เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสามแยกเจริญผล  อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก  พบพระพูล เพชรนาค นั่งพักอยู่บริเวณข้างทาง พร้อมด้วยรถเข็นที่ติดพระฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ โดยรอบ พร้อมข้อความ “ไม่รับปัจจัย อาตมาภาพตั้งสัจจะ เดินถวายเป็นพระราชกุศล จึงไม่ขอรับปัจจัยใดใด เพื่อสัจจะบารมี” ขณะที่ประชาชนที่พบเห็นได้นำ สิ่งของเครื่องใช้และยามาถวายเพื่อไว้ใช้ในระหว่างเดินทาง

 


พระพูล เพชรนาค เป็นพระลูกวัดป่ามะไฟ ตำบลโคกไม้ลาย อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี วัยอายุ 65 ปี ได้เดินทางออกมาจากวัดตั้งแต่6 โมงเช้าวันนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตั้งใจจะเดินทางมาตั้งแต่ทราบว่าพระองค์ท่านได้สวรรคต แต่ติดภารกิจ จนกระทั้งเมื่อวานได้รับกฐินเสร็จจึงได้รับอนุญาตจากเจ้าอาวาสวัดเดินทางออกมาอย่างที่ตั้งใจไว้เพื่อไปลงนามและกราบพระบรมศพที่ท้องสนามหลวง คาดว่าใช้ระยะเวลาเดินทาง ประมาณ 5 วัน นับจากวันนี้

 

ทั้งนี้ยังได้บอกอีกว่าที่ผ่านมาตนเป็นคนสูบบุหรี่จัด แต่มีครั้งหนึ่งเมื่อสิบกว่าปีก่อน ขณะที่ปฎิบัติธรรมอยู่ที่จังหวัดประจวบฯ พระองค์ท่านได้บอกว่าใครที่สูบบุหรี่ก็ขอให้เลิกบุหรี่จากนั้นตนจึงเลิกตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี

 


แม้ว่าจะอายุ65 ปี แต่ใจตอนนี้อยู่ที่ท้องสนามหลวงแล้ว เนื่องจากหลังจากที่ทราบข่าวพระองค์สวรรคตตนก็ร้องไห้เสียใจอยู่ทุกวัน   ตั้งแต่เกิดมาเคยเห็นพระองค์ท่านแต่ไม่เคยได้เข้าให้สักครั้ง  ทุกวันนี้มีพระบรมฉายาลักษณ์พระองค์ท่านติดไว้ในกุฎิและกราบไว้ทุกวัน

 

ขณะตอนนี้อาสากู้ภัยสว่างอริยะธรรมสถานได้นำรถกู้ภัยพร้อมอาสาสมัคร อุปกรณ์ปฐมพยาบาล ติดตามพระพูลไปตลอดเส้นทางจนสุดเขตจังหวัดนครนายกเพื่อดูแลความปลอดภัยขณะเดินทางบนท้องถนน ในขณะที่เดินมาได้ระยะทาง 30 กิโล พระพูลกก็ได้มีอาการเจ็บเท้า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่ร่วมเดินทางก็พบว่าเป็นแผลที่เกิดจากการเสียดสีของรองเท้าจนทำให้เกิดเป็นผิวหนังพองและแดงหน่วยกู้ภัยจึงได้ล้างแผลและใช้ผ้าพันแผลเพื่อป้องกันแผลอักเสบติดเชื้อพร้อมทั้งถวายรองเท้าคู่ใหม่แบบคีบเพื่อความสบายในการเดินทางไกล

 

 

สำหรับรถเข็นพระพูลได้จัดเตรียมใส่สัมภาระสิ่งของน้ำดื่มและกล้วย เพื่อใช้ในการเดินทางพร้อมทั้งอุปกรณ์ในการจำวัดและเครื่องมือในการปะยางหากรถเกิดยางรั่ว เพื่อไม่อยากที่จะรบกวนใครและเป็นภาระของใครด้านหน่วยกู้ภัยเองบอกว่าอยากที่จะร่วมเดินทางส่งหลวงพ่อไปจนสุดเขตพื้นที่และประสานหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ธัญบุรีก็คือร่วมกตัญญุปทุมธานีมารับช่วงเนื่องจากจะได้ไม่เกิดอันตรายอะไรและพวกเราเองก็อยากที่จะมีส่วมร่วมในครั้งนี้อยู่แล้ว

 

ที่มา – ธนาธิป ไชยยศ