เมื่อ 25 พ.ย. ฮินดูสถานไทมส์ รายงานความคืบหน้าการสอบสวนคดีค้าทารกในรัฐเบกอลตะวันตก ภาคตะวันออกของประเทศอินเดีย พบทารกวัยเพียง 6 วันถูกซุกซ่อนในกล่องกระดาษสำหรับบรรจุซองขนมกรุบกรอบ เตรียมลักลอบนำออกจากโรงพยาบาลเพื่อขายให้กับคู่สามีภรรยาที่ไม่มีลูก เจ้าหน้าที่ยังระบุเชื่อว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีทารกมากกว่า 30 คนถูกขายให้กับครอบครัวในกรุงนิวเดลี เมืองเจนไน รัฐทมิฬนาฑู และข้ามทวีปไปยังอังกฤษ
ในคดีดังกล่าวตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 13 คน ฐานตั้งแก๊งอาชญากรรมค้าเด็ก หลังนำกำลังบุกค้นโรงพยาบาลในเมืองพาทุเรีย ห่างจากเมืองโกลกาตา ราว 80 ก.ม.
แหล่งข่าวทีมสอบสวนพบว่า สถานพยาบาล 2 แห่งในโกลกาตา และอีกแห่งในเมืองพาทุเรีย อยู่ในวงจรการค้าเด็กดังกล่าว เริ่มจากการมองหาเหยื่อที่ฐานะยากจนและมีลูกสาวอยู่ก่อนแล้ว จากนั้นเมื่อใช้วิธีวินิจฉัยก่อนคลอดด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงดูครรภ์แล้วก็จะอ้างกับเหยื่อว่า เด็กที่อยู่ในครรภ์เป็นผู้หญิงอีก หมอไม่แนะนำให้ทำแท้ง แต่ทางสถานพยาบาลจะช่วยดูแลเด็กให้แทน
ต่อมาเมื่อทำคลอดเด็กแล้วก็จะหลอกแม่เด็กว่า ทารกเสียชีวิตแรกเกิด โดยพาไปยืนไว้อาลัยในห้องเก็บศพ แต่ไม่ให้เห็นร่างเด๋ก จากนั้นจึงส่งตัวทารกไปยังนายสัตยาจิต สิงหะ และนายอุตปาละ พญาพารี ผู้ตั้งองค์กรเอกชน ทำหน้าที่ขายเด็กต่อไป
คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสระบุจากคำให้การของผู้ต้องสงสัย ว่าการขายเด็กดังกล่าวโรงพยาบาลจะได้เงินราว 300,000 รูปี หรือกว่า 150,000 บาท สำหรับเด็กผู้ชาย ส่วนเด็กผู้หญิงมีราคาต่ำกว่าที่ 50,000 บาท แต่สามารถขึ้นราคาได้อีกหากเด็กมีผิวพรรณสะอาดสะอ้าน และหน้าตาน่ารัก
ทั้งนี้ อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่เผชิญวิกฤตอาชญากรรมค้าเด็ก ในแต่ละปีอินเดียมีคดีเด็กหายเฉลี่ย 135,000 คน โดยระหว่างปี 2544-2556 มีเด็กมากกว่า 10,500 คนถูกแจ้งความว่าหายสาบสูญในรัฐรัฐฉัตตีสครห์ เพียงรัฐเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเหยื่อส่วนใหญ่ถูกลักพาตัวไปเป็นแรงงานทาส
ที่มา – khaosod