นึกว่าจะจบแต่ก็ยังจบไม่ลง ก็กรณีเพื่อนรักหักธุรกิจ ระหว่าง “บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์”ที่เคยทำธุรกิจอาหารเสริมกับนางแบบสาวรุ่นพี่ “โย-ยศวดี หัสดีวิจิตร”แล้วเคลียร์กันไม่ลงเรื่องเงินๆทองๆของแสลงใจ
ล่าสุดมีข่าวออกมาว่าสาวบีจะกลับมาฉายเดี่ยวเปิดธุรกิจใหม่ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอาหารเพื่อสุขภาพเหมือนเดิม อั้ยย่ะ!จริงอ่ะ แบบนี้คนเคยๆอย่างสาวโยได้ยินแล้วจะรู้สึกยังไงบ้างเจ็บจี๊ดมั้ยและจะกลายเป็นเรื่องเป็นประเด็นอีกหรือเปล่าต้องไปถามสาวโยกันคะ?
Q:มีข่าวว่า”บี”จะทำธุรกิจออกมาใหม่คล้ายๆธุรกิจเดิมที่เคยทำกับเราว่าไงดี
โย:”ก็ยินดีนะเพราะนักแสดงหลายๆท่านทำไปเยอะแล้วไง ก็ทำมาเป็นตัวเลือกหลายตัวเลือกสำหรับลูกค้าก็ดี ถามว่าซีเรียสมั้ยก็ไม่เคยซีเรียสตั้งแต่แรกนะจนทุกนาทีนี้ก็ใช้ความใจเย็นมาตลอด”
Q:แล้วเรื่องราวกรณีปัญหาบัญชีธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพที่เราสองคนเคยทำด้วยกันไปถึงไหนแล้ว
โย:“เขาส่งฝ่ายเขามาตรวจเช็คกับทางทีมโย สำหรับตัวโยเรามั่นใจในสิ่งที่โยทำ นะว่าทุกอย่างมันเรียบร้อย แล้วก็มั่นใจว่าทีมที่เขาพามาต้องเป็นทีมที่เก่งและต้องรู้ทุกเรื่องอย่างชัดเจน คราวนี้ก็พอเสร็จเรียบร้อยก็รอทางคุณบีพูดดีกว่าคะ”
Q:ทางเราพร้อมให้เขาตรวจสอบทุกอย่างใช่มั้ย
โย:”เขามาขนาดนี้ก็ต้องพร้อมแล้วคะ(หัวเราะ)พร้อมคะพร้อม”
“โย”เปิดปากพูดแล้วว่าพร้อมให้ตรวจสอบทุกอย่าง งั้นเรื่องราวการตรวจสอบบัญชีผลจะออกมาเป็นยังไงบ้างคงต้องไปถามที่สาว”บี”แล้วล่ะคะ
บี:“จริงๆ ในเรื่องของบัญชีอย่างที่บอกว่าบีไม่อยากเข้าไปยุ่งเลย ตอนนี้ให้คนที่สามที่ทำบัญชีจริงๆ ที่เขามีบริษัทเข้าไปดูค่ะ และเท่าที่ทราบมา ทางบัญชีบีแจ้งมาว่าเข้าไปดู 3-4 รอบแล้ว แต่ยังไม่เคลียร์นะคะ ก็รอให้ทางเขาเคลียร์ตัวเองก่อน”
Q:ทางบัญชีได้แจ้งรายละเอียดอะไรกับเรามั้ยว่าอะไรยังไง
บี:“ยังไม่พูดก่อนดีกว่าค่ะ เพราะพูดไปก็ไม่ดี รอให้มันชัดเจนจริงๆ ทีเดียว มี
หลักฐานทุกอย่าง สุดท้ายก็คงต้องมีการแถลงอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นค่ะ”
Q:ทางเขายังส่งข้อความให้เราไปเซ็นมั้ย
บี:“ไม่เซ็นค่ะ เพราะว่ามันไม่มีอะไรถูกต้องก็ยังไม่เซ็นแน่นอนค่ะ”
Q:ยืนยันว่ายังไงต้องเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อนใช่เปล่า
บี:“ในส่วนของบีบอกแล้วว่าไม่ขอยุ่งค่ะ ให้คนทำบัญชีเข้าไปดูค่ะ ฉะนั้นคนทำบัญชีของบีก็คุยกับคนทำบัญชีของเขาค่ะ”
Q:เป็นไปได้มั้ยว่าเรื่องจะยืดเยื้อไปถึงขั้นขึ้นศาล
บี:“บีว่ามันน่าจะตกลงกันได้ค่ะ เขาน่าจะยอมตกลงดีๆ กับบีค่ะ”(หลายคนมองว่าจะตกลงกันได้เหรอเพราะที่ผ่านมาก็ตกลงกันแล้วแต่ไม่สำเร็จ?)“บีว่าเดี๋ยวลองมาดูดีกว่าว่าใครพูดอะไรเอาไว้ ก็ทำอย่างที่ตัวเองพูดแล้วกันค่ะ”
Q:คาดว่าจะใช้เวลาอีกนานมั้ยกว่าเรื่องจะจบ
บี“หวังว่าจะไม่นานค่ะเพราะบีก็เบื่อมากเพราะมันนานมากเหลือเกิน และก็คนข้างนอกมองในทางด้านลบกับเรา หลายๆคนเหมือนกันจนทำให้บางคนเข้าใจผิดหรือพูดไม่ดีเกี่ยวกับเรา บีจะไม่อยากพูดอะไรทั้งสิ้น รอจนกว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นยังไง มันน่าจะเคลียร์ได้และทุกอย่างคนข้างนอกน่าจะเข้าใจว่ามันคืออะไรค่ะ มันไม่สามารถที่จะปิดเงียบๆ ได้ เพราะฉะนั้นอะไรเกิดขึ้นก็ต้องประชาชนต้องรับรู้ด้วย”
Q:ขอถามเรื่องที่มีข่าวว่าเราจะทำอาหารเพื่อสุขภาพของเราเองด้วยหน่อยสิ
บี:“อาหารคงไม่ทำค่ะเพราะไม่อยากไปทับไลน์ใครหรือมีข่าวไม่ดีอีก เพราะฉะนั้นอาจจะทำอย่างอื่นที่ตัวเองถนัด แล้วก็ในเรื่องอาหารการดูแลตัวเองก็ดูแลมาตั้งแต่เปิดบริษัท ดูแลยังไงก็ยังงั้นอยู่แล้วค่ะ”
Q:แสดงว่าเราไม่อยากเปิดธุรกิจด้านนี้แล้วเหรอ
บี:“จริงๆ ไม่เชิงไม่อยากค่ะ ก็เป็นอะไรที่เราดูแลตัวเองอย่างนี้มาตลอด ไม่ว่าจะ ทำธุรกิจอะไร ตัวเราเองก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วค่ะ ฉะนั้นเนี่ยทำไม่ทำเดี๋ยว
เป็นเรื่องอนาคตแล้วกันว่าจะทำหรือเปล่า”
Q:จะหลีกเลี่ยงไม่ให้คล้ายกับของอีกฝ่ายมั้ย
บี:“บีว่าแล้วแต่คนและลูกค้ามองมากกว่าว่าอยากจะรับสารแบบไหนมากกว่า”
Q:แล้วธุรกิจที่อยากทำในอนาคตเป็นแบบไหน
บี:“ก็คงเป็นอะไรที่เราถนัด อาจจะเป็นความสวยความงามค่ะ”(เข็ดกับการร่วมหุ้นมั้ย?)“จริงๆ คนมาชวนเยอะนะ ตั้งแต่มีเรื่องต่างๆ มากมาย ก่อนมีหรือหลังมีคนชวนเยอะค่ะ แต่อย่างที่บอกว่าต้องดูให้ดีๆ ค่ะ”
Q:มาที่เรื่องความรักบ้าง ได้ยินว่าไปงานแต่ง”ออร์แกน-ราศี วัช
ราพลเมฆ”กับ”ม.ร.ว.พันธุ์ดิศ ดิศกุล” มาเห็นบรรยากาศงานเค้าแล้ว เลยอยากแต่งมั่ง บี:“งานน่ารักมากเลยค่ะ พี่ออร์แกนเป็นเพื่อนสนิทมากตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ จะรู้ไส้รู้พุงกันหมด ทุกคนที่ไปงานเนี่ยก็เห็นว่าพี่ออร์แกนเป็นคนที่น่ารักจริงๆ การที่จะไปหัวหินและค้างคืนเพื่อไปงานแต่งของเขาไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะมารวมตัวกันครึ่งวงการแฟชั่นเมืองไทยค่ะ ฉะนั้นเป็นอะไรที่แฮปปี้มากที่คนที่รักพี่ออร์แกนและพี่ออร์แกนรักอยู่ที่นั่นจริงๆ ทั้งหมด รู้สึกแฮปปี้ไปกับพี่เขาด้วยค่ะ”
Q:เห็นงานแต่งแล้วอยากมีความรู้สึกแบบนั้นมั้ย
บี:“อยากค่ะ (หัวเราะ) อยากเหมือนกัน คือดูแล้วน่ารักมาก เราเห็นวิวัฒนาการที่ เขาคบกันต่างๆ มันดูแล้วมันประทับใจแล้วรู้สึกว่าวันนี้ที่พี่แต่งงานกันเพราะรักกันจริงๆ รักกันด้วยใจจริงๆ ค่ะ เรารู้สึกว่าพี่สาวเราโชคดี เจ้าบ่าวก็โชคดีคะ”
Q:คนที่ไปด้วยกับ”บี”อย่างหนุ่ม”ฮิม-อิสริยะ คูหาเปรมกิจ”เขาพูดหรือขอ
เราบ้างมั้ยในงานนั้น
บี:“ไม่มีค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ ก็ไปแสดงความยินดีกับพี่ออร์แกนน่ะค่ะ อยู่ในงานก็แฮปปี้ไปด้วยร้องไห้ไปด้วย ในงานมีทั้งความสุข ความชื่นใจ ความซึ้ง หลายๆ อย่างๆ ประทับใจจริงๆ”
Q:คิดว่าอีกนานมั้ยกว่า”บี”จะแต่งงาน
บี:“ก็หวังว่าจะไม่นานนะคะ (หัวเราะ) ถามว่าอยากแต่งมั้ยก็เรื่อยๆ ค่ะ ก็ต้องพูดอย่างนี้ไปก่อน”
Q:”ฮิม”เขามีเปรยๆหรือพูดๆอะไรมั้ย
บี:“ไม่มีค่ะ ไม่มีพูดอะไรทั้งนั้นค่ะ เราก็แฮปปี้ไปกับเพื่อนก่อนดีกว่า หลอกถามนิ(หัวเราะ)”
Q:แต่กับ”ฮิม”คนนี้เรามั่นใจหรือยัง
บี:“ก็อย่างที่บอกว่าเราคบกันแบบสบายๆ เป็นเพื่อนกัน คุยได้ทุกเรื่อง” (คบกี่ปีแล้ว?) “จำไม่ได้ (หัวเราะ) เริ่มเป็นข่าวตอนไหนล่ะ จำไม่ได้จริงๆ นะ ไม่ได้นับค่ะคือด้วยความที่เป็นคนสบายๆ ทั้งคู่ คุยอะไรก็สบายๆ มากกว่า มันไม่อึดอัดไม่ต้องเยอะมากอะไรมาก”
Q:ช่วงที่เรามีปัญหา เขาอยู่ข้างๆ ให้กำลังใจเราหรือให้คำปรึกษายังไงบ้าง
บี:“เขาเป็นคนนึงที่ให้คำปรึกษาที่ดีมากๆ ค่ะ แน่นอนเขาเป็นนักธุรกิจ เขารู้ว่า อะไรคืออะไรอยู่แล้วค่ะ เขาฉลาดมาก เป็นคนที่ให้คำปรึกษาที่แบบบางทีเราก็อึ้งไปเลยเหมือนกันคือว่าเขาเก่งค่ะ”
Q:แสดงว่า”ฮิม”ชนะใจเราในเรื่องนี้เลย
บี:“ก็เก่งและเป็นคนดีแน่นอน ต้องชนะใจอยู่แล้วค่ะ”
เรื่องบัญชีธุรกิจยังเคลียร์ไม่ลงตัว แต่เรื่องบัญชีหัวใจเคลียร์ได้ มีแต่กำไร ไม่มีขาดทุน อีกไม่นานคงออกดอกออกผลเป็นงานวิวาห์ใช่มั๊ยจ๊ะ สาวบี