เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

“ทับทิม มัลลิกา” โบ้ยชาวเน็ตคิดไปเองจะรีเทิร์น “ปลื้ม สุรบถ” ยันไม่รู้สึกอะไร ไม่สนอีกฝ่ายพูดแขวะ บอกอยากพูดอะไรก็พูดไปเพราะมันจบไปแล้ว เผย อดีตสามีแหย่อยากนัดกินข้าวด้วย แต่ตนไม่อยากเจอหน้า ก่อนโวหนุ่มต่างชาติรุมจีบเพียบ ถึงขนาดมีหนุ่มญี่ปุ่นวิ่งมาขอเบอร์แต่ตนปฏิเสธ ถูกใจให้เกียรติมากกว่าหนุ่มไทย

กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้งตั้งแต่อดีตคู่สามีภรรยา “ทับทิม มัลลิกา จงวัฒนา” กับ “ปลื้ม สุรบถ หลีกภัย” มีการหวนกลับมาคุยกัน ซึ่งฝ่ายชายได้ออกมาเผยแล้วว่าคุยกันตามโอกาสสำคัญๆ เท่านั้น และส่วนใหญ่คุยกันแต่เรื่องหมา ซึ่งพอเจอสาวทับทิมเจ้าตัวก็เผยว่าเป็นเรื่องจริง แต่ฝ่ายชายก็แอบแหย่อยากนัดกินข้าวแต่ตนไม่อยากเจอหน้า แถมยังอัปเดตสถานะสาวโสดว่าตอนนี้มีหนุ่มต่างชาติเข้ามารุมจีบเพียบทีเดียว

“มีคนคุยเรื่อยๆ แหละ หลังจากที่เป็นโสด ก็มีคนหนุ่มๆ เข้ามาจีบเยอะนะ ก็มีหลายแบบแก่กว่าบ้าง มีลูกแล้วบ้าง เราก็เห็นเดี๋ยวนี้เป็นแบบนี้ได้เนอะ เด็กกว่าก็มี แต่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เหมือนเราเริ่มกลัวหนุ่มไทยนะ คือ ตอนนี้รู้สึกว่าคุยกับต่างชาติแล้วเขาให้เกียรติเรามาก แนวเอเชียจะคุยรู้เรื่องกว่านะ ช่วงนี้พูดเลยว่ามีทั้ง เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ล่าสุด ก็ไปเดินห่างแล้วมีหนุ่มญี่ปุ่นวิ่งมาขอเบอร์ เราก็ปฏิเสธไป เขาก็เดินกลับมาอีกรอบแล้วเขียนเบอร์กับไลน์ให้เรา ก็มีมาจีบแบบหลายๆ ประเทศค่ะ”

“ให้พูดรายละเอียดก็ตอบไม่ถูกคือรายละเอียดมันยิบย่อยเยอะค่ะ ทั้งวิธีการพูด หรือเวลาเขาจะไปเที่ยวไหนก็มีมาบอกเราก่อนทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็นแฟนกับเขา แต่เขาก็ทำให้เราสบายใจระดับหนึ่งค่ะ หนุ่มไทยไม่บอกนะว่าไปไหนๆ บางที โทร.ก็ไม่รับ เราชอบแบบเปิดเผย เวลาเราถามว่าอยู่ไหนๆ คือ ตอบได้ ไม่ชอบที่มีความลับอะไรมากมาย”

“แต่ช่วงนี้หนุ่มไทยจะเงียบๆ ทับทิมว่าเหมือนเราโดนห้อยป้ายว่าเป็นแม่หม้าย หนุ่มไทยก็เลยรู้สึกกลัวๆ หรือเปล่า ซึ่งเราไม่ได้ซีเรียสกับคำว่าหม้าย เราก็เป็นผู้หญิงโสดๆ คนใหม่ แค่นั้นเอง(ยิ้ม) มันก็ไม่มีผลนะคะ มันไม่เกี่ยว อย่างคนที่เข้ามาคุยกับเราก็รู้ว่าเราแต่งงานแล้ว แต่ว่าเขาก็ไม่ได้สนใจตรงนั้น แต่ก็คิดว่าผู้ชายเขาก็มีไปส่องบ้างแหละ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจตรงนั้น เลิกกันแล้วก็เลิกกันไป ไม่ได้มาติดใจอะไร”

รับมีแซว “ปลื้ม สุรบถ” มีสาวใหม่เยอะตั้งแต่เลิก ไม่สนโดนแขวะ บอกจบคือจบ ไม่รู้สึกอะไรแล้ว
“ที่เขามีสาวๆ เข้ามาก็พอรู้แล้ว แต่เรื่องนี้เราไม่ได้คุยกันเลย ก่อนหน้านี้อย่างน้องเนเน่เราก็มีแซวเขานะว่าสาวเยอะนะตั้งแต่เลิกกัน ก็หลายคนนะตั้งแต่เลิกกัน เขาก็บอกไม่มีอะไร ทำงานด้วยกัน เป็นแซวๆ กันมากกว่าค่ะ ไม่มีที่แบบเหลือความหึงอยู่ หรืออะไรกันอยู่”

“พี่ปลื้มเขาจะทักมาตามโอกาสพิเศษ ปีใหม่ คริสต์มาส วันเกิดเราเขาก็จะทักมา 80% จะเป็นเรื่องหมาค่ะ แต่เขาก็มีคุยๆ นะว่าอยากจะทานข้าวกัน แต่เราเองไม่ค่อยอยากเจอ ถ้าเจอแล้วไม่มีอะไรดีก็ไม่เจอดีกว่าค่ะ ก็เลยเลี่ยงๆ ไป แต่ที่ไม่อยากเจอคือความเป็นผู้หญิงมันมีความรู้สึกลึกๆ ค่ะ ถึงจะเลิกกัน เราก็เชื่อใจตัวเอง เรารู้ใจตัวเองว่าลึกๆ แล้วถ้าเจอกันก็อาจจะมีนิดหนึ่ง ก็เลยไม่เอาดีกว่า แต่ไม่ได้กลัวว่าจะใจอ่อนค่ะ”

“ที่โพสต์นี่ไม่ใช่ว่าจะรีเทิร์นนะ ทับทิบว่าคนในเน็ตคิดไปเองมากกว่า จริงๆ เราลงเหมือนกับว่าเขาส่งมาให้ตั้งแต่วันเกิดเรา ตั้งแต่ 1 ธ.ค. แล้วสิ้นเดือนเขาก็มาแฮปปี้นิวเยียร์เราอีกรอบหนึ่ง เราก็เลยรู้สึกว่าหรือเราไม่ลงขอบคุณจะใจดำไปรึเปล่า ก็เลยลงขอบคุณในช่วงปีใหม่ค่ะ ทั้งๆ ที่เขาส่งมาเดือนกว่าแล้ว ไม่ได้มีนัยยะอะไรค่ะ แค่อยากลงขอบคุณเขาค่ะ”

“(เขาบอกรักครั้งต่อไปจะดูให้ดีกว่านี้?) ทับทิมไม่รู้นะว่าตอนนี้เขาอะไรกับใคร เรื่องของอารมณ์คนมันอาจจะมีอะไรทำให้เขาเปลี่ยนความคิด อันนั้นเราไม่พูด เพียงแต่ว่าถามว่าเรารู้สึกอะไรมั้ย เราไม่รู้สึกค่ะ คุณจะพูดอะไรก็พูดไป ไม่เป็นไรค่ะ แต่ว่าเรารู้สึกว่ามันจบ เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็พอแล้ว”

ยันนำต้นบอนไซไปให้ “ชวน หลีกภัย” เพราะอีกฝ่ายยังเอ็นดูตนและคุยกันอยู่
“ส่วนที่เอาต้นบอนไซ ชิมปากุญี่ปุ่น อายุ 25 ปีไปให้คุณพ่อ อันนี้ก็เป็นเรื่องสัมมาคาราวะที่เราต้องปฏิบัติค่ะ คุณพ่อเป็นผู้ใหญ่ที่อาวุโส แล้วก็เอ็นดูเรา ดีกับเราทุกเรื่อง ทุกวันนี้ก็ยังคุยกับคุณพ่ออยู่ คุยไลน์ คุยโทรศัพท์ ก็อัปเดตกันตลอดว่าเป็นยังไงบ้าง คุยกับคุณพ่อบ่อยกว่าปลื้มอีก”

ที่มา – manager