เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีมีการแชร์เรื่องราวของหนุ่มวิศวกรที่มีพฤติกรรมชอบรับประทานอาหารตามใจปาก เช่น ของที่มีไขมัน ดื่มชากาแฟ และชอบนั่งไขว้ขาจนเกิดเจ็บป่วย ซึ่งเรียกได้ว่าเกือบเอาชีวิตไม่รอดมาเตือนกัน เพราะว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เรามักมองข้ามกัน ซึ่งคนโพสต์ไม่ใช่ใคร คือ ภรรยาของหนุ่มวิศวกรนั่นเอง

ล่าสุด วันที่ 14 ธ.ค. นางฐพัชญ์ แก้วแหวน ซึ่งโพสต์เรื่องราวของสามีคือ นายมานะ แก้วแหวน อายุ 41 ปี หนุ่มวิศวกรที่เกือบเสียชีวิต เพราะพฤติกรรมตามใจปาก และชอบนั่งไขว้ขาท่าเดิม ๆ ไว้เป็นอุทาหรณ์กับเพื่อน ๆ ทางเฟซบุ๊ก Thapatch Kaewvaen และมีการแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก

นางฐพัชญ์ เล่าว่า ประมาณเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา อยู่ดี ๆ ขาข้างขวาตั้งแต่เท้าจนถึงเหนือข้อเท้ามาเล็กน้อยของสามีก็บวม โดยไม่ทราบสาเหตุ เป็นอยู่ราว ๆ 2-3 อาทิตย์ จึงซื้อยามากินเอง เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้เส้นอักเสบ แต่ไม่หายจึงไปหาหมอ ผลตรวจอัลตร้าซาวด์ปรากฏว่ามีลิ่มเลือดอุดตันบริเวณข้อเท้าด้านหน้า และด้านข้าง 2 จุด คาดว่าเกิดจากนิสัยการนั่งไขว้เท้าบ่อยๆ จนบริเวณนั้นบาดเจ็บ บวกกับเป็นคนนิสัยเรื่องกินของมัน ของหวาน น้ำอัดลมจัดเต็มตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้ผลตรวจเลือดมีคอเลสเตอรอลสูงด้วย เลือดจึงหนืดมากทำให้มีลิ่มเลือดไปอุดตัน หมอต้องให้ยาละลายลิ่มเลือดเพื่อรักษา

แต่ด้วยความที่ไม่มีความเจ็บปวดอะไร สามีก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิม กินยาบ้างไม่กินบ้าง จนมาวันนึงอยู่ดี ๆ กลับจากทำงานก็บ่นว่าปวดหัว ความดันพุ่งไป 170 แต่ยังกินข้าว กินขนมอะไรปกติ พอดึกๆ สามีทั้งอาเจียน ทั้งถ่ายเราก็นึกว่าอาหารเป็นพิษก็ให้คาร์บอนกินแล้วก็นอน พอเช้ามีอาการตัวร้อนมาก หนาวสั่น ที่อาการหนัก คือ ขาขาข้างขวาบวมแดง เปลี่ยนสีแบบน่ากลัวมาก จึงพาส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ หมอตรวจพบว่าค่าเลือด ค่าไต และค่าอะไรทั้งหลายไม่ดีกลัวว่าจะช็อค เนื่องจากมีการอักเสบที่จุดเดิมจนติดเชื้อในกระแสเลือด จนถึงวันนี้รักษาตัวมาเดือนกว่าแล้ว ขายังบวมอยู่ หมอแนะนำวิธีป้องกันว่าให้ขยับตัวบ่อย ๆ อย่านั่งท่าเดิมนานๆ ลุกเดินเปลี่ยนท่าทางบ้าง เปลี่ยนนิสัยการกิน ที่โพสต์ลงเฟซบุ๊กเพราะอยากเตือนเพื่อน ๆ ว่าอายุเยอะกันแล้วยังกินไม่บันยะบันยังเลย มันส่งผลต่อความเจ็บป่วยหลายอย่าง ที่สำคัญอย่าซื้อยามาทานเอง ควรไปพบแพทย์จะดีกว่า

ด้าน พ.ญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ที่ปรึกษาศูนย์อำนวยการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า การเกิดลิ่มเลือดไปอุดตันที่บริเวณขานั้นสามารถเกิดขึ้นได้ สาเหตการเกิดลิ่มเลือดมีหลายปัจจัย ได้แก่ การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่มีไขมันมาก ๆ หากลิ่มเลือดล่องลอยไปอุดตันบริเวณเส้นเลือดที่ตีบแคบก็สามารถทำให้เกิดการอักเสบได้ แต่ถ้าเป็นอวัยวะที่ไม่สำคัญก็ไม่อันตราย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เกิดไปอุดตันบริเวณก้านสมอง หัวใจ ทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณดังกล่าวไม่เพียงพอ ก็ทำให้เกิดอันตรายแน่นอน หรือคนที่เป็นเส้นเลือดขอดที่ขาก็เสี่ยงที่จะมีลิ่มเลือดอุดตันได้ เพราะเส้นเลือดคดงอ ซึ่งป้องกันด้วยการหมั่นออกกำลังกาย และดูแลเรื่องอาหารการกิน

ที่มา – เดลินิวส์

by TVPOOL ONLINE

TV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool Online