เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ยังจำพี่ชายวัย 13 ปีที่ต้องเลี้ยงน้องป่วยเป็น “เจ้าหญิงนิทรา” ที่มีสำนักข่าวหลายแห่งนำเสนอเรื่องราวชีวิตที่แสนลำบาก ที่น้องสาวอายุ 5 ปี จู่ๆ ก็ป่วยมีอาการเกร็งแล้วกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไม่สามารถช่วยตัวเองได้ พ่อไม่สามารถทำงานได้ต้องมาเฝ้าลูก ขณะที่แม่ต้องทำงานคนเดียว ที่สำคัญพี่ชายอายุ13 ปี ต้องออกไปบิณฑบาตกับพระ เพื่อนำข้าวมาให้พ่อแม่และน้องรับประทานประทังชีวิต เนื่องจากรายได้ไม่พอ อยากให้สังคมช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 60 นายภาณุ การลึกสม นายกสมาคมส่งเสริมทักษะและพัฒนาอาชีพคนพิการเสนา อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา แจ้งผู้สื่อข่าวว่า พบครอบครัวยากจน พ่อเลี้ยงลูกสาวพิการป่วยไข้สมองอักเสบ ลูกชายต้องตื่นเช้าตามพระรับบิณฑบาต หลังจากนั้นนำอาหารกลับมาบ้าน อยู่กับยายอายุ 83 ปี และแม่ทำงานเป็นแม่บ้าน หาเงินรักษาลูกเพียงคนเดียว ทั้งหมดอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 79/3 หมู่ 2 ต.เจ้าเสด็จ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงพร้อมด้วย นายเฉลิมชัย สระบัว ปลัดอาวุโสอำเภอเสนา นายชัชชัย กิตติไชย ผู้อำนวยการมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ภาคกลาง เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทหาร เทศบาล เดินทางไปตรวจสอบ พบบ้านสภาพทรุดโทรม ฝาบ้านเป็นสังกะสีผุๆ พื้นบ้านปูด้วยไม้เก่าๆ หลังคาบ้านสภาพทรุด ภายในบ้านพบ นางศรีนวล เกตุโชติ อายุ 83 ปี และนายรังสรรค์ ดวงดารา อายุ 42 ปี กำลังเลี้ยงลูก ด.ญ.ลลิดา เกตุโชติ หรือน้องน้ำ อายุ 5 ปี ป่วยไข้สมองอักเสบ เจาะช่องคอไว้หายใจและดูดเสมหะออก เจาะช่องท้องต่อสายให้อาหาร น้ำ และยา มีอาการเกร็งและพลิกคว่ำปิดท่อหายใจ พ่อต้องคอยดูแลตลอดเวลา คอยนวดและคลายกล้ามเนื้อ

นายรังสรรค์ เปิดเผยว่าที่บ้านอยู่กัน 5 คน คือ น.ส.มณฑา เกตุโชติ อายุ 40 ปี ภรรยา ทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่โรงพยาบาลเสนา ด.ช.วราวุธ ดวงดารา อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนเสนาประสิทธิ์ ส่วน น้องน้ำ อายุ 5 ปี เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนเทศบาลวัดเจ้าเจ็ดนอก และนางศรีนวล เกตุโชติ อายุ 83 ปี แม่ของภรรยา ทั้งนี้ น้องน้ำ เป็นเด็กร่าเริง พูดเก่ง ชอบเต้นและรำ แต่เมื่อประมาณ มี.ค. 59 ช่วงบ่ายขณะครูที่โรงเรียนปลุกให้ตื่นหลังนอนกลางวัน แต่น้องน้ำ กลับไม่ตื่นและมีอาการชักเกร็ง ครูจึงนำส่งโรงพยาบาลเสนา ตรวจสอบพบด้านหลังศีรษะยุบเป็นรอย แต่ครูยืนยันว่าเด็กไม่ได้ล้มศีรษะฟาด แพทย์รักษาไม่หายลงความเห็นว่าเป็นไข้สมองอักเสบ ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กทม. แต่ยังหาสาเหตุไม่พบ จึงต้องรักษาไปตามอาการและไปพบแพทย์ตามนัด

“ที่ผ่านมาใครว่าหมอที่ไหนดีก็ไปรักษามาทั่ว หมอดู เข้าทรงก็ไปแต่ก็ไม่หาย ตอนนี้ทำใจ จะดูแลน้องน้ำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะฐานะที่บ้านยากจน จึงอยากมีรายได้เสริมช่วยภรรยา ส่วนลูกชายต้องตื่นแต่เช้ามืดไปช่วยพระบิณฑบาต แล้วพระให้กับข้าวกลับมากินที่บ้าน และบ้านก็ทรุดโทรมมากอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วย” นายรังสรรค์ กล่าว

เพราะตอนนี้ไม่สามารถที่จะไปทำงานรับจ้างทั่วไปได้เหมือนก่อน ส่วนแม่เป็นลูกจ้างชั่วคราวของรพ.เสนา มีรายได้เดือนละ 7 พันบาท ทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายสูงมากต้องซื้อแพมเพิสเยอะมาก เพราะลูกช่วยตัวเองไม่ได้ อาหารก็ต้องซื้อผักฟักทอง กล้วยตามที่แพทย์สั่งนำมาบด ทำให้ครอบครัวลำบากมาก ตนอยากให้ลูกฟื้นมาเหมือนคนอื่น ทุกวันยังมีความหวังเวลาเห็นเพื่อนๆ ลูกไปโรงเรียนก็จะแอบไปเสียใจร้องไห้ประจำ

จึงวอนชาวเน็ตช่วยเหลือ ถือเป็นของขวัญในวันเด็กปีนี้ ให้น้องทั้งสองได้มีความสุขในทุกๆวัน และเป็นกำลังใจให้ทั้ง พ่อและแม่ของน้องทั้งสองได้สู้ต่อไป

ทางด้าน นายชัชชัย กิตติไชย ผู้อำนวยการมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ภาคกลาง ได้มอบเงินสด 10,000 บาท เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น ขณะที่ นายเฉลิมชัย ปลัดอาวุโสอำเภอเสนา กล่าวว่า ทางอำเภอจะช่วยเหลือเรื่องอาชีพเสริมให้ เจ้าหน้าที่มาดูว่าทำอะไรที่เหมาะสมและขายได้ ส่วนเรื่องซ่อมแซมบ้านระเบียบราชการช่วยเหลือได้ 20,000 บาท ทางเทศบาลจะเร่งซ่อมให้บางส่วนก่อนและจะคอยดูแลช่วยเหลือต่อไป

ทั้งนี้ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถช่วยเหลือบริจาคได้ที่บัญชี น.ส.มณฑา เกตุโชติ ธนาคารกรุงไทย สาขาศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เลขบัญชี 9806697103.

TV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool Online