ในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์แบบนี้ คุณสาวๆ ก็คงเตรียมตัวเตรียมใจ เก็บมันนี่
อยากไปเที่ยว ไปช้อปปิ้งกันแล้วสินะ วันนี้เรามี 10 อันดับเมืองที่สวยที่สุดในโลกมาฝากแฟนๆ
ชาว SPICY โดยเฉพาะ เผื่อได้ลองเลือกไปเที่ยวในวันหยุดสุดหรรษาแบบนี้กันดูบ้าง
เที่ยวเอาให้ลืมเรื่องเครียดๆ กันไปเลย และที่สำคัญการันตีความสวยจาก Ucityguides
อีกด้วยล่ะ
1. Venice, Italy
ใครที่เคยไปสัมผัสเมืองนี้มาด้วยตัวเองนั้น
ต่างก็ก็มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า ‘Venice’ เป็นเมืองที่สวยที่สุดในโลก และเป็นเมืองเดียวที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่ชัดเจนที่สุด
ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสายน้ำของประเทศอิตาลี อาคารแต่ละอาคารของที่นี่ถูกรังสรรค์ไว้ด้วยศิลปะงามตรึงใจ
เมื่อตึกสะท้อนกับลำคลองที่ไหลผ่านเมือง มันเป็นฉากราวกับต้องมนต์ที่น่าหลงใหล
ราวกับว่าได้เข้าไปในเมืองแห่งเทพนิยายที่มีอยู่จริงบนโลก
2. Paris, France
แม่น้ำ ‘Seine’ สะพานข้ามแม่น้ำ ‘Seine’ ถนน ‘Grand Boulevards’ จัตุรัส ‘Monumental’ อนุสาวรีย์ที่โอ่อ่า หรือเสน่ห์ของถนน ‘Montmartre’ ภาพความสวยงามทั้งหมดนี้ ย้ำชัดว่า ‘Paris’ คือเมืองที่มีความสง่างามที่แท้จริง
ที่นี่เป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกเมืองหลวงเอกของโลก โดยเฉพาะถนน ‘Champs-Elysèes’
และจัตุรัส ‘Place des Vosges’ ก็ได้กลายเป็นต้นแบบของจัตุรัสไปทั่วทั้งยุโรป
ไม่ว่าคุณจะล่องเรือ หรือแค่จิบกาแฟอยู่ริมแม่น้ำ‘Seine’
ก็สามารถดื่มด่ำบรรยากาศที่แสนสุดจะโรแมนติกในมหาครแห่งนี้ได้ทั้งนั้น
3. Prague, Czech
กรุง ‘Prague’ เป็นที่รู้จักกันในนามว่า
‘เมืองแห่งตึกพันยอดแหลม’
เพราะเมืองนี้มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม และมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์อยู่มากมาย
สถาปัตยกรรมที่ได้รับการชื่นชมมากที่สุดเห็นจะเป็น สะพานข้ามแม่น้ำ ‘Vltava’
โดยเฉพาะสะพาน ‘Charles’ ที่แสนงดงาม
การเดินไปยังจัตุรัสเก่าแก่ที่สวยงาม โดยผ่านตรอกซอกซอยของถนนหินกรวดนั้น
ทำให้รู้ว่ามีเพียงไม่กี่เมืองในโลกที่ให้ความรู้สึกดีแบบที่นี่ได้
4. Lisbon, Portugal
เมือง ‘Lisbon’ ตั้งอยู่ในพื้นที่บนทิวเขาที่ลาดลงไปยังแม่น้ำ
‘Grand Tagus’ เป็นเมืองสวยอีกเมืองหนึ่ง เป็นหนึ่งในเมืองที่มีวิวเยอะที่สุด
วิวสวยๆ มุมสวยๆ ที่พบได้โดยทั่วไปในเมืองนี้ ไม่ว่าจะเป็น ถนน จุดชมวิว หรือหน้าผาบนยอดเขา
เมืองนี้มีรูปแบบของความงามที่เย้ายวนใจ และไม่ได้สรรค์สร้าง มีรายละเอียดที่ดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล
เช่น ก้อนกรวด สถาปัตยกรรมด้านหน้าของตึก หรือแม้แต่สีพาสเทลของตัวอาคาร
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมนักสำรวจในศตวรรษที่ 15 ได้ตั้งคำถามตอนที่จากเมืองนี้ไปว่า
“มันจะมีความงดงามอะไรอีกไหมที่เส้นขอบฟ้านั้น”
5. Rio De Janeiro
มีคนกล่าวไว้ว่าพระเจ้าสร้างโลกแค่
6 วัน และวันที่ 7 ได้สร้างเมือง ‘Rio De Janeiro’ เมืองนี้เป็นเมืองที่มีธรรมชาติสวยที่สุดในโลก
เมื่อเราได้ขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดของภูเขา ‘Sugarloaf’ อันโด่งดัง
หรือ ข้างเทพี ‘Corcovado’
ก็จะเห็นวิวทิวทัศน์และภูมิประเทศที่สวยงามที่สุดของเมืองนี้ บรรยากาศเขียวขจีแบบเมืองร้อนรวมกับสีน้ำเงินของมหาสมุทร
และความสว่างของเม็ดทรายบนชายหาด ราวกับว่าเมืองนี้ไร้ผู้คนอาศัย พิสูจน์ให้เห็นว่าที่นี่คือ
เมืองมหัศจรรย์ของจริง
6. Amsterdam, Brazil
อาคารนับพันที่เรียงรายรอบแม่น้ำหลักในเมือง
‘Amsterdam’ ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของตึกแบบอพาร์ทเม้นท์ ตึกออฟฟิศ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร
หรือแม้กระทั่งแหล่งอโคจร ก็กระจุกตัวได้อย่างลงตัวและสวยงามอย่างไร้ที่ติ มีสะพานข้ามแม่น้ำ
ถนนหินกรวดที่งดงาม และสถาปัตยกรรมที่โอ่อ่า สิ่งเหล่านี้ได้สร้างความงามที่เป็นเอกลักษณ์
ที่ทำให้เมืองนี้เป็นหนึ่งในเมืองที่มีเสน่ห์มากที่สุดในโลก
7. Florence, Italy
‘Florence’ มีความหมายเหมือนกับคำว่า
‘Renaissance’ ในภาษาอิตาลี
รู้จักกันดีในเรื่องของมรดกทางด้านศิลปะในพระราชวังและพิพิธภัณฑ์
และกำแพงที่มีความสวยงามทั้งภายในและภายนอก ถ้าคุณได้ไปยืนชมวิวที่ระเบียง ‘Piazzale
Michelangelo’ ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19
แล้วมองไปทั้งเมืองก็จะเห็นภาพทิวทัศน์ที่สวยที่สุดในโลก จะเห็นเส้นขอบฟ้า หอคอย โดมใจกลางเมือง
สะพาน ภูเขาจากระยะไกล และ ‘Duomo’ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางทุกสิ่ง
มีไม่กี่เมืองในโลกเท่านั้นที่จะทำให้ผู้มาเยือนตรึงตราตรึงใจได้เท่าเมือง
‘Florence’
8. Rome, Italy
กรุง ‘Rome’ เมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาทั้ง 7 ลูกข้างแม่น้ำ
‘Tiber’ คือขุมทรัพย์ของอนุสาวรีย์ท่ามกลางจัตุรัสที่สวยงาม
และสถาปัตยกรรมแสนคลาสสิคของโลก ทุกคนที่มาเยือนที่นี่มักจะไปชมแลนด์มาร์คของเมืองกันทั้งนั้น
แต่คนก็มักจะมองข้ามถนนสวยๆ ของเมืองนี้ไป เช่น เขต ‘Trastevere’ เต็มไปด้วยถนนที่มีเสน่ห์ อาคารอันโอ่อ่า
และบ้านเรือนที่ตกแต่งด้วยกล่องดอกไม้แสนน่ารัก ถนนแบบนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า ที่นี่คือที่สุดแล้วของความงามบนท้องถนน
9. Budapest, Hungary
‘Budapest’ เมืองที่แยกออกเป็นส่วนๆ
โดยแม่น้ำ ‘Danube’ เกิดจากการรวมตัวกันของ 3
เมือง ‘Buda’ คือ ภูเขา พระราชวัง และเมืองเก่า ส่วน
‘Pest’ คือสถาปัตยกรรมบาโรกและโกธิคในช่วงประมาณศตวรรษที่ 19 เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ที่มีอาคารแบบ
‘neo-renaissance’ เรียงรายอยู่สองข้างทาง เมืองนี้ได้รับการชื่นชมในเรื่องของสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น
รวมไปถึงอาคารรัฐสภาที่สวยงาม ถ้าคุณได้ไปเยือน อย่าพลาดที่จะลองเดินจากสะพานไปถึงย่านเมืองเก่า
แล้วคุณจะรู้สึกว่าเป็นถนนที่โรแมนติกที่สุดเท่าที่คุณเคยเดินมา
10. Bruges, Belgium
‘Bruges’ เป็นเมืองเล็กๆ
ในประเทศเล็กๆ แม้ความเป็นเมืองจะมีอยู่น้อย แต่ความงามของเมืองนี้นั้นมีอยู่มาก เป็นหนึ่งในเมืองยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้
เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรกและโกธิคล้อมรอบด้วยคลองรูปวงรี และถนนหินกรวดแสนโรแมนติก
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ คือเมืองที่น่ามาเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ด้วยสถานที่ที่อยู่ใจกลางทวีป
เป็นสถานที่ที่พลาดไม่ได้ใน ‘Brussels’ และเดินทางมาง่ายมากจากยุโรปกลาง
ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องมาสัมผัสสักครั้งบนโลกนี้
เอาแล้วล่ะสิ
กระตุกต่อมอยากเที่ยวของคุณสาวๆ ขึ้นมาแล้วใช่ไหมล่ะ?
งั้นเราอย่ารอช้ารีบแพ็คกระเป๋าออกเดินทางไปชมเมืองสวยๆ สุดโรแมนติกกับคนรู้ใจ
เอาให้ฟินกันไปข้างนึงเลย แค่คิดก็สนุกแล้ว…
