เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 28 พ.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของ นายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ ผู้เสียหายที่ถูกรุมทำร้ายนั้น ล่าสุดทางด้าน นพ.ดุสิต ศรีสกุล ผอ.โรงพยาบาลลานนา พร้อมด้วย นพ.ราชันย์พัทธ์ วรเวชานนท์ ศัลยแพทย์เข้าของผู้ป่วย เปิดเผยว่า คนไข้ได้เข้ามารักษาตัวตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.59 ที่ผ่านมา ซึ่งในวันดังกล่าวนั้นพบว่ามีอาการบาดเจ็บที่ตาด้านซ้าย แก้มด้านซ้าย บวมปูด มีรอยช้ำบริเวณคอด้านซ้าย และแขนทั้ง 2 ข้าง และจากการตรวจร่างกายโดยการเอ็กซเรย์วินิจฉัยแล้วพบว่ามีปัญหาอยู่ 4 อย่างด้วยกัน คือ ดังจมูกหัก และเนื่องจากมีตาบวมปิดและผู้บาดเจ็บระบุว่าตามองเห็นเป็นสีส้ม ซึ่งแพทย์ทางด้านสายตาก็ได้ทำการตรวจวินิจฉัยคาดว่าเป็นเส้นประสาทตาเสียแบบชั่วคราว ซึ่งในจุดนี้อาจจะต้องมีการตรวจพิเศษอีกครั้ง เพื่อดูว่ารางสายตาดีแค่ไหน และอีกปัญหาคือเรื่องฟัน ที่มีปัญหาคือฟันบิ่นฟันโยก ซึ่งทางหมอฟันก็ได้ให้การดูแลอยู่ และเรื่องสุดท้ายคือเรื่องสมอง ที่ทางแพทย์ทางระบบศัลยกรรมประสาทได้ทำการตรวจ CT SCAN แล้วพบว่าไม่มีเลือดออกในสมอง และพบว่าในตอนนี้คนไข้อาการก็ดีขึ้นมากแล้ว และจะได้ดำเนินการให้ยาเพื่อลดอาการบวมของเส้นประสาทตาอยู่ รวมถึงการตรวจเพิ่มเติมด้านสายตา ส่วนระยะเวลาในการรักษานั้นคาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 4-6 สัปดาห์ และขึ้นอยู่กับคนไข้ด้วยว่ามีผลแทรกซ้อนหรือไม่
ทางด้าน นางปุนยวัจนา วรรคาวิสันต์ มารดาของ นายอิศราชนุวัฒภ์ ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ตอนนี้อาการของลูกชายภายหลังจากที่ออกจากห้องผ่าตัดเมื่อคืนนี้ก็พบว่าดีขึ้นมากแล้ว แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องของสายตา เนื่องจากทางหมอบอกว่าถูกของแข็งทุบเข้า ที่บริเวณขมับด้านซ้าย ส่งผลกระทบต่อเส้นประสาท ซึ่งทางหมอยังไม่ได้รายงานชัดเจน ว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่หมอบอกว่าไม่ต้องห่วง ในเรื่องของสายตาคงไม่ถึงกับบอด แต่ที่น่าห่วงที่สุดคือลูกชายอาจจะใช้สายตาได้ไม่ปกติเหมือนคนทั่วไป และคาดว่าน่าจะให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อีก 1-2 วันนี้
ขณะเดียวกันทางตนก็รอให้ทางผู้ชายชื่อ “บอล” มาติดต่อรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ อยากเจอหน้าพูดคุยด้วย ซึ่งส่วนตัวตนอยากฝากบอกให้นาย “บอล” ออกมารับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป เนื่องจากตนเชื่อว่านาย “บอล” เป็นคนทำ เพราะลูกชายยืนยันว่าในวันเกิดเหตุนั้นนาย “บอล” เป็นคนสั่งการ รวมถึงทุกคำพูดที่พูดกับลูกชายระวังถูกรุมทำร้ายนั้น ตนก็ได้ยินทุกคำพูด แม้กระทั่งตอนที่ลูกชายขอร้องให้หยุดแต่ก็ยังลงมือต่อ อีกทั้งยังสั่งให้คนลากลูกของตนออกจากร้านไป ซึ่งตนพูดได้ในฐานะคนเป็นแม่ว่ารู้สึกเจ็บปวดแทน เมื่อได้ยินเสียงลูกขอความช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งตรงนี้ตนอยากให้ทางนาย “บอล” ออกมาชี้แจงและรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปโดยเร็วที่สุด
by TVPOOL ONLINE
