นิตยสารชั้นนำของประเทศเยอรมนี ชื่อ NEUE ILLUSTRIERTE ได้อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ในฉลองพระองค์ชุดไทยประยุกต์ไปเป็นปก เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศในยุโรป
ฉลองพระองค์ชุดไทยบนปกนิตยสาร NEUE ILLUSTRIERTE ประเทศเยอรมนี
ที่มา : จักรกฤษณ์ ดวงพัตรา และวิไลวรรณ สมโสภณ. 2541 : 10
หลังจากเสด็จนิวัติพระนครครั้งนั้นแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็ยังทรงฉลองพระองค์ชุดไทยแบบต่าง ๆ นับตามโอกาส จนกระทั่งในปีพุทธศักราช 2507 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งทรงมีพระราชวินิจฉัยเลือกแบบชุดไทย 8 ชุด และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯโปรดกระหม่อมให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค เป็นผู้คิดตั้งชื่อชุดให้เหมาะสมกับแบบชุดนั้น ๆ ได้นำชื่อพระตำหนักและพระที่นั่งต่าง ๆ มาใช้เป็นชื่อชุดไทยต่าง ๆ ทั้ง 8 ชุด โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของแบบ ตลอดจนโอกาสในการเลือกใช้ชุด สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นผู้นำในการแต่งกายชุดไทยพระราชนิยมในโอกาสต่าง ๆ เสมอ ประชาชนต่างตามเสด็จใช้ชุดไทยแบบต่าง ๆ กัน
แพร่หลายขึ้น และนิยมเรียกชุดไทยแบบต่าง ๆ ว่า “ชุดไทยพระราชนิยม”
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2547 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทูลเกล้า ฯ ถวายปริญญาศิลปกรรมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาศิลปะการออกแบบพัตราภรณ์ แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาประจำปี 2546 ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยพระองค์ทรงปรีชาสามารถในสรรพวิทยาการหลายสาขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างสรรค์งานศิลปวัฒนธรรม ทรงเน้นคุณค่าและสร้างสรรค์งานศิลปวัฒนธรรมและศิลปหัตถกรรมมานานกว่า 30 ปี โดยมีพระราชประสงค์เพื่อช่วยกระจายรายได้ไปสู่ราษฎรอย่างทั่วถึง ช่วยให้คนชนบทสามารถพึ่งตนเองได้ ทรงมีพระอัจฉริภาพและพระปรีชาชาญด้านอนุรักษ์ฟื้นฟู และส่งเสริมการทอผ้าประเภทต่าง ๆ ตลอดจนการออกแบบเครื่องแต่งกายชุดไทยให้เป็นไปตามประเพณีที่ดีงาม พระองค์ฉลองพระองค์ชุดไทยพระราชนิยมเป็นแบบอย่างและเผยแพร่ในประเทศและในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ จนผ้าไทยและชุดไทยพระราชนิยมเป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย และได้รับการชื่นชมทั่วไป กล่าวได้ว่า พระองค์ทรงมีส่วนอย่างสำคัญในการช่วยธำรง และเชิดชูเอกลักษณ์ความเป็นไทย ให้ธำรงอยู่จวบจนปัจจุบัน
ชุดไทยเรือนต้น
เป็นชุดไทยพระราชนิยมแบบหนึ่ง สำหรับใช้ในโอกาสลำลอง ไม่เป็นพิธีการ เช่น งานกฐิน งานทำบุญต่างๆ ผ้าซิ่นมีริ้วตามยาว หรือขวางยาวจรดข้อเท้า ป้ายหน้า สีของเสื้อจะกลมกลืนหรือตัดกันกับ ผ้าซิ่นก็ได้ เป็นชุดคนละ ท่อน แขนสามส่วนผ่าอก กระดุมห้าเม็ดคอกลมตืนไม่มีขอบ เครื่อง ประดับ ที่ใช้นิยมติด เข็มกลัดขนาดใหญ่พอสมควร เหนืออกเสื้อด้านซ้าย ตุ้มหู ต้องเป็นแบบติดกับใบหู สร้อยคอประเภท ไข่มุกหรือ สร้อยทองสามสาย ไม่ต้องคาดเข็มขัด
ชุดไทยจิตรลดา
สำหรับใช้ในพิธีกลางวัน ใช้ผ้าไหมเกลี้ยง มีเชิง หรือ ยกดอกทั้งตัว ผ้าซิ่นยาวป้ายหน้า คนละท่อนกับตัวเสื้อ ซึ่ง แขนยาว ผ่าอก คอกลม มีขอบตั้งน้อยๆ สำหรับงานพระราชพิธีนิยมเครื่องประดับ ที่หรูหรา ขึ้น ไม่ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์และไม่ต้องคาดเข็มขัด ควรประดับด้วย สร้อยคอ ติดกระดุมทอง สร้อยข้อมือ และต่างหูให้สวยงาม
ชุดไทยอมรินทร์
สำหรับงานพิธีตอนค่ำ ไม่คาดเข็มขัด ใช้ผ้ายกไหม ที่มีทองแถบ หรือยกทอง ทั้งชุด ผู้สูงอายุใช้คอกลมกว้าง ไม่มีขอบตั้ง และแขนสามส่วนได้ เครื่องประดับ เป็นชุดสร้อยคอ ต่างหู สร้อยข้อมือ กระดุมทอง และสร้อยข้อมือ ซึ่งเลือกใช้ ให้เหมาะสม กับงานเฉพาะ วันเฉลิมพระชนมพรรษา หญิง ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ชุดไทยบรมพิมาน
ใช้ในพิธีตอนค่ำ ที่ใช้เข็มขัดใช้ยกผ้าไหม หรือ ยกทอง มีเชิงหรือยกทั้งตัวก็ได้ เป็นชุดติดกัน ซิ่นมีจีบยกข้างหน้า ยาวจรดข้อเท้า ที่ชายพก ใช้เข็มขัดไทยคาด เสื้อแขนยาว คอกลม มีขอบตั้ง ผ่าด้านหน้า หรือด้านหลังก็ได้ ชุดไทยแบบนี้ นี้ใช้ในงานเต็มยศ หรือครึ่งยศ งานเลี้ยงอย่างเป็น ทางการใช้ เครื่องประดับงดงาม เป็นชุดที่เจ้าสาวนิยมใช้ใส่ในการเข้ารับ พระราชทานน้ำสังข์ หรือพิธีรดน้ำสังข์ ชุดนี้ต้องคาดเข็มขัดทอง ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สวมสร้อยคอ ต่างหู สร้อยข้อมือและเกี้ยว ประดับผม
ชุดไทยดุสิต
เน้นการปักตกแต่งเสื้อ ผ้าซิ่นยกไทยหรือทอง คาดชายพก ด้วยเข็มขัดไทย ตัวเสื้อแบบคอกลมกว้าง ไม่มีแขน ผ่าหลังปัก แต่งลวดลาย ที่ตัวเสื้อใช้ในงานพระราชพิธี ที่กำหนด ให้แต่งเต็มยศ เป็นอีกชุดที่ เจ้าสาว นิยมใช้เป็นชุด ในงานเลี้ยง ฉลองสมรส ควรสวม สร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหู และเข็มขัด โดยใช้เครื่องประดับ ที่เป็นชุดกัน
ชุดไทยจักรี
เป็นชุดไทยแบบหนึ่งของชุดไทยพระราชนิยม ใช้ในพิธีเต็มยศงานราตรี ผ้านุ่งจีบยกข้างหน้ามีชายพก คาดเข็มขัดไทย และห่มสไบ ผ้ายกเป็นแบบมีเชิง หรือยกทั้งตัว ท่อนสไบ จะเย็บติดกับซิ่นหรือแยกต่างหากก็ได้ เปิดบ่าข้างหนึ่ง ชายสไบคลุมไหล่ ทิ้งชายยาวด้านหลังพอสมควร เหมาะกับพิธี เลี้ยงฉลองสมรส สามารถ สวมเครื่องประดับทองครบชุด อันได้แก่ สร้อยคอ สร้อยสังวาล สร้อยข้อมือ ต่างหู รัดแขน และเข็มขัด เป็นต้น
ชุดไทยศิวาลัย
ใช้ผ้ายกไหมหรือยกทอง ตัดแบบติดกันซิ่นยาวจีบ หน้านางมีชายพก ใช้เข็มขัดไทยคาด ตัวเสื้อแขนยาว คอกลม มีขอบตั้ง เล็กน้อย ผ่าหลัง ตัวเสื้อตัดติดกับซิ่นคล้ายแบบไทย บรมพิมาน แต่ห่มผ้า ปักลายไทยใช้ในโอกาสพิเศษ ที่กำหนดให้ แต่งกายเต็มยศ เจ้าสาวของ ไทยมักนิยมใส่ชุดไทยชุดนี้ ในพิธีรดน้ำสังข์หรือพิธีเลี้ยง ฉลองงานใน ตอนค่ำ และมักประดับด้วยเครื่องประดับทองได้แก่ สร้อยคอ สร้อยสังวาล เข็มขัด ต่างหู และรัดเกล้า
ชุดไทยจักรพรรดิ
ใช้ผ้ายกทั้งตัว มีเชิงยกไหมทองหรือดิ้นทอง ผ้าซิ่นจีบ หน้านางมีชายพกคาด เข็มขัดไทย แล้วห่มสไบ ปักด้วยดิ้นและพลอย ทับบนสไบอัดจีบใช้เครื่องประดับสวยงามที่สุด เจ้าสาวโดยทั่วไป นิยมสวมใส่ชุดไทยชุดนี้ในงานเลี้ยงช่วงค่ำ และมักประดับด้วยสร้อยคอ สร้อยสังวาล สร้อยข้อมือ เข็มขัด รัดเกล้า และต่างหู
ที่มา:http://krununticha.blogspot.com/2013/06/blog-post_21.html
by TVPOOL ONLINE