เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันก่อน “แก้ว จริญญา ศิริมงคลสกุล” เพิ่งออกมาให้สัมภาษณ์เปิดทาง “ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” รีเทิร์นอยู่แหม่บๆ แต่พอผู้สื่อข่าวสอบถามหนุ่มป้อง เจ้าตัวกลับบอกว่าข่าวเขียนกันไปเองทั้งนั้น เพราะตนไม่เคยบอกว่าจะรีเทิร์นแก้ว ก่อนเปิดใจถ้าจะรีเทิร์นจะเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าคบกันแล้วเลิกอีกครั้งจะตลกมาก

“เปล่าครับ จริงๆ เขียนกันไปเองครับ ผมไม่ได้พูดว่าจะรีเทิร์นหรืออะไร ก็อย่างที่บอกพูดไปเดี๋ยวจะเบื่อกันเปล่าๆ ก็เหมือนเดิมครับ เป็นคนรู้จักกัน ตอนที่เลิกกันก็ไม่ได้โกรธได้แค้นอะไรกัน เจอหน้ากันก็ทักทายกันได้ปกติ”

“รูปที่ดูสนิทมันก็สนิทกันจริงๆ เพราะว่าเราก็เคยคบกันใช่มั้ย เราก็รู้จักกันมาหลายปี มันก็เป็นเรื่องและช่วงนี้น้องเขาเล่นกล้อง เหมือนถ่ายแล้วเป็นยังไงบ้าง คือมันเป็นรูปช็อตเดียวเองมันก็ไม่สามารถเล่าอะไรได้ทุกอย่าง

บอกอนาคตไม่รู้ แต่ถ้ากลับมาคบแล้วเลิกมันดูตลกเหมือนเล่นขายของ
“น้องบอกว่ายังไงนะ 50 – 50 เหรอ คือ ผมก็ไม่รู้หรอก อย่างที่บอกอนาคตก็ไม่รู้จะเป็นยังไง แต่ตอนนี้ก็ดีๆ กันอยู่ คือ เราเคยเลิกกันไปแล้ว ถ้าจะกลับมาคบกัน แล้วต้องเลิกอีก ผมว่ามันดูตลก มันดูเหมือนเล่นขายของแล้ว คือ ถ้าเราจะกลับมาคุยกัน มันต้องจริงจัง และซีเรียส มันเลยเป็นเรื่องที่ใหญ่และยากเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราต้องดูให้ชัวร์และมั่นใจดีกว่า ตอนนี้เราก็ใช้ชีวิตกันปกติ”

“คุยกันตอนนี้ผมว่าก็ต่างนะครับ คนเราเวลาเปลี่ยนมันก็เปลี่ยนกันอยู่แล้ว ทั้งน้องทั้งผมเลย น้องเองก็โตขึ้น ตอนนั้นที่รู้จักกันน้องเขาเพิ่ง 19 เองมั้ง ตอนนี้ก็โตขึ้น มีกิจการร้านอาหาร ดูเปลี่ยนไปเยอะดูดี ดูพัฒนาตัวเอง ดีขึ้นเยอะ”

ไม่รีบ ให้ความรู้สึกนำ แต่ยังไม่ถึงจุดที่อยากจะกลับมา
“ก็ยังไม่ถึงจุดนั้นครับ มันต้องค่อยๆ สร้าง อย่างที่บอกตอนนี้เราเจอกันในสเตตัสไม่ได้เป็นแฟนกันเหมือนเมื่อก่อน มันก็สบายๆ ซึ่งต่างจากเมื่อก่อน ถ้าคนเป็นแฟนกัน มันก็ต้องมีหึงมีหวง อันนี้เหมือนเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกันมันก็เลยสบายๆ ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ไม่ต้องคอยระแวงกัน อย่างที่บอกว่าถ้าตัดสินใจมันก็เป็นเรื่องใหญ่เหมือนกัน ไม่ต้องรีบ ให้ความรู้สึกมันนำไป”

“ข่าวเรื่องรีเทิร์นก็คุยกันครับ เราก็คุยกันเรื่อยเรื่อยๆ คุยบ้างไลน์บ้าง แต่ไม่ได้โทร.บ่อย น้องเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร บอกว่าไปอ่านที่สัมภาษณ์สิ (ยิ้ม) อย่างวันที่น้องเปิดร้านไก่ก็ยังไม่ได้ไปเลย เพราะติดถ่ายละครอยู่ ที่เขาเรียกว่าอะไรล่ะ คือไม่ต้องถึงกับเคลียร์คิวละครแล้วไปปุ๊บ คนเราคบกันสบายๆ เป็นเพื่อนกัน ว่างก็ไป ไม่ว่างก็ไปวันหลัง อย่างนี้ผมว่ามันสบายใจทั้งสองฝ่าย ถามว่ายังหวงความโสดของตัวเองหรือเปล่าก็ไม่ได้หวงนะครับ ถ้าตอนนี้ถามผม ผมว่าการเป็นโสดสบายกว่าครับ

แฮปปี้ในตอนนี้ที่สถานะไม่เหมือนเดิม
“มีเพื่อนๆ ผมมากกว่า ก็บอกว่าอะไรยังไงนะ คือ น้องเขาอาจจะไม่เอาก็ได้ ก็คุยกันไปครับ คือวันหนึ่งถ้าน้องเขาจะไปมีแฟน ผมจะไปมีแฟน มันก็ไม่ใช่เรื่องผิด มันก็เปิดโอกาสตลอดนะครับ ไม่งั้นจะไปเจอกันเหรอ ไปทำบุญ ไปโน่นไปนี่ไปนั่น เจอกันก็แฮปปี้ดี มีความสุขแต่ก็อย่างที่บอกสถานะไม่ได้เหมือนเดิม เป็นอย่างนี้มันก็สบายดี ถ้าเกิดกลับไปเหมือนเดิม กลัวเดี๋ยวจะมีปัญหา”

“ตอนคบกันเราก็ไปทำบุญปกติ อย่างที่บอกแหละ ตอนนี้ยังไม่รู้อะไร คบกันให้สบายๆ ก่อน ถ้าเกิดมันใช่ค่อยว่ากัน ถามว่า ได้เจอพ่อแม่น้องเขาบ่อยมั้ยไม่ค่อยได้เจอ เจอล่าสุดตอนงานแต่งงานพี่สาวเขา คุณพ่อน้องแก้วน่ารักมาก ใจดีเหมือนเดิม ห่วงใยเหมือนเดิม คุณแม่ก็น่ารัก แต่คุณพ่อเขาอายุเท่าๆ กับคุณพ่อของผม ผมก็จะถามเรื่องสุขภาพตลอด เราเห็นพ่อแม่เรายังไง คนอายุ 72 ก็จะห่วงนิดหนึ่ง ส่วนคุณแม่ยังเด็กก็สบายๆ”

ซึ้งเลย! มีลูกเป็นภาระ เที่ยวลั้ลลาไม่ได้
“พ่อผมคนจีน ก็ยังอยากให้มีลูกชายเพราะใช้นามสกุลเขา เดี๋ยวนี้มีหลานก็ลืมๆ ไปบ้าง เพลินๆ เลี้ยงหลานไป ตอนนี้ผมก็ได้เล่นกับหลานบ่อย คือบ้านผมสร้างอยู่ก็เลยย้ายมาอยู่บ้านพี่สาวชั่วคราว ก็เลยแบบว่าตื่นนอนก็เจอ ก่อนนอนก็เจอ ได้เจอนางทั้งวัน”

“ผมว่ามันสนุกตอนเล่นนะ แต่เห็นพ่อแม่เขาเลี้ยง เราเป็นน้าเล่นๆ เบื่อๆ เวลาอึ งอแงเราเดินหนีได้ (หัวเราะ) แต่ถ้าเป็นลูกเราหนีไม่ได้ ผมว่ามันเป็นหน้าที่ยิ่งใหญ่และยากเหมือนกัน มันต้องทุ่มเทเวลาจะไปลั้ลล้าไม่ได้ พอได้อยู่บ้านกับพี่สาวได้เรียนรู้เลยว่าภาวะว่ะ ถ้ามีลูก (หัวเราะ)ถามว่าอยากมีมั้ยก็อยากมีสักคนนะ คนเดียวก็พอไหว แต่หาเมียก่อนเนอะ”

ศึกษาชีวิต “มอส – แท่ง” สุขเหงาคนละแบบ เข้าใจเวลาแห่งความสนุกใกล้จะหมดแล้ว แต่แฮปปี้กับชีวิตอิสระในตอนนี้
“อยากมีลูกหรือเมีย เราเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนี้ผมก็คุยกับเพื่อนรุ่นเดียวกันที่ยังไม่แต่งงาน เราเลือกให้ชีวิตแบบนี้ เราต้องยอมรับบางคนชอบเป็นเพื่อนกับลูก ลูกอาจจะโตไม่ทันเรา เราก็คิดไปอีกแนวไป พอแก่เราก็ต้องเก็บเงินให้เขาเรียน มันก็ต้องชดเชยกัน เราเลือกแบบนี้ เพราะถ้าเราเลือกแบบนั้นก็คงแต่งตั้งแต่ 20 กว่าแล้ว”

“อย่างผมเจอ พี่แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ ก็มีมุมที่แกมีความสุข มุมแกแอบเหงาก็มี เราต้องดูตัวอย่างรุ่นพี่หลายๆ คน อย่าง พี่มอส ปฏิภาณ ก็แต่งตอน 38 ก็มีลูก มีครอบครัวที่น่ารัก ตัวอย่างมีอยู่เราก็ดูว่าเราชอบแบบไหนมากกว่า คนเรามันก็มีเวลาของมันอ่ะเนอะ สักวันหนึ่งพอมันแก่ก็คงไม่ได้ดูดีอย่างนี้ไปตลอด มันเป็นสัจธรรม การมีครอบครัวอบอุ่น มีลูกมันก็ดี แต่ว่าความสุขของคนมันไม่เหมือนกัน อย่าไปตัดสินว่าใครผิดหรือถูกบางคนชอบแบบนี้มีครอบครัว มีลูก บางคนชอบโสด อิสระ ชอบท่องเที่ยว อยู่ที่เราชอบแบบไหนมากกว่า ตอนนี้ก็ชอบแบบอิสระก็ดี แต่ก็เข้าใจว่าเวลาแห่งความสนุกใกล้จะหมดแล้ว (หัวเราะ) พอคนอายุเท่าผมจะคิดแล้วว่ามันจะยังไงดี”

เคยอยากแต่งก่อน 30 แต่เปลี่ยนใจ
“มันเคยวางแผนไว้ตั้งแต่อายุ 20 ปลายๆ แล้วแหละ เดี๋ยว 30 ค่อยว่ากัน พอ 30 ก็บอกเดี๋ยว 32 เดี๋ยว 34 ก็เลือกไม่ค่อยได้แล้ว พูดตรงๆ เดี๋ยวนี้ถ้าไปจีบเด็กๆ ก็ไม่กล้าแล้ว กลัวเขาหาว่าลุง (หัวเราะ) จริงๆ มันไม่เหมือนเดิม มันรุ่มร่ามมากกว่าเดิมวัยรุ่นมากก็ไม่ได้ มันก็ตามวัยครับ”

ไม่อยากน้ำเน่าเรื่องแก้ว ถ้าใช่จะบอกว่าใช่ไม่ปิดบัง
ส่วนแก้วโตแล้วก็ดีครับ ไม่อยากให้คนอ่านข่าวว่าไอ้นี่มันน้ำเน่าหรือเปล่าวะ อย่างที่บอกมันไม่มีอะไร ถ้ามีอะไรเดี๋ยวบอกแน่นอน มันไม่มีอะไรหรอกครับ ก็เป็นเพื่อนๆ กันนี่แหละ ไม่ค่อยมีใครจับตามอง ยังไปไหนมาไหนเหมือนเดิม ไปทำบุญคนยังรู้เลย ไม่ได้ซีเรียสอะไร เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ สัมภาษณ์ผมมา 10 ปี ถ้าเป็นผมก็บอกเป็น หรือต้องให้ร่วมงานกันจะสปาร์ก (หัวเราะ) หรือต้องอย่างนั้น”

ที่มา – MGR Online VDO