เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่า ที่วัดประดู่ทรงธรรม หมู่ 4 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา มีการจัดงานศพให้กับผู้ที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนจนเสียชีวิต แต่จู่ๆ ปรากฏว่า ผู้ที่ถูกระบุว่าเสียชีวิต กลับโผล่มาและยืนยันตัวเองว่ายังมีชีวิตอยู่ ทำให้ทางญาติถึงกับงงไปตามๆ กัน ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง พบว่าที่ศาลาธรรมสังเวท ภายในวัดประดู่ทรงธรรม ถูกปิดอยู่โดยไม่มีญาติของผู้เสียชีวิตอยู่เลย มีเพียงนายประสาน มีสมโรจน์ อายุ 58 ปี สัปเหร่อของวัดนั่งอยู่ เมื่อเปิดศาลาพบว่า ภายในมีการจัดเครื่องตั้งและหีบศพประดับด้วยดอกไม้อย่างสวยงาม ส่วนผู้เสียชีวิตที่อยู่ในโลงเย็นใกล้กันนั้น ระบุว่าเป็นนายกฤษณะ สุขกลิ่น อายุ 44 ปี

นายประสาน เปิดเผยว่า นายนตรี พันธุ์ชงค์ อายุ 45 ปี เป็นผู้ติดต่อนำศพของผู้เสียชีวิตมาไว้ที่วัด ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุในใบมรณะบัตรเป็น นายกฤษณะ สุขกลิ่น น้องชายคนละบิดากัน ซึ่งถูกรถชนเสียชีวิต บริเวณถนนสายอุทัย-หนองน้ำส้ม หน้า หจก.เอสรีไซเคิล อ.อุทัย เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ม.ค.60 ซึ่งตอนที่นำศพมานั้น มีเอกสารใบมรณะบัตรถูกต้อง จึงดำเนินการตามขั้นตอนจนถึงการสวดพระอภิธรรมศพในคืนแรก คือ วันที่ 25 ม.ค. จนกระทั่งเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ตอนสายก็ได้รับแจ้งจากนายนตรีว่า จะไม่สวดศพของนายกฤษณะแล้ว เนื่องจากนายกฤษณะยังไม่เสียชีวิต ทำให้ตนต้องปิดศาลาเอาไว้ เพื่อรอนายกฤษณะมายืนยัน และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งตั้งแต่ทำหน้าที่สัปเหร่อมา 30 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าคนที่อยู่ในโลงเย็นเป็นใคร

ต่อมานายนตรี พร้อมด้วยนายกฤษณะ ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ อินทสูตร รองสว.สอบสวน สภ.อุทัย เพื่อลงบันทึกประจำวันและยืนยันว่า นายกฤษณะไม่ได้เสียชีวิต ซึ่งทางตำรวจได้รับเรื่องและตรวจสอบเอกสาร พร้อมทั้งรายงานผู้บังคับบัญชา โดย ร.ต.อ.พิเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากที่นายกฤษณะมายืนยันตนเอง ก็จะต้องประสานกับทางสถาบันนิติเวช เพื่อรับศพกลับไปและตามหาญาติ ส่วนการที่มีการเข้าใจผิดว่า นายกฤษณะเสียชีวิตนั้น เกิดจากการที่นายกฤษณะเดินทางไป จ.นครสวรรค์ โดยขึ้นรถไฟ แล้วทำกระเป๋าสตางค์ตกหายเมื่อหลายวันก่อน จากนั้นเกิดเหตุชายไม่ทราบชื่อถูกรถชนเสียชีวิต เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เป็นคนเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง และพบบัตรประชาชนของนายกฤษณะในกระท่อมริมถนนใกล้ที่เกิดเหตุ จึงทำให้เข้าใจว่าผู้เสียชีวิต คือ นายกฤษณะ ซึ่งต่อมาญาติเดินทางไปรับศพก็ยืนยันว่าเป็นนายกฤษณะจึงได้นำศพกลับมา

นายนตรี เปิดเผยว่า ตนรู้สึกดีใจที่น้องชายไม่ได้เสียชีวิต ทั้งนี้หลังเกิดเหตุพอทราบข่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นน้องชายก็ตกใจ เนื่องจากมีบัตรประชาชนใกล้ที่เกิดเหตุ จึงไปดูศพและเห็นว่ามีลักษณะคล้ายจึงนำมาบำเพ็ญกุศล โดยไม่ได้ตรวจดูอย่างละเอียด และกำหนดจะฌาปนกิจในวันที่ 28 ม.ค. จู่ๆ ญาติที่ จ.นครสวรรค์ ก็โทรศัพท์มาบอกว่า นายกฤษณะน้องชายไปถึงนครสวรรค์แล้ว จึงได้พูดคุยกันและตกใจที่ไปรับศพใครมาก็ไม่ทราบ ซึ่งก็จัดดอกไม้เตรียมงานหมดเงินไปหลายแล้ว แต่ก็ถือว่าทำศพให้คนตาย จากนั้นจึงไปแจ้งความแล้วมอบให้มูลนิธินำศพกลับไปเพื่อดำเนินการสืบหาญาติต่อไป..

ที่มา – เดลินิวส์