1. Moonlight
กวาดรางวัลมาแล้วหลายสถาบัน และมีลุ้นอย่างมากบนเวทีลูกโลกทองคำและออสการ์ 2017 เรื่องราวของ Moonlight เล่าการค้นหาตัวเองของชาวหนุ่มเชื้อสายแอฟริกันอย่าง ไชรอน ที่ต้องเผชิญกับปัญหาจากการที่ตัวเองเป็นเกย์และคนผิวสี โดยคาแรคเตอร์นี้สวมบทโดยนักแสดง 3 คน แบ่งเรื่องราวออกเป็น 3 ช่วงเวลาตั้งแต่ช่วงวัยเยาว์ในไมอามี่ ไปจนถึงช่วงที่เขากลายเป็นแก๊งขายยาข้างถนน ซึ่งนอกจากเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมกินใจแล้ว ทีมนักแสดงสมทบก็ถือว่าเป็นจุดแข็งของเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น อันเดร ฮอลแลนด์ (André Holland), นาโอมี แฮร์ริส (Naomie Harris), มาเฮอชาลา อาลี (Mahershala Ali) และจาแนลล์ โมเน่ (Janelle Monáe)
2. Paterson
อดัม ไดร์เวอร์ (Adam Driver) ฝากฝีมือการแสดงอันน่าทึ่งในบท แพเทอร์สัน คนขับรถบัสบนในเมืองแพเทอร์สัน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งระหว่างที่เขาทำกิจวัตรเหมือนเดิมทุกวัน สิ่งที่เขามักทำอยู่เสมอคือการเขียนบทกวีลงในสมุดโน้ตติดตัว ขณะที่ภรรยาของเขาก็มักเพ้อฝันถึงชีวิตอันสวยงามอยู่เป็นประจำ โดยผู้กำกับของเรื่องอย่าง จิม จาร์มูช (Jim Jarmusch) ต้องการสื่อสารกับคนดูว่า สิ่งที่เราทุกคนทำในเวลาว่าง สามารถบอกตัวตนของเราได้อย่างไร
3. Loving
สร้างจากเรื่องจริงของคดี Loving v. Virginia บนศาลสูงสหรัฐเมื่อปี 1967 ซึ่งเป็นที่มาของการยกเลิกกฎหมายห้ามการแต่งงานข้ามเชื้อชาติ ในเรื่องนี้ โจเอล อีเกอร์ตัน (Joel Edgerton) รับบทเป็นชายผิวขาวที่รักกับสาวผิวสีซึ่งรับบทโดย รูธ เนกการ์ (Ruth Negga) โดยทั้งสองคนต้องต่อสู้กับกฎหมายอันไม่เป็นธรรมในรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งกีดกันการแต่งงานข้ามเชื้อชาติ
4. Elle
หนังจากฝรั่งเศสที่ถูกจับตาในฐานะตัวเก็งออสการ์ 2017 สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม เดินเรื่องผ่านนักธุรกิจหญิงที่ถูกท้ายร้ายและโดนข่มขืนในบ้านของตัวเอง โดยเธอตัดใจสินใจตามล่าคนที่ทำแบบนั้นกับเธอ และตามเอาคืนให้สาสมด้วยน้ำมือของเธอเอง นี่คือผลงานของผู้กำกับ พอล เวอร์โฮเว่น (Paul Verhoeven) ที่เคยฝากผลงานมาแล้วใน Basic Instinct
5. Silence
ผลงานเต็งรางวัลของผู้กำกับ มาร์ติน สกอร์เซซี (Martin Scorsese) ที่พูดถึงความศรัทธาและความหมายของพระเจ้า ผ่านการเดินทางของ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ (Andrew Garfield) และอดัม ไดรเวอร์ (Adam Driver) ในบทบาทหลวงหนุ่มชาวโปรตุเกส ที่เข้าไปยังประเทศญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 17 เพื่อเผยแพร่ศาสนาคริสต์ โดยทั้งคู่ต้องตามหาอาจารย์ที่หายตัวไป ท่ามกลางบรรยากาศของความรุนแรงและการถูกกดขี่ข่มเหง
6. Manchester by the Sea
นำแสดงโดย เคซีย์ แอฟเฟล็ค (Casey Affleck) น้องชายของ เบน แอฟเฟล็ค (Ben Affleck) ที่กลายเป็นตัวเก็งออสการ์ 2017 เป็นที่เรียบร้อย ในเรื่องนี้เขารับบทเป็นชายที่ต้องเดินทางกลับบ้านเกิด หลังจากพี่ชายของเขาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน โดยนอกจากความเสียใจต่อการจากไปของพี่ชายแล้ว สิ่งที่เขาต้องทำคือการดูแลหลานชายกำพร้าพ่ออย่างดีที่สุด แม้มันจะไม่ใช่สิ่งที่เขาเต็มใจเลยก็ตาม
7. Tower
หนึ่งในหนังสารคดีที่โดดเด่นที่สุดแห่งปี 2016 สร้างจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญในวันที่ 1 สิงหาคม 1966 เมื่อมือปืนปริศนาซุ่มยิงผู้คนลงมาจากหอนาฬิกาในมหาวิทยาลัยเท็กซัส จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 16 คน สารคดีเรื่องนี้นำเสนอโดยใช้แอนิเมชั่นจำลองเหตุการณ์ ผสมผสานกับฟุตเทจและคำบอกเล่าของผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์จริง
8. La La Land
หลังฝากฝีมือมาแล้วในเรื่อง Whiplash ผู้กำกับ เดเมียน ซาเชลล์ (Damien Chazelle) กลับมาอีกครั้งกับหนังแนวมิวสิคัลอย่าง La La Land นำแสดงโดยสองดารานำ เอ็มม่า สโตน (Emma Stone) และไรอัน กอสลิ่ง (Ryan Gosling) ที่ออกมาร้อง เล่น เต้นระบำ เล่าการพบกันของนักเปียโนแจ๊ซกับสาวสวยที่กำลังล่าฝันสู่การเป็นนักแสดง ท่ามกลางฉากหลังสุดโรแมนติกของเมืองลอสแอนเจลิส
9. Everybody Wants Some!!
ผลงานของผู้กำกับ ริชาร์ด ลิงก์เลเทอร์ (Richard Linklater) ที่พาเราย้อนกลับสู่ยุค 1980 กับเรื่องราวของทีมเบสบอลหนุ่มวัยมหาลัย ที่ต้องมาใช้อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ก่อกำเนิดเป็นมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่เต็มไปด้วยความโปกฮา จนหลายคนยกให้ Everybody Wants Some เป็นหนังฟีลกู๊ดที่สุดแห่งปี
10. The Shallows
หนังสุดระทึกของ เบลค ไลฟ์ลี่ (Blake Lively) ที่ต้องแบกรับความกดดันไว้คนเดียวทั้งเรื่อง ในเรื่องนี้เธอรับบทนักโต้คลื่นสาวที่ถูกฉลามขาวสายพันธุ์แกร่งจู่โจมในน้ำตื้น แม้หนังเรื่องนี้จะไม่ถูกจับตาในฐานะตัวเก็งรางวัล แต่หนังเรื่องนี้จะติดอยู่ในความทรงจำของใครหลายคนแน่นอน