เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ใครเรียนกฎหมายอยู่น่าเก็บข่าวพวกนี้ไว้อ่านมาก มันจะเห็นภาพ ป.อ.และป.วิ.อ. ชัดเลย

จริงๆอยากอ่านคำพิพากษาฉบับเต็มนะไม่รู้จะมีการตีพิมพ์ได้หรือเปล่า เพราะอันนี้นักข่าวเขาสรุปมาให้อีกที ซึ่งผมก็จะมาสรุปต่อจากเขาอีกที

คดีนี้เกิดช่วงวันที่ 19 ตุลาคม 2556 ที่คุณเอ็กซ์ จักกฤษณ์ ถูกยิง หลังเกิดเหตุตำรวจก็สืบสวนสอบสวนจนได้หลักฐานนำมาสู่การฟ้องศาล 31 มกราคม 2557 ใช้เวลาการสืบสวนอยู่ราวๆ1-3 เดือน

ซึ่งข้อหาที่ฟ้องเป็นข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) รับโทษประหารชีวิตสถานเดียว หมอนิ่มให้การปฏิเสธว่ามิได้กระทำผิดขอต่อสู้คดีในลักษณะนั้น ซึ่งตามกฎหมายแล้วในคดีที่มีอัตราโทษขั้นต่ำตั้งแต่ 5 ขึ้นไป( ป.วิ.อ. มาตรา 176) ไม่ว่ารับสารภาพหรือต่อสู้คดีก็ต้องมีการสืบพยานต่อหน้าศาลว่าจำเลยกระทำความผิดจริงๆ

ซึ่งแน่นอนหมอนิ่มเลือกที่จะสู้ อาจจะเพราะเป็นผู้บริสุทธิ์หรือไม่สำนึกผิดชอบในบาปก็ไม่อาจทราบถึงจิตใจคนได้จึงต้องมีศาลมาตัดสิน การสู้คดีมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ข้อดีคือถ้าชนะก็รอดคุก แต่ถ้าแพ้หมายถึงชีวิตเพราะศาลสั่งได้แค่ประหารสถานเดียวตามกฎหมาย

โดยปกติเวลาเราทำผิดกฎหมายหากรับสารภาพในชั้นศาลๆอาจจะเมตตาลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าเลือกสู้คดีการลดโทษก็จะไม่มี(ยกเว้นให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอาจจะลดได้ 1 ใน 3 แบบมือปืนที่ยิงคุณเอ็กซ์)

คดีนี้แม่หมอนิ่มมารับสารภาพต่อศาลว่าตัวเองเป็นผู้จ้างวานเองมิใช่หมอนิ่ม ถ้าเป็นคดีอื่นๆอาจจะยุติการสืบพยานต่อหน้าศาลไปแล้วแต่คดีนี้ระวางโทษประหารชีวิต ศาลต้องฟังพยานเล่าให้หมดทุกปาก และได้ผลสรุปว่า “ศาลไม่เชื่อ” ว่าแม่หมอนิ่มจ้างวานฆ่า
เพราะพยานมีลักษณะคำเบิกความกลับไปกลับมาหลายรอบไม่น่าเชื่อถือ ชั้นตำรวจให้การแบบหนึ่ง ชั้นศาลก่อนสืบพยานให้การแบบหนึ่ง พอมาสืบพยานก็ให้การอีกแบบหนึ่ง

ทางนำสืบตำรวจและอัยการพิสูจน์ว่าหมอนิ่มวางแผนฆ่ามาตั้งแต่ช่วงเดือน สิงหา- ตุลา ปี2556 ก่อนจะก่อเหตุในเดือนตุลาคม 2556

มีบางช่วงก็น่าเห็นใจคือหมอนิ่มเองก็นับเป็นผู้เสียหายจากการถูกกระทำด้วยความรุนแรงภายในครอบครัว คือผู้ตายได้พาหญิงอื่นมาค้างที่บ้าน, การไม่ให้เกียรติหมอนิ่ม ผลักศีรษะหมอนิ่มและท้าทายให้เลิกกันต่อหน้าหญิงอื่น

แต่ก็นั้นแหละครับสิทธิตามกฎหมายขอหมอนิ่มคือการฟ้องดำเนินคดีกับเอ็กซ์ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ข้อความผิดตามพรบ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งล้วนเป็นคดีอาญาและมีวิธีการพิจารณาคดีแบบละมุนละม่อมมากกว่านี้

ถ้าไปตั้ง “ศาลเตี้ย” ตัดสินคนอื่นกฎหมายไม่คุ้มครองสิทธิแล้วล่ะครับ เรื่องนี้มันก็อยู่ที่มือกฎหมายหรือทนายคนใกล้ชิดด้วยว่าเขามีวิธีคิดแก้ปัญหาให้ลูกความอย่างไร

นอกจากนี้ทางนำสืบยังมีการพิสูจน์หมายเลขโทรศัทพ์ที่ก่อเหตุว่าหมอนิ่มติดต่อกับกลุ่มก่อเหตุเป็นระยะๆ(เป็นพยานแวดล้อม ถ้าถึงขั้นต้องไปสืบเสียงสนทนาประกอบว่าคนนั้นคนนี้สั่งฆ่าจริงๆ คงมีแต่เทวดาเท่านั้นแหละทำได้)

จำเลยที่ 1 มือปืน ศาลจำคุกตลอดชีวิต(ให้การเป็นประโยชน์เพราะซัดทอดผู้ว่าจ้าง)
จำเลยที่ 2 แม่หมอนิ่ม ศาลยกฟ้อง(แม้ให้การซัดทอดตัวเองว่าเป็นคนทำก็ตามเนื่องจากศาลไม่เชื่อ)
จำเลยที่ 3 หมอนิ่ม ศาลสั่งประหารชีวิต
จำเลยที่ 4 ทนายอี้ด ศาลสั่งประหารชีวิต(คนประสานงานมือปืน)
จำเลยที่ 5 คนขี่มอไซด์ก่อเหตุ ศาลจำคุกตลอดชีวิต(ให้การเป็นประโยชน์ซัดทอดผู้ว่าจ้าง)

เครดิต ทนายคู่ใจ

TV Pool Online