เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณี พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ยุคล พร้อมด้วย ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล สวัสดิ์-ชูโต เข้าลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง หลังพบว่ามีบุคคลแอบอ้างใช้ชื่อ ม.ร.ว.แม้นนฤมาส เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง เมื่อคืนวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ หลังจากม.ร.ว.แม้นนฤมาส เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจได้สืบจนทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุแอบอ้างเป็นม.ร.ว.แม้นนฤมาส นั้นคือ น.ส.อโนทยาพัฒน์ สิทธีรผล อายุ 27 ปี ชาว กทม. จึงเชิญมาให้ปากคำ

จากการสอบปากคำเบื้องต้น น.ส.อโนทยาพัฒน์ รับสารภาพว่า ตนได้ลงลายมือชื่อแอบอ้างกับเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังว่าเป็น ม.ร.ว.แม้นนฤมาส จริง เพื่อให้ได้เข้าไปในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทและนำบุคคลอื่นเข้าไปอีก 12 คน ต่อมาตำรวจจึงเชิญพยานบางรายมาให้ข้อมูลแล้วทำให้พบว่าน.ส.อโนทยาพัฒน์ มีความผิดจริง 

นอกจากนี้ยังพบว่า น.ส.อโนทยาพัฒน์ มีพฤติการณ์ในลักษณะฉ้อโกง เรียกรับเงินเพื่อแลกกับพาเข้าร่วมพระราชพิธี รวมทั้งอ้างว่าสั่งจองเหรียญที่ระลึกดัวย โดยตำรวจสืบจนทราบว่า น.ส.พัชรวดี (สงวนนามสกุล) หลานสาวของ นางพาเพลิน (สงวนนามสกุล) ซึ่งตกผู้เสียหายที่ถูก น.ส.อโนทยาพัฒน์ ได้มาบอกกับผู้เสียหายว่า น.ส.อโนทยาพัฒน์ ซึ่งเป็นเพื่อนนั้น สามารถที่จะพาเข้าไปถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรามหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ภายในพระบรมมหาราชวัง ได้ในระยะใกล้กว่าบุคคลทั่วไป และไม่ต้องรอคิวเป็นนาน ผู้เสียหายและครอบครัวรวม 3 คนสนใจจึงติดต่อไปยัง น.ส.อโนทยาพัฒน์ ซึ่ง น.ส.อโนทยาพัฒน์ ระบุว่า ต้องเสียค่ารถจำนวน 5,500 บาท ผู้เสียหายจึงโอนเงินให้ จากนั้นจึงนัดเจอกัน โดยทาง น.ส.อโนทยาพัฒน์ ระบุว่าสามารถสั่งเหรียญที่ระลึกงานพระราชพิธีพระบรมศพได้ โดยคิดค่าสั่งจองจำนวนชุดละ 3,500 บาท จึงสั่งจองไป 15 ชุด เป็นเงิน 52,500 บาท 

กระทั่งวันที่ 22 พ.ย. เวลา 19.00 น. น.ส.อโนทยาพัฒน์ได้โดยสารรถตู้ทะเบียน ฮท 8746 กรุงเทพมหานคร มารับกลุ่มผู้เสียหายที่บ้านพัก ผู้เสียหายจึงจ่ายเงินค่าจองเหรียญที่ระลึกจำนวน 52,500 บาท และนั่งรถตู้คันดังกล่าวไปยังพระบรมมหาราชวัง ก่อนที่ น.ส.อโนทยาพัฒน์ จะพากลุ่มผู้เสียหายไปยังเต็นท์ที่ระบุว่า เฉพาะสมาชิกราชสกุล จากนั้น น.ส.อโนทยาพัฒน์ก็ได้ไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ก่อนที่ น.ส.อโนทยาพัฒน์ จะลงชื่อลำดับที่ 2 โดยใช้ชื่อว่า น.ส.แม้นนฤมาส ยุคล พร้อมเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบมายังกลุ่มผู้เสียหายพบว่า ไม่มีใครเป็นสมาชิกราชสกุล จึงถูกเชิญตัวออกจากเต็นท์ดังกล่าว ซึ่งทางผู้เสียหายจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปบ้านทันที โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เสียไปเป็นจำนวน 58,000 บาท และไม่ได้เข้าไปกราบพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ รวมทั้งไม่ได้เข้าไปในพระที่นั่งพระสวดพระอภิธรรมในระยะใกล้แต่อย่างใด 

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 พ.ย. ผู้เสียหายเห็นสื่อลงข่าวว่า ม.ร.ว.แม้นนฤมาส มาลงบันทึกประจำวันว่าถูกสวมรอยเซ็นชื่อ เพื่อเข้าไปภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท จึงทราบทันทีว่าเป็นเหตุการณ์เดียวกันกับที่ผู้เสียหายไป จึงตัดสินใจเข้าพบพนักงานสอบสวนทันที เพื่อให้ข้อมูลและแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.อโนทยาพัฒน์ ก่อนจะอนุมัติออกหมายจับ น.ส.อโนทยาพัฒน์ ที่ 2314/2559 ลงวันที่ 24 พ.ย.2559 ในข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงเป็นบุคคลอื่น 

หลังจากนั้น พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร  ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)  พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 พ.ต.อ.ธนกฤต ไชยจารุวุฒิ ผกก.สน.พระราชวัง ได้ร่วมกันแถลงจับกุม น.ส.อโนทยาพัฒน์ ในคดีดังกล่าวตามพยานหลักฐาน 

ด้านน.ส.อโนทยาพัฒน์ กล่าวว่า ตนรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยทำมาทั้งหมด 3 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 22 พฤศจิกายน และ 23 พฤศจิกายน มีผู้เสียหาย 17 ราย มูลค่าเงินที่เรียกรับมารวมกว่า 100,000 บาท โดยครั้งแรกตนเริ่มจากการแอบเดินตามสมาชิกในราชสกุลเข้าไปภายใน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ทันสังเกต เนื่องจากตนทำทีว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกราชสกุล ก่อนจะเห็นช่องทาง จนกระทั่งลงมือก่อเหตุดังกล่าว