เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

        ต้องยอมรับว่า
ผู้หญิงสมัยนี้แต่งหน้ากันมากขึ้น
ไม่ว่าจะด้วยแบรนด์เครื่องสำอางต่างทยอยออกไอเท็มใหม่ๆ ให้สาวๆ มีทางเลือกมากขึ้น
หรือจะเป็นโซเชียลมีเดียที่ช่วยสอนเรื่องเมกอัพจากเหล่ากูรู แต่หลายคนกลับลืมไปว่า
เครื่องสำอางที่ใช้อยู่ทุกวันนี้นอกจากจะทำให้ผิวเสีย และแก่ก่อนวัยแล้ว
ยังมีส่วนประกอบของสารเคมีอยู่ถึง  80-90% เสี่ยงที่สาวๆ
จะมีสารเคมีอยู่ในร่างกายมากถึงปีละ 2 กิโลกรัม


         นายแพทย์ วรพล
 สุขีวัฒนา หรือ ดร.โทนี่
ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ เผยว่า ในการแต่งหน้าแต่ละครั้ง
ผิวหนังจะซึมซับสารเคมีเข้าสู่ร่างกายถึง
60% ทำให้ผิวหน้าได้รับออกซิเจนน้อยลง เซลล์จึงเสื่อม ดูมีอายุก่อนวัย
และเกิดปัญหาผิวอื่นๆ แม้จะทำความสะอาดผิวหน้าอย่างดีก่อนนอนก็ตาม
จึงควรใช้เครื่องสำอางน้อยชิ้นและรีบล้างออกเมื่อหมดวัน
หากทิ้งไว้จะเป็นต้นกำเนิดของแบคทีเรียและทำให้เกิดการอุดตัน ในระยะยาวผู้หญิงจะซึมซับเครื่องสำอางเฉลี่ยปีละ
2 กิโลกรัม ป้องกันไม่ได้ ซึ่งจะไปสะสมที่ตับ
บางตัวยังเป็นต้นเหตุของมะเร็ง หรือทำให้ฮอร์โมนผู้หญิงลดลง
ประจำเดือนหมดเร็วอีกด้วย

และสารเคมีที่สาวๆ
จำเป็นต้องระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ พาราเบน
, ทาล, ปิโตรเลียม ดีริเวทีฟ, สารตะกั่ว
และสารปรอท ที่อาจแทรกซึมอยู่ในครีมบำรุงผิว ครีมทำความสะอาด
ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย
นอกเหนือไปจากเครื่องสำอางที่ใช้แต่งแต้มผิวหน้าทั่วไปอย่างรองพื้น แป้งตลับ
อายแชโดว์ ซึ่งสารเหล่านี้หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้ระคายเคืองผิว
เสี่ยงต่อมะเร็ง ทำให้ฮอร์โมนและภูมิคุ้มกันในเพศหญิงลดลง
และอาจทำให้ท้องผูกถ่ายเป็นเลือด อาการซีด อ่อนแรง และปัญหาผิวอื่นๆ ได้


        นายแพทย์วรพล
จึงแนะนำว่า ทางเลี่ยงที่ดีที่สุดในการใช้เครื่องสำอางพวกนี้ คือไม่ใช้มากชนิด
และทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดทุกครั้ง หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่สามารถป้องกันการซึมเข้าผิวของสารเคมีชนิดต่างๆ
จะสามารถปกป้องผิวจากสารเคมีในเครื่องสำอาง
ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและลดอัตราเสี่ยงต่อโรคร้ายต่างๆ ได้

TV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool OnlineTV Pool Online