เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ประชาชนในเกาหลีใต้ที่อาจมากถึง 1 ล้านคนรวมตัวกันในเขตใจกลางกรุงโซล เพื่อชุมนุมใหญ่ครั้งใหม่ กดดันประธานาธิบดีหญิงของประเทศให้ลาออก เพื่อรับผิดชอบการมีส่วนพัวพันกับคดีคอร์รัปชั่นอันอื้อฉาว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ว่าชาวเกาหลีใต้ทุกเพศและทุกวัยจากทั้วทุกสารทิศรวมตัวกันบริเวณจัตุรัสใจกลางกรุงโซล ตลอดทั้งวันเสาร์ ซึ่งเป็นการชุมนุมแสดงพลังของประชาชนครั้งล่าสุด ในการกดดันให้ประธานาธิบดีปาร์ค กึน-เฮ ลาออกจากตำแหน่ง จากกรณีอื้อฉาวครั้งใหญ่ทางการเมือง ที่ขยายวงเป็นการคอร์รัปชั่นครั้งใหญ่ โดยมีนางชเว ซุน-ซิล เพื่อนสนิทยาวนานของเธอ เป็นศูนย์กลางของสถานการณ์ที่กำลังกลายเป็น “วิกฤติระดับชาติ”

ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติระดมกำลังเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบราว 25,000 นาย ส่วนหใญ่สวมชุดเกียร์สำหรับควบคุมสถานการณ์ประท้วง กระจายกำลังรอบพื้นที่ชุมนุมซึ่งมีการติดตั้งแบนเนอร์ขนาดใหญ่ทั่วบริเวณเป็นทั้งภาพและข้อความประณามผู้นำหญิงของประเทศ และเรียกร้องให้เธอลงจกตำแหน่งโดยเร็วที่สุด ด้านยังมีเจ้าหน้าที่อีกจำนวนมากพร้อมรถตำรวจ ตั้งด่านปิดเส้นทางการจราจรทั้งหมดที่ผ่านเข้าสู่ทำเนียบประธานาธิบดีหรือบลูเฮาส์ ไม่ว่าจะเป็นถนนสายหลักหรือสายรองก็ตาม

ปัจจุบันนางชเว วัย 60 ปี ถูกคุมขังรอการขึ้นศาลอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงแห่งหนึ่งในกรุงโซล หลังถูกจับกุมเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วในข้อหาเจตนาแทรกแซงงานบริหารราชการแผ่นดินและฉ้อโกง โดยพนักงานสทบสวนเชื่อว่าเธออาศัยความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวที่ยาวนาน 4 ทศวรรษกับประธานาธิบดีหญิง ในการสร้างอิทธิพลเพื่อ “ครอบงำ” อีกฝ่าย จนนางชเวสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญทางราชการในหลายเรื่อง และสามารถปรับแก้ถ้อยแถลงหรือสุนทรพจน์ของผู้นำประเทศได้ในหลายโอกาสด้วย

แม้น.ส.ปาร์ค วัย 64 ปี ออกมาขอโทษประชาชนแล้ว 2 ครั้ง และปรับตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่งในคณะรัฐบาล แต่สถานการณ์ไม่ได้ดีขึ้น คะแนนนิยมของเธอร่วงต่ำลงเหลือเพียง 5% ด้านฝ่ายแกนนำจัดการชุมนุมเชื่อว่าจะมีประชาชนทยอยเดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรมในกรุงโซลมากถึง 1 ล้านคน แต่เจ้าหน้าที่ประเมินว่ามีเพียง 170,000 คนเท่านั้น กระนั้นหลายฝ่ายเชื่อว่าการชุมนุมครั้งนี้จะมีความยิ่งใหญ่มากกว่าการชุมนุมทางการเมืองครั้งใหญ่เมื่อปี 2551 ที่เป็นการคัดค้านนโยบายของประธานาธิบดีอี มยอง-บัก ผู้นำในเวลานั้น ซึ่งยกเลิกมาตรการห้ามนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐ ทั้งที่ในเวลานั้นสถานการณ์ของโรควัวบ้ายังไม่น่าไว้วางใจ

ที่มา – dailynews

 

TV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool Online