดน้ำหนัก ซึ่งในระยะแรกนั้นเธอทำแค่เพียงเดิน เดิน และเดิน เท่านั้นค่ะ เพราะด้วยน้ำหนักตัวตอนนั้นก็มากด้วย Arielle จึงเริ่มออกกำลังกายด้วยการเดินจนลดน้ำหนักได้ราว ๆ 18 กิโลกรัม (40 ปอนด์) จากนั้นจึงหันมาวิ่งลดน้ำหนักสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ปั่นจักรยานลดน้ำหนักอีกสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และเวทเทรนนิ่งอีกสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จนปัจจุบันนี้สามารถลดน้ำหนักไปได้กว่า 45 กิโลกรัม (100+ ปอนด์) หุ่นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยความพยายามและความอดทนของตัวเธอเอง

 

เครดิต ariellesays

TV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool Online