เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
        ขึ้นแท่นเป็นคู่รักคู่ลุ้นที่แฟนๆ ต่างเชียร์ให้วิวาห์ในอันดับต้นๆ ของวงการ ก็คู่ของพระนางวิกหมอชิต อย่างสาว “กรีน-อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล” และหนุ่ม “เคลลี่ ธนะพัฒน์”
        แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีอุปสรรคขัดขวางอยู่บ้างด้วยเรื่องของผู้ใหญ่ไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ก็เคลียร์กันจนจบ โดยอาศัยความรักความจริงใจความจริงจัง จนตอนนี้ก็ได้ไฟเขียวผ่านตลอดไปแล้วที่ผ่านมามีคนขยับถามอยู่เรื่อยเรื่องงานวิวาห์ ซึ่ง “สาวกรีน” ก็มักจะตอบว่า ยังเด็กอยู่ ยังเรียนไม่จบ เรียนจบแล้วอาจจะลองทบทวนดูอีกที อ้าว!! ตอนนี้ “สาวกรีน” ก็เรียนจบแล้วนี่ มิน่าล่ะเลยได้ยินเสียงกระซิบกระซาบฝากลมหนาวที่ไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่มาว่าปีหน้าคู่ของ “กรีน-เคลลี่” อาจมีลุ้นมีข่าวดี แถมได้ยินมาว่าทางคุณแม่ของ “หนุ่มเคลลี่” ก็เร่งอยากให้แต่งงานสักที เพราะถูกใจว่าที่สะใภ้คนนี้เอามากๆ 
อั้ยย่ะ! ข่าวลือนี้จะเป็นความจริงหรือไม่หรือเป็นแค่ข่าวลือโคมลอยเดี๊ยนได้ยินแล้วต่อมอยากรู้อยากเห็นเริ่มทำงานอาการคันเริ่มกำเริบ งั้นคงต้องไปฟังจากปากของทั้งคู่ค่ะ เริ่มจากฝ่ายหญิงก่อน
Q: ใกล้ปีใหม่แล้วปีนี้วางแพลนไปเที่ยวไหนกับ ‘เคลลี่’ คะ
กรีน: “ปีใหม่ คิดว่าจะรับงานต้องเก็บเงินค่ะ ก็ถามพี่เคลลี่ ว่าจะไปไหนมั้ย เค้าก็บอกว่าให้รับงานเลย เพราะว่าพี่เคลลี่เค้าเหมือนจะรับงานเพราะเค้าก็ต้องดูช่องจานดาวเทียมของเค้า ก็คงหนักเหมือนกัน”
Q: ต่างคนต่างทำงานเยอะแล้ว ‘เคลลี่’ ยังทำธุรกิจอีกแบบนี้ จะมีเวลาสวีทหวานแหววเหรอ
กรีน: “เวลาสวีทก็มีบ้าง คุยกันตลอด เพราะว่าเราอยู่กับผู้จัดการคนเดียวกันและเดี๋ยวจะมีคอนเสิร์ตในวันที่ 20 ธ.ค.ของ 7 สีคอนเสิร์ตอยู่แล้ว วันนั้นคงมากันเยอะ ในอีเว้นท์เราก็เจอกัน”
Q: ปีใหม่รับงานแต่ว่าหลังจากนั้นมีแพลนชวนไปเที่ยวไหนบ้างรึเปล่า
กรีน: “กำลังดูๆ อยู่ เราก็คุยๆ กับกลุ่มผู้จัดการว่าจะไปไหนดีต้องดูเวลาของคนอื่นๆ คิดไว้อยากไปฮ่องกง ช่วงนี้พี่เคลลี่เค้าจะสุดๆ กับมอเตอร์ไซค์มากค่ะ แต่ก็เป็นความชอบของเค้าเหมือนให้รางวัลกับตัวเอง เพราะว่าเค้าเหนื่อยและทำงานค่อนข้างเยอะ เค้าก็รู้สึกชอบและเหมาะกับสภาพแวดล้อมกรุงเทพฯ ที่รถติด” (หัวเราะ)
Q: มีชวนเราไปนั่งซ้อนเที่ยวไปด้วยกันบ้างมั้ย
กรีน: “เค้าก็ซื้อที่ให้กรีนซ้อนได้อยากให้กรีนซ้อนตลอด ซื้ออุปกรณ์ให้เราซึ่งราคาสูงมาก แต่ว่ายังไม่มีโอกาสได้ซ้อนเลย คือที่ไม่ได้ซ้อนไม่ใช่ว่ากลัวนะ เห็นพี่เค้าขี่เซฟมาก และเค้าเป็นคนค่อนข้างระวัง เค้าพยายามซื้ออุปกรณ์อย่างดีเพื่อป้องกันให้กับเราด้วย เค้าก็ดูแลอย่างดี แต่ไม่มีเวลาซ้อนสักที”
Q: หวานกันจัง มิน่ามีข่าวออกมาว่าปีหน้าอาจมีลุ้น ‘กรีน-เคลลี่’ จะมีข่าวดีเรื่องแต่งงาน
กรีน: “ยังไม่มีนะคะ สำหรับเรื่องแต่งงานก็ยังไม่ได้คิด เรื่องตรงนี้ คือกรีนรู้สึกว่าเพิ่งเรียนจบ และอยากทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันมากกว่านี้”
Q: เรามีกำหนดไว้มั้ยว่าอายุเท่าไหร่จะแต่งงานหรือว่าไม่ได้กำหนดเรื่องนี้
กรีน: “ไม่ได้กำหนดว่าอายุเท่านี้ต้องแต่งงานหรือว่ามีลูก คือถ้าอายุ 35 อาจจะคิดหนักอีกทีก็ได้”
Q: ถ้าแต่งงานช้าไม่กลัวว่าจะมีลูกยากเหรอเพราะ ‘เคลลี่’ อายุเยอะแล้วนะ
กรีน: “ไม่เคยคิดเรื่องตรงนี้เลยค่ะ แต่มีคนถามเหมือนกัน แต่พี่เคลลี่เค้าเป็นสไตล์ฝรั่ง เรื่องมีลูกก็ไม่รู้ว่าเค้าคิดอะไรขนาดไหน แต่เรื่องชีวิตครอบครัวเราก็อยากจะสานต่อตระกูลเรานามสกุลนี้ นามสกุลเค้าต่อไป แต่ถ้าไม่ได้มีลูกก็ไม่ซีเรียสค่ะ เพราะว่ายังไงก็ยังมีเด็กกำพร้าที่เราสามารถรับเลี้ยงดูได้”
Q: ‘เคลลี่’ มีเกริ่นเรื่องแต่งงานกับเราบ้างมั้ย
กรีน: “ยังไม่มี ตอนนี้เค้าละครเยอะ ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ แต่ว่าความสัมพันธ์เราก็ยังคงประคองกันไปเรื่อยๆ”
Q: ได้ยินมาว่าเราเรียนต่อโทเหรอ
กรีน: “เรียนจบตรีแล้วตอนนี้ก็ต่อโทแล้วค่ะ ที่มหา วิทยาลัยเดิม พระจอมเกล้าพระนครเหนือ แต่เปลี่ยนคณะเป็นบริหารธุรกิจ”
Q: ทำไมถึงเลือกเรียนด้านบริหารธุรกิจนี้คะ
กรีน: “เป็นด้านบริหารธุรกิจนะ เพราะว่าตอนเรียนตรี กรีนเรียนเกี่ยวกับด้านดีไซน์ออกแบบภายในมา เราสามารถออกไปทำอาชีพอิสระได้ แต่ถ้าเกิดวันนึง เราต้องการจะมีบริษัท ต้องบริหารคนเราต้องเรียนทางด้านบริหารธุรกิจเราจะได้รู้ทันคน คือไม่ใช่แค่งานออกแบบหรือไอเดียอย่างเดียว เป็นเรื่องของรายรับรายจ่าย เรื่องของมูลค่า เรื่องของตีราคานู่นนี่นั่น ต้องรู้เรื่องข่าวสารพวกนี้ เลยลองเรียนดู”
Q:  ‘เคลลี่’ ให้คำแนะนำอะไรมั้ยเรื่องเรียนโทนี้
กรีน: “พี่เคลลี่ไม่ได้ให้คำแนะนำ เพราะว่ากรีนตัดสินใจก่อนที่จะบอกเค้า (ยิ้ม) เค้าก็บอกเรียนทำไม เพราะเค้าเห็นกรีนเรียนตรีมาหนักหกปี แล้วเราบ่นว่าเมื่อไหร่จะเรียนจบสักที อยากทำงานเต็มที่ อยากเล่นละครสองเรื่องเต็มที่ ไม่ใช่หายๆ ไป ไม่ใช่เรียนเหนื่อย แต่พอดีเรียนโทเหนื่อยแต่ว่าไม่เหมือนเรียนตรีที่เรียนทุกวัน อาทิตย์นึงเรียนแค่วันเดียวเรียนเช้ายันเย็น แถมอีกหกวันเรารับงานอย่างอื่นได้ ไม่อยากปล่อยให้ตัวเองฟุ้งซ่านโดยที่แบบว่าเราทำงานไปเรื่อยๆ คือถ้าเราไม่ได้เรียนเราก็จะลืมตัวหนังสือ ไม่ได้อ่านได้อะไรแบบนี้ แต่อย่างน้อยถ้าเรียนเราได้เจอเพื่อนๆ ได้อ่าน ได้เขียน ได้จดจำคjะ”
Q: แสดงว่าวางแผนทำไรในอนาคตใช่มั้ยคะ
กรีน: “คือตอนนี้กำลังคิดเรื่องธุรกิจส่วนตัวว่าจะทำอะไรดี บอกตรงๆ คงไม่ได้ทำออกแบบภายในโดย ตรงอยู่แล้วคงต้องประยุกต์ อาจทำอะไรเกี่ยวกับการออกแบบ คิดว่าตอนนี้กำลังคิดจะมีแบรนด์เป็นของตัวเอง กำลังคิดอยู่ว่าจะทำแบรนด์อะไร และเราก็ใช้ไอเดียที่เรามีอยู่สร้างความแตกต่างเพราะเดี๋ยวนี้คนก็มีแบรนด์ของตัวเองกันได้ง่ายๆ แต่ความแตกต่างและความโดดเด่นมันค่อนข้างจะหายาก โดดเด่นและมีคุณภาพในสินค้ายิ่งหายากไปใหญ่ 
กรีนคิดว่าน่าจะเป็นจุดแข็งเรา เลยเรียนโทเพื่อมาเสริมในด้านนี้ก็คิดกับน้องอยู่เพราะน้องก็เรียนมาทางด้านนี้แต่ยังติดเรียนอยู่ ค่อยๆ คิดค่อยๆ ทำไป เคยคิดอยากทำเสื้อผ้าเหมือนกัน แต่อยากลองทำสิ่งที่แตกต่างดูก่อน อยากทำอะไรที่ไม่เหมือนใคร”
Q: ถ้าเราทำธุรกิจจะชวน ‘เคลลี่’ ทำด้วยมั้ย
กรีน: “พี่เคลลี่เค้ามีธุรกิจของเค้าแล้ว ช่วงนี้พี่เคลลี่ เค้างานเยอะ ส่วนของกรีนก็เรื่อยๆ”
ฝ่ายหญิงบอกแล้วว่ายังไม่มีแพลนแต่ง แต่ใครจะรู้ฝ่ายชายอาจจะยังซุ่มเงียบรอเซอร์ไพรส์ขอแต่งปีใหม่นี้ก็ได้นะ งั้นคงต้องไปถามสักหน่อยคะ
Q: ตอนนี้ ‘กรีน’ ทั้งทำงานและเรียนโทส่วน ‘เคลลี่’ ก็งานเยอะแบบนี้แบ่งเวลาให้กันยังไงบ้าง    
เคลลี่: “ก็คุยกันตลอดนะครับ นี่พอเค้าจบตรีก็ต่อโทเราก็ดีใจกับน้องมากๆ ที่เรียนจบตรี เพราะเราได้เห็นความตั้งใจของน้อง ที่ผ่านมาด้วยหน้าที่การงานและเค้าแบกการเรียนไปด้วยก็ค่อนข้างจะหนักพอสมควรเพราะการเรียนไม่ใช่แค่การเรียนหนังสือแล้วไปสอบแต่เค้าก็ต้องมีงานอะไรอีกเยอะ เราก็เห็นเค้าไม่ได้หลับไม่ได้นอน พอเห็นเค้าจบเราก็ดีใจ เพราะเค้าจะได้สบาย แต่พอจบเค้าก็เรียนโทต่อเลย (ยิ้ม) เราก็พยายามช่วยเท่าที่จะช่วยได้ครับ” 
Q:  คบกันมาก็นาน เมื่อไหร่จะมีข่าวดีสักที
เคลลี่: “เวลามีคนมาถามเรื่องแต่งงานผมยังตอบอะไรไม่ได้เพราะต้องรอให้น้องเรียนจบก่อน ตอนนี้น้องเรียนโทอีก เรารอได้อยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้น้องก็ทำงานและเรียนไปด้วย ไม่ได้ซีเรียส อยากให้น้องได้เต็มที่กับสิ่งที่เค้าอยากจะทำ ถ้าพร้อมก็คงเมื่อนั้นเลยครับ” 
Q: แม่ของ ‘เคลลี่’ ไม่มีเร่งให้แต่งงานเหรอ    
เคลลี่: “คุณแม่ก็ไม่ได้เร่งแต่งงานอะไร เหมือนเค้ารอเรามานานจนกลายเป็นเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นไปแล้ว”
ต๊าย!!…ตอน “กรีน” เรียนป.ตรีเราก็ลุ้นว่าเดี๋ยวเรียนจบคงมีข่าวดีเรื่องแต่งงาน แต่พอเรียนจบตรีปุ๊บก็เรียนต่อโทปั๊บอีกละ อะ…อะ! งั้นจบโทเมื่อไหร่จะมาถามอีกรอบละกันนะคะว่าเมื่อไหร่แต่งค่ะ